- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 March 2016 18:43
- Hits: 467
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดด้วยความสดใสปรับตัวขึ้นทันที 6.21 จุด โดยได้แรงหนุนหลักจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และแบงก์ ด้วยการทำจุดสูงสุดของวันที่ 1396.86 จุด เพิ่มขึ้น 17.86 จุด ขณะที่กลุ่มสื่อสารเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ยังคงกดดัชนี ทำให้มีจุดต่ำสุดที่ 1385.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด ส่งให้กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันไม่กว้างมากนักอยู่ที่ 11.60 จุด สำหรับหุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ PTTEP, PTT, IRPC, AOT, SCB, TPIPL, BBL, KBANK, SCC ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1393.41 เพิ่มขึ้น 14.35 จุด (+1.04%) มูลค่าการซื้อขาย 49,374 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนสลับขึ้นวันลงวันหลังจากขึ้นทดสอบเข้าใกล้ 1400 จุด แต่การพักตัวนั้นยังสามารถทรงตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ด้วยรูปแบบของการพักตัวที่แสดงเป็นลักษณะ Sideway ออกข้าง มากกว่าที่จะปรับตัวลงแรง ๆ แต่ก็ยังคงติดแนวต้าน 1400 จุด ที่ถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้กรอบการแกว่งไม่ค่อนกว้างมากนัก แต่ด้วยภาพของดัชนีวันศุกร์ที่ผ่านมามีแนวโน้มในเชิงบวก ด้วยการยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5/200 วัน ส่งผลให้แนวโน้มของการขึ้นไปทดสอบ 1408-1420 จุด ขณะที่แนวรับ 1370-1385 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1360 // 1350 // 1340 จุด Resistance 1400// 1420 // 1430 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (11 มี.ค.) - SET Index ปิดตัวลงที่ 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด หรือ +1.04% มูลค่าการซื้อขาย 49,374.08 ล้านบาท ตลาดฯปิดตัวในแดนบวกตามตลาดฯในยุโรปที่เปิดเทรดค่อนข้างแรง และคาดยังมี Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง จาก ECB ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปิดตัวลงที่ 17,213.31 จุด ปรับตัวขึ้น 218.18 จุด หรือ +1.28% จากแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เช่นเดียวกับดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.6% ปิดที่ 342.23 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI (APR) - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 66 เซนต์ หรือ +1.7% ปิดที่ระดับ 38.5 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าบรรดาผู้ผลิตน้ำมันกำลังปรับลดกำลังการผลิตลง
เศรษฐกิจจีน - กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัว 2.7% เทียบรายปี แตะที่ระดับ 1.4188 แสนล้านหยวน (2.252 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เศรษฐกิจไทย - นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ตามที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงนั้นไม่น่าจะมีผลกระทบต่อไทยมากนัก และเห็นว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากกว่าหากเป็นการตัดสินใจดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
กลุ่มพลังงานไฟฟ้า - กพช. อนุมัติการเลื่อนจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะแรกจำนวน 600 เมกะวัตต์ (MW) เป็นภายในวันที่ 31 ธ.ค.59 จากเดิมที่ต้อง COD ภายใน ก.ย.59 ส่วนการจับรายชื่อโครงการโซล่าร์ฟาร์มราชการ-สหกรณ์ จะเป็นตามกำหนดเดิมคือ เดือน เม.ย.59
กลุ่มแบงก์ - ธปท. รายงานยอดการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในเดือน ม.ค. ปีนี้ ว่า มีจำนวนบัญชีผู้ใช้สินเชื่อทั้งสิ้น 12.9 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2.4 หมื่นบัญชี หรือ 0.2% แต่มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.22 แสนล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2,543 ล้านบาท หรือ 0.8%
ทิศทางตลาดหุ้นไทย การสูงขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นหลายแห่งตั้งแต่วันศุกร์ รวมถึงเช้านี้ เป็นการตอบรับต่อความพยายามของธนาคารกลางหลายประเทศ โดยเฉพาะ ECB ที่ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-ลงทุนและเพิ่มปริมาณเงินในระบบ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ....... ราคาพันธบัตรและค่าเงินเยนอ่อนค่าลงสะท้อนให้เห็นถึงการโยกย้ายเงินลงทุนบางส่วนกลับเข้ามายังตลาดหุ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในเวลานี้ เพราะนักลงทุนเชื่อว่าอนาคตกำลังดีขึ้นตามลำดับ ... เราประเมินตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะเคลื่อนไปในทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ คือมีโอกาสสูงขึ้นแตะระดับ 1400 จุด โดยปัจจัยสนับสนุนในประเทศจะเป็นการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆของภาครัฐฯ ......... ปัจจัยที่คาดจะมีผลในระหว่างวัน คือ ความคืบหน้าในการประชุมเรื่องการคงกำลังการผลิตน้ำมันระหว่างรัสเซีย-อิหร่าน การคาดการณ์ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและของสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ และแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นสัญญาณว่านักลงทุนระดับสถาบันนั้นยังเพิ่มเม็ดเงินเข้ามาในตลาดหุ้นต่อหรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ส่งสัญญาณบวกต่อตลาด มีเงินต่างประเทศเข้ามาในตลาดไทย การปรับฐานของดัชนีฯครั้งที่สองนับตั้งแต่ 11 ม.ค.59 เป็นต้นมา น่าจะจบลงแล้ว ดัชนีฯน่าจะขึ้นไปวิ่งในกรอบ 1400-1430 จุด ....... กลยุทธ์การลงทุน วันนี้ เราปรับมาเป็นการเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นกลุ่มนำตลาด หรือหุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศลงทุน แต่ยังคงเน้นการลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ ......... สำหรับหุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ อาทิ SCB , PTT , CPN , LH , AAV
Stock in Focus
EA : (ราคาปิด 21.60 บาท; ราคาเป้าหมายโดย KTBST 26.30 บาท) EA รายงานกำไร 4Q58 อยู่ที่ 651 ล้านบาท (-9.1% QoQ, +77.1% YoY) เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้ของโครงการโซลาร์ฟาร์ม 90 MW ที่ขยายไปในช่วง 1Q58 (จากเดิมมีอยู่ 98 MW) ผลักดันให้ฐานกำไรโดยรวมของ EA มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั้งปี 58 บริษัทฯมีกำไรรวมอยู่ที่ 2,687 ล้านบาท (+67% YoY) ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ก่อนหน้าที่ 2,703 ล้านบาท… เราคาดกำไรในปี 2559 ของ EA จะคงระดับการเติบโตได้อย่างโดดเด่นในทุกๆไตรมาส หลังบริษัท COD โครงการโซลาร์ฟาร์มเพิ่มขึ้นอีก 90 MW (โครงการรุ่น adder 6.5 บาท) ในเดือนธันวาคม 58 ทำให้ฐานกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ ขณะเดียวกัน EA ยังมีแผ่นในการ COD โครงการพลังงานลมอีก 3 โครงการ (หาดกังหัน 1 - 3) ขนาดรวมกว่า 126 MW ในปีนี้อีกด้วย ซึ่งเรามองว่าการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์และพลังงานลมดังกล่าว จะช่วยทำให้กำไรทั้งปี 59 ของ EA จะเติบโตได้สู่ระดับ 4,324 ล้านบาท (+59.9% YoY)… นอกจากนี้ในอีก 1 - 2 ปีข้างหน้า EA ยังมีกำหนดการในการ COD โครงการพลังงานลมอีก 5 โครงการ (หนุมาน 1 5 8 9 10) ขนาดรวมกว่า 260 MW ภายในสิ้นปี 60 ทำให้ผลประกอบการของ EA จะเติบโตจนถึงระดับสูงสุดในปี 61 ที่ 8 พันล้านบาทหลังรับรู้รายได้ทุกโครงการเต็มปี… EA ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.10 บาท/หุ้น จะขึ้นเครื่องหมาย "XD" วันที่ 22 มี.ค. 59 และจะจ่ายปันผลวันที่ 27 พ.ค. 59
