- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 March 2016 16:31
- Hits: 1074
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
อารมณ์ตลาดเป็นบวกแบบระมัดระวัง
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ จากการที่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเดินหน้าต่อด้วย คลายความวิตกกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจโลก หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในระยะหลังออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ นักลงทุนลุ้นให้ตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ออกมาดี แต่ไม่แข็งแกร่งมากจน Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยภายในประเทศโดยรวมวันนี้เป็นลบ จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังลดลงต่อเนื่องในเดือน ก.พ. แต่รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้นก่อนตลาดหุ้นโลกจะเพิ่งคลายความวิตกที่กล่าวข้างต้น อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของตลาดวันนี้น่าจะถูกจำกัดจากการขายทำกำไรบางส่วนของนักลงทุน
หุ้นเด่นวันนี้ : RS (Bt10.40; NR, ราคาเป้าหมาย Bloomberg ปี 59 12.93 บาท)
บมจ. อาร์เอส มีแนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปีนี้ในทุกหน่วยธุรกิจ โดยบริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะสามารถเติบโต 11% YoY สนับสนุนโดยