- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 March 2016 16:35
- Hits: 619
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1400
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มลดความร้อนแรงลง แม้ว่า SET INDEX จะแกว่งยืนเหนือ 1,380 จุดได้เป็นส่วนใหญ่ แต่หุ้นกลุ่มค้าปลีก / โรงพยาบาล / ICT บางตัว อีกทั้งเป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้นในช่วงท้าย SET INDEX ปิดบวกเล็กน้อย 0.20 จุด มาอยู่ที่ 1,379.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,773 ล้านบาท
เม็ดเงินทุนต่างชาติ ยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 มากถึง 4,632 ล้านบาท แต่กลับ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 6,712 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 811 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- นักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures
- ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดในเดือนก.พ.
- สภาประชาชนแห่งชาติจีน คงเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ 6.5-7.0%
- ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทะลุ US$35.00/barrel มาอยู่ที่ US$35.92
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น "กลาง" เป็นวันที่ 6 แม้ว่าบรรยากาศรอบนอกจะค่อนข้างเอื้อต่อการไต่ระดับขึ้นของ SET INDEX เพื่อไปทดสอบด่านสำคัญทางจิตวิทยาการลงทุนบริเวณ 1,395-1,400 จุดก็ตาม จากแรงผลักดันของกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี / SCC หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทะลุแนว US$35.00 ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา บวกกับสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินทั่วโลก เป็นอีกเหตุปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรอบนี้ฟื้นตัว และไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่เรายังคงให้น้ำหนักกับความผันผวน และ ความเปราะบางของ SET INDEX ณ ระดับปัจจุบัน เพราะราคาหุ้นหลักได้ขึ้นมาสะท้อนถึงราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น PTTEP หรือหุ้นกลุ่มโรงกลั่น/ ปิโตรเคมี เราเชื่อว่าผลของการประชุม ECB วันที่ 10 มี.ค.นี้ และการประชุมเฟดในวันที่ 16 มี.ค. หรือสัปดาห์หน้า จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรรอบนี้ออกมา พร้อมกับ Wait&See รอดูผลความเห็นของเฟดต่อทิศทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มนโยบายการเงิน
ขณะที่การตั้งเป้าเติบโตทางเศรษฐกิจของสภาประชาชนแห่งชาติจีนในปีนี้ 6.5-7.0% ถือว่าสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ Bloomberg consensus ประเมินไว้ที่ Lower Bound 6.5% จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน แต่ในระหว่างการประชุมสภาฯ ของจีน 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 17 มี.ค. เชื่อว่าความผันผวนของตลาดหุ้นจีนจะลดลง เพื่อติดตามข้อมูลและแนวนโยบายของทางการเป็นสำคัญ
ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติ ซึ่งต่างชาติเริ่มทยอยปิดสถานะ Long ใน SET50 Index ในวันศุกร์ที่ผ่านมาตามที่เราคาดการณ์ไว้ และ ณ ระดับปิดล่าสุด S50H16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เพียง 0.59 จุดเท่านั้น ทำให้เราเชื่อว่าต่างชาติจะทยอยปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไรจาก Futures และกลับมาเลือกลงทุนในหุ้นหลักที่มีประเด็นเก็งกำไรเฉพาะตัว หรือ ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ
เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,370-1,395/1,400 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
กลยุทธ์การลงทุน
เรายังคงแนะนำให้ "นักลงทุนทยอยขายทำกำไรมากยิ่งขึ้น และถือเงินสด เพื่อรอเก็งกำไรรอบใหม่ เมื่อ SET INDEX ปรับฐานลง หรือหากต้องการเข้าเก็งกำไรในช่วงสั้น ควรจำกัดวงเงินมากขึ้น"
Speculative Buy: IRPC / TPIPL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. IRPC : ราคาปิด 4.56 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
a) MBKET เข้าร่วมประชุมที่โรงงาน IRPC จ.ระยองในวันศุกร์ที่ผ่านมา และความคืบหน้าของโครงการ UHV ยังเป็นไปตามแผนที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงสิ้น 1Q59 และรับรู้ผลบวกอย่างเต็มที่ใน 2Q59
b) คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะยังมี Sentiment บวกจากการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX +3.9% และ BRENT +4.4% ในคืนวันศุกร์ที่ผ่าน และปรับตัวขึ้นต่อเช้านี้ราว 1% เป็น US$36.21/barrel
c) แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q59 คาดว่าจะขยายตัว qoq จากค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูง โดย QTD อยู่ที่ US$8.11 เพิ่มขึ้น +1.6% qoq และมีโอกาสบันทึกกำไรจาก Stock Gain ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบล่าสุดอยู่ที่ US$34.68/barrel เทียบกับ สิ้นปี 2558 ที่ US$32.37/barrel
d) คาดกำไรปกติปี 2559 เติบโต +37% yoy เป็น 8,586 ล้านบาท จากแรงหนุนของโครงการฟินิกซ์ และมี Upside Risk จากประโยชน์ของ Loss Carry Forward จำนวน 4,106 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีกำไรทางบัญชีราว 821 ล้านบาท และยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการกำไรของเรา
2. TPIPL : ราคาปิด 2.48 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) TPIPL แจ้งต่อตลท.ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่ามีแผนนำบริษัทลูก คือ ทีพีไอโพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจให้บริการสถานีน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ เข้าจดทะเบียน IPO ในสัดส่วนไม่เกิน 30% ของทุนจดทะเบียน และคาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายใน 4Q59
b) MBKET คาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากการ Spin off บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับ Market Cap ของบริษัทแม่โดยตรง และสามารถสะท้อนมูลค่าของบริษัทลูกได้ชัดเจนมากขึ้น
c) คาดว่า TPIPP จะมีกำไรสุทธิราว 3.3 พันล้านบาท ในปี 2560 และหากอิง PE 15 เท่า ใกล้เคียงกับหุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทน จะได้มูลค่าตลาดของ TPIPP ที่ 4.95 หมื่นล้านบาท หรือเทียบเท่ามูลค่าต่อหุ้น TPIPL ที่ 2.45 บาท
d) ราคาปิด TPIPL วานนี้ที่ 2.48 บาท เปรียบเสมือนกับได้ธุรกิจปูนซีเมนต์ฟรี และยังซื้อขายที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.84 เท่า จึงมี Downside Risk ที่จำกัด ขณะที่ Upside Risk เปิดกว้าง เนื่องจากการนำ TPIPP เข้าจดทะเบียน IPO จะเป็น Catalyst สำคัญต่อการลงทุนในปี 2559
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 อีก US$532 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$678 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 4,632 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 13,419 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 5,798 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 6,712 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 14,177 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เมื่อ SET50 Index ยังไม่สามารถปิดผ่าน 890 จุด และ S50H16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index เพียง 0.59 จุดเท่านั้น ขณะที่วันก่อนหน้าเป็น Premium เท่ากับ 0.64 จุด แต่ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิยังคงทะลุ 120,000 สัญญา เป็น 121,681 สัญญา
และคงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 811 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 1,890 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 4 อีก 1.35bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.19bps ปิดที่ 1.951%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,102 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,402 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เน้นกลุ่มธนาคารและพลังงานอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 3,011 ล้านบาท แม้ว่าจะชะลอจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,695 ล้านบาทก็ตาม รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 11,411 ล้านบาท โดยเม็ดเงินยังคงเลือกลงทุนใน 2 กลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทยคือ กลุ่มธนาคาร และพลังงานต่อเนื่อง สรุปภาพการลงทุนโดยรวมได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิยังคงถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 1,226 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,415 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 1,059 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 972 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 417 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 401 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้างซื้อสุทธิ 223 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิสูงสุด 295 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 55 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ภาวะการจ้างงานออกมาดีกว่าคาด
การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนก.พ. เท่ากับ 2.42 แสนตำแหน่ง สูงกว่า Bloomberg consensus คาด 1.90 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.72 แสนตำแหน่ง
การจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.พ. เท่ากับ 2.30 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.83 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.82 แสนตำแหน่ง
แต่อัตราการว่างงาน เดือนก.พ. คงที่ที่ 4.9% เท่ากับที่ Bloomberg consensus คาดและเดือนก่อนหน้า
ยุโรป
เยอรมันไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่อังกฤษจะขอออกจากอียู: รมว.คลัง เยอรมัน ให้ความเห็นต่อการที่อังกฤษจะทำการโหวตเพื่อขอออกจากอียู จะสร้างความเสียหายต่ออังกฤษ, อียู และเศรษฐกิจโลก สำหรับกรณีของตุรกีนั้น เยอรมันไม่แน่ใจว่าตุรกีจะสามารถเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มอียูได้หรือไม่ แม้ว่าการเจรจาจะกินเวลาที่ยาวนาน และยังไม่ได้ข้อสรุป
จีน
ธนาคารกลางจีนดูดซับสภาพคล่องทางการเงินออกจากระบบมากสุด: สัปดาห์นี้ธนาคารกลางจีน ดูดซับสภาพคล่องทางการเงินออกไปทั้งสิ้น US$1.29 แสนล้าน หรือ 8.40 แสนล้านหยวน เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 หลังธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR ซึ่งคาดว่าจะทำให้สภาพคล่องทางการเงินในระบบเพิ่มขึ้น 6.85 แสนล้านหยวน
ทางการจีนเข้าแทรกแซงตลาดหุ้นช่วงการประชุมประจำปี: โดยทางการจีนได้เข้าแทรกแซงในตลาดหุ้นวันที่ 4 มี.ค. เพื่อให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ แสดงผลตอบแทนที่ดีที่สุดในรอบปี 2559 ก่อนการประชุมแผนเศรษฐกิจ 5 ปี ด้วยการให้ธนาคารพาณิชย์, กองทุนรวม และโบรกเกอร์ ช่วยสร้างเสถียรภาพของตลาด ในช่วงที่มีการประชุมสภาประชาชนประจำปี
สภาประชาชนจีนกำหนดเป้าหมายเติบโต 6.5-7.0%: ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 7.0% และเป็นการกำหนดกรอบการเติบโตครั้งแรกในรับตั้งแต่ปี 2538 โดยที่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายการส่งออก แต่กลับเน้นย้ำความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก พร้อมยืนยันเศรษฐกิจโตเฉลี่ย 6.5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายรายได้ต่อประชากรตามที่กำหนดไว้ในปี 2553
จีนตั้งเป้าการใช้ถ่านหินไม่เกินปีละ 5 ล้านตัน: ภายในปี 2563 หรือคิดเป็น 16% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 4.3 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นที่ชะลอตัวต่อเนื่อง จาก 5.9% ในปี 2553 เป็น 0.9% ในปี 2558 ทั้งนี้เพื่อให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดปัญหาด้านมลภาวะทางอากาศ และสิ่งแวดล้อม
เอเชียแปซิฟิก
ที่ปรึกษาธนาคารกลางอินเดียเชื่อว่าธนาคารกลางยังมีช่องว่างในการลดอัตราดอกเบี้ย: ทั้งนี้ธนาคารกลางอินเดียจะต้องมั่นใจต่อช่วงเวลาของการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากจนถึงการประชุมวันที่ 5 เม.ย. ภายใต้งบประมาณปี 2559 ที่น่าจะมากเพียงพอต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยอดสินเชื่อกลับออกมาต่ำกว่าที่คาดมาก ธนาคารกลางอินเดียจึงควรพิจารณาถึงทางเลือกนี้
อัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 เดือน: เพิ่มขึ้น 0.9% yoy ในเดือน ก.พ. ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 1.3% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด +1.3% yoy เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. อีกทั้งยังต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่เฉลี่ย 2-4% สำหรับปี 2559-2561
ส่งออกมาเลเซียหดตัวสวนทางคาด: ลดลง 2.8% yoy ในเดือน ม.ค. จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 1.4% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาด +2.5% yoy นำโดยการส่งออกน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติหดตัวแรง 38.2% และ 48.2% yoy ด้านการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.3% yoy ทำให้ดุลการค้าเกินดุลที่ระดับ 5.39 พันล้านริงกิต
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530