News Release :
FSMART ย้ำรายได้โต 30% โอนเงินผ่านตู้เริ่มเม.ย.นี้
+ FSMART ยันผลงานปีนี้ตามแผน ปั๊มรายได้พุ่ง 30% ดันกำไรโตต่อเนื่อง ไม่หวั่นมีคู่แข่งรายใหม่เพิ่ม ลุยขยายตู้ "บุญเติม" สิ้นปี 90,000 ตู้ จากก.พ.อยู่ที่ 71,000 ตู้ รุกเปิดบริการใหม่ "โอนเงินผ่านตู้" เม.ย.นี้ และบริการ e-Wallet กลางปี(ข่าวหุ้น)
TRUEเสนอAISใช้คลื่นฟรี เล็งรับไลเซนส์15มี.ค.นี้
+ "TRUE" จ่ายเงินค่าประมูลคลื่น 900 MHz งวดแรกแล้ว และยื่นข้อเสนอให้ ADVANC ใช้คลื่น 5 MHz ฟรี 3 เดือน เพื่อช่วยแก้ปัญหาซิมดับ ด้านกสทช.พร้อมเป็นคนกลางเจรจา ขณะที่บอร์ดกทค.ประชุมวันนี้ คาดออกใบอนุญาตให้ทรูได้ภายใน 15 มี.ค.นี้(ข่าวหุ้น)
ผิดหวังBANPUเพิ่มทุน ถล่มขายหวั่นไดลูท50%
- ถล่มขายทิ้ง BANPU ผิดหวังเพิ่มทุนมหาศาลเท่าตัว วงการเงินย้ำ "เลี่ยงลงทุน" จ่อเกิดไดลูชั่นสูง 50% ชี้ระดมทุนลดหนี้ แต่ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม ฟากบริษัทเพิ่มทุน 2,581 ล้านหุ้น ขาย RO ราคา 5 บาทต่อหุ้นพ่วงแจกวอร์แรนต์(ข่าวหุ้น)
HMPROลั่นรายได้ปี59โต15% เป้าจัดงาน "เอ็กซ์โป" โกยยอดขาย 700 ล้าน
+ "โฮมโปร" มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่พระราม 3 เดือนพ.ค.นี้ คาดงาน HomePro EXPO ครั้งที่ 23 ตั้งแต่วันที่ 11-20 มี.ค. กวาดยอดขายทะลุ 700 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
LSTวางเป้ารายได้ปี59โต8% แตกไลน์สินค้า-ลุยตลาดAEC
+ "ล่ำสูง" ลั่นรายได้ปี 59 โต 5-8% ตามปริมาณขาย แย้มแตกไลน์สินค้ากลุ่มเนย พร้อมทั้งเดินหน้าลุยตลาด AEC หวังดันยอดขายต่างประเทศเพิ่ม ขณะที่บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลอัตรา 0.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD 3 พ.ค. และจ่าย 23 พ.ค.นี้(ข่าวหุ้น)
JUTHA ฝีพายแกร่งต่ำบุ๊ก-ไทยเทศจ้อง กำไรสะสมล้นหลาม
+ วงการชี้ JUTHA โชยกลิ่นหอมทุนไทย-ต่างชาติจ้องร่วมหุ้น หวังแตกไลน์ธุรกิจและต่อยอดธุรกิจเดิม เหตุเป็นหุ้นไซซ์เล็ก กำไรสะสมสูง 250 ล้านบาทแต่ต่ำบุ๊กแวลูที่ 4.55 บาท โชว์กลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนรุกขยายตลาดกองเรือทั้ง 6 ลำ เดินสายเซ็นสัญญาจ้างเหมายาว 6 เดือน ฟากโบรกชี้ BDI เสี่ยงทดสอบจุดต่ำสุด ชี้ "กลุ่มเดินเรือ" แตกไลน์ธุรกิจจะปลอดภัย(ทันหุ้น)
TACCฉายเดี่ยวหลุดแคช พื้นฐานแน่น-เทคนิคสวย
+ TACC หลุดบ่วงแคชบาลานซ์วันแรก (14 มี.ค.) ส่องพื้นฐานแน่นปึ้ก รายได้โตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15% ลุยลงทุนเครื่องกดน้ำอัตโนมัติเพิ่มอีก 740 เครื่อง ด้วยงบลงทุนกว่า 740 ล้านบาท ด้านกูรูชี้เทคนิคสวย ลุ้นรีบาวด์ชนแนวต้านที่ 6.45 บาท ขณะที่ TAPAC โดนขยายเวลาเพิ่ม และ AJD เข้ามาใหม่(ทันหุ้น)
MAX จ่อลุยโรงไฟฟ้า เล็งเข้าถือหุ้น 'ไซมิส'
+ MAX โวผลงานปี 2559 กลับมามีกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีหลังยอดขายเหล็กมีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาคอสังหา พร้อมบุ๊กหนี้เสียจากลูกค้าเก่าเข้ามาเป็นกำไรพิเศษ ส่วนแผนซื้อโรงไฟฟ้า 2 แห่งคาดได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 2/2559 เตรียมทุ่มงบลงทุนเข้าซื้อหุ้น "ไซมิส แอสเซท" แต่ขอศึกษารายละเอียดอีกครั้ง(ทันหุ้น)
SCCCอัดฉีด53ล้านดอลล์ ซื้อกิจการไทย-บังคลาเทศ อัพไซด์29%-เป้า365บาท
+ "SCCC" ทุ่มงบ 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อกิจการที่ทำธุรกิจปูนในไทย และบังคลาเทศ คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้ฟากโบรกส่องกำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนมองราคาหุ้นลงต่ำมาก Upside 29% เชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า 365 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์