WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

หยุดพักหายใจ
  คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่น่าจะบวกได้ จากคาดว่านักลงทุนน่าจะขายทำกำไรออกมาบางส่วน หลังจากหุ้นวิ่งขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน อย่างไรก็ตามการที่ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นต่อและมีลุ้น ECB ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มยังเป็นแรงหนุนตลาดอยู่ ภายในประเทศมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนที่กระทรวงการคลังเตรียมการอยู่ ความสนใจของต่างชาติที่จะร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นชั้นนำยืนยันจะลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยบวก

หุ้นเด่นวันนี้ : CPF (ราคาปิด 21.80 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 26.00 บาท)
  บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร มีแนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปีนี้โดยหลักจากการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้งและไก่ เรายังเห็นปัจจัยบวกหลายอย่างในปีนี้ ได้แก่ 1) ราคาสินค้าประเภทอาหารสัตว์ (ข้าวโพดและถั่วเหลือง) จะยังคงต่ำในปีนี้เนื่องจากมีปริมาณพืชผลเพิ่มขึ้นจากสหรัฐและบราซิล 2) ช่วงต้นปีบริษัทมียอดขายลูกกุ้งแก่เกษตรกรเพิ่มขึ้น ~20% YoY บ่งบอกถึงผู้ผลิตกุ้งมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์กุ้งในไทยหลังจากสิ้นสุดของการแพร่ระบาดของโรคตายด่วนในกุ้ง (EMS) 3) ราคาเนื้อหมูยังคงกระเตื้องขึ้นเนื่องจากภาวะอุปทานขาดแคลนในจีน และ 4) ธุรกิจไก่เนื้อจะดีขึ้นทั้งในแง่ของราคาและปริมาณซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์ไก่ (GP) จากสหรัฐส่วนปริมาณส่งออกไปที่ญี่ปุ่นจะเติบโตอย่างมีนัยฯ ด้วยมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเข้าถือหุ้นของ C.P. Cambodia และ S&W ซึ่งประกอบธุรกิจสัตว์ปีกครบวงจรในรัสเซียจะช่วยกระตุ้นยอดขายและกำไรสุทธิในปีนี้ เราคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตได้ 176% YoY CPF ยังประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น (อัตราผลตอบแทนปันผล 2.1% p.a.) จากผลการดำเนินงานปี 58 วันขึ้นเครื่องหมาย XD 28 เม.ย. 59 สำหรับรูปแบบราคาของ CPF เกิดสัญญาณทั้งในรายวันและรายสัปดาห์บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น หากสามารถปิดเหนือ 19.50 บาทได้สิ้นเดือนนี้จะกลับมาเกิดสัญญาณซื้อในรายเดือนซึ่งจะทำให้เนวโน้มขาขึ้นมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 22.40 บาท และ 26.00 บาท ตามลำดับ จุด stop loss อยู่ที่ 18.90 บาท (แนวต้าน: 22.00, 22.20, 22.70; แนวรับ: 21.60, 21.40, 20.90)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

    ก.คลังเร่งมาตรการช่วยเหลือคนรายได้น้อย รองนายกสมคิดได้ผลักดันให้ ก.คลังรีบออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปลัด ก.คลังได้ระบุว่าการหารือเกี่ยวกับการอัดฉีดเงินและมาตรการที่จะออกมาน่าจะจบได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะส่งให้นายสมคิดพิจารณาต่อไป (The Nation)
    ผู้ผลิตรถยนต์ยืนยันยังอยู่ไทย ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้แก่ โตโยต้า อิซูซุ นิสสันและฮอนด้ายืนยันยังคงลงทุนในไทยเป็นฐานการผลิตหลัก การวิจัยและการพัฒนาต่อไป หลังรัฐบาลตกลงที่จะให้การสนับสนุนทางการลงทุน การเงิน การวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาทรัพยาการบุคคลสำหรับอุตสาหกรรมใหม่รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Bangkok Post/The Nation)
      การรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่ายินดีให้บริษัทต่างชาติเข้าร่วมโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภค แต่ต้องหาหุ้นส่วนที่เป็นชาวไทยและปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทย เช่นการทำกิจการร่วมค้า (joint venture) กับบริษัทของไทย ทั้งนี้ กฎเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อป้องกันกรณีที่ทางการไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทต่างชาติเมื่อมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น ส่วนโครงการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางนั้นคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในปีนี้ (The Nation)
     รัฐบาลมีมติเห็นชอบต่อการจัดตั้งสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมื่อเร็ว ๆ นี้รัฐบาลอนุมัติการก่อสร้างสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกำกับดูแลและอำนวยความสะดวกแก่การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเห็นชอบที่จะจัดตั้งคณะกรรมการชั่วคราวเพื่อออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนในกลุ่มซูเปอร์คลัสเตอร์ซึ่งเป็นคลัสเตอร์สำหรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Bangkok Post)
      บริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) รายงานกำไรสุทธิปี 58 อยูที่ 6.97 แสนลบ. (หรือ 1.96 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 1.37% YoY โดยหลักเป็นการปรับลดลงจากกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจเหล็กจากการตั้งสำรองด้อยค่าและสินค้าคงเหลือ ขณะที่กลุ่มธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการตั้งสำรองในกลุ่มพลังงานกับเหล็ก กำไรสุทธิปี 58 น่าจะเพิ่มขึ้น 5.95% นอกจากนี้ ตลท. ยังได้ปรับตัวเลขกำไรปี 57 มาอยู่ที่ 7.01 แสนลบ. จาก 6.96 แสนลบ. ที่ระบุในรายงานฉบับก่อนหน้า (SET) ความเห็น: ผลการดำเนินงานปี 58 ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 6.17 แสนลบ. เราอยู่ในปรับปรุงตัวเลขประมาณการในปี 59-60
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) รายการผลกำไรเติบโต 10.2% ในปี 58 มาอยู่ที่ 5.72 พันลบ. (หรือ 1.61 แสนดอลลาร์สหรัฐ) โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มบริการทางการเงิน และกลุ่มทรัพยากร เป็นสามกลุ่มที่มีผลกำไรเติบโตสูงสุด บริษัทใน MAI มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.25 แสนลบ. (หรือ 3.5 พันดอลลาร์สหรัฐ) หรือ เพิ่มขึ้น 1.79% จากปีก่อนหน้า (SET)
GOLD (6.60 บ.) บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการในปีนี้มูลค่า 1.6 หมื่นลบ. และตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดิน 3 พันลบ. ในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายพรีเซลที่ 1.4 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 4% YoY และเป้ารับรู้รายได้ที่ 8.6 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% YoY (Bangkok Post)


ต่างประเทศ      ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นกระตุ้นให้ความต้องการลงทุนในเงินยูโรและสกุลเงินอื่นที่อ่อนไหวต่อสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าขึ้นของเงินยูโรถูกจำกัดจากความเห็นที่ว่าอีซีบีอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมนโยบายวันพฤหัสนี้ เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.1% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.1008 ดอลลาร์สหรัฐ และร่วงลง 0.5% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 124.75 เยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.2% อยู่ที่ 97.132 จุด (Reuters)

ราคาพันธบัตรสหรัฐร่วงลงเมื่อวันจันทร์ จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและความคาดหวังที่มากขึ้นหลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.พ. อันแข็งแกร่งว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.920% สูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน ราคาพันธบัตรดังกล่าวล่าสุดลดลง 6/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.902% เพิ่มขึ้นจาก 1.883% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)
สหรัฐ :

     ดัชนี ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดแบบผสมผสานเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ (DJIA) และ S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นแต่แนสแดคปิดลดลง ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นชดเชยราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลง ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นบวกหลายตัวที่ประกาศในช่วงนี้และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีเสถียรภาพช่วยให้อารมณ์ตลาดดีขึ้น (Reuters)


ยุโรป :

      ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยการปรับตัวลดลงของหุ้นการไฟฟ้าของฝรั่งเศส EDF หลังจากที่ผู้บริหารระดับสูงประกาศลาออก นอกจากนี้หุ้นกลุ่มธนาคารยังได้รับแรงกดดันจากการปรับลดราคาหุ้นเป้าหมายของโบรกเกอร์ต่างๆ โดย JP Morgan ประกาศลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นลงเป็นน้อยกว่าตลาดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 โดยมองว่าการฟื้นตัวของตลาดกำลังจะหมดรอบ นอกจากนี้ยังปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น Barclays ลง ขณะที่ Goldman Sachs ได้ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น Credit Agricole และ Societe Generale (Reuters)


เอเชีย :

     เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลงในงวด 4Q58 แต่น้อยกว่าที่คาดก่อนหน้า โดยหดตัวลง 1.1% YoY น้อยกว่าที่คาดก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวที่ 1.4% และน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 1.5% อย่างไรก็ตามการบริโภคภาคเอกชนยังคงอ่อนแอ ประกอบกับเศรษฐกิจภายนอกประเทศที่ยังเป็นปัจจัยกดดัน นับเป็นประเด็นความท้าทายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจภายใต้ภาวะปัจจุบัน (Reuters)
      เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเดือน ก.พ. ลดลงสู่ระดับน้อยที่สุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2554 โดยลดลง 2.857 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ มาอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยและบรรเทาจากการลดลงแรงเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตามการลดลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังแทรงแซงค่าเงินเพื่อพยุงค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ เพื่อควบคุมการไหลออกของเงินทุน (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

    น้ำมันดิบพุ่งกว่า 4% วันจันทร์ โดยราคาน้ำมัน Brent ปิดเหนือ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข่าวบวกว่าผู้ผลิตน้ำมันหลักอาจบรรลุข้อตกลงเรื่องการหนุนราคาน้ำมัน รัฐบาลเอกวาดอร์กล่าวว่าผู้ผลิตน้ำมันละตินอเมริกาตกลงที่จะพบกันในวันศุกร์ที่ Quito เพื่อร่วมมือทำแผนกลยุทธ์หนุนราคาน้ำมัน Brent พ.ค. ปรับขึ้น 2.12 ดอลลาร์หรือ 5.5% ปิดที่ 40.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 1.98 ดอลลาร์หรือ 5.5% สู่ 37.90 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
    ราคาทองบวกในวันจันทร์ ยืนอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดรอบ 13 เดือนเพียงเล็กน้อยจากหุ้นโลกที่ร่วงลงขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยนของสหรัฐลดการคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.7% ปิด 1,268.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแตะจุดสูงสุดที่ 1,279.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์สูงสุดนับแต่ 3 ก.พ. 58 ก่อนที่จะลดลงเพราะตัวเลขสหรัฐ (Reuters)
     ราคาทองแดงและสังกะสีถอยลงจากจุดสูงสุดรอบกว่า 4 เดือนในวันจันทร์ จากความกังวลเรื่องความสามารถของจีนในการดึงเศรษฐกิจขึ้น ราคาทองแดงในตลาด London Metal Exchange ลบ 0.5% อยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อตัน ถอยกลับจากที่เคยวิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ก็ซื้อขายที่ 4,940 ดอลลาร์ (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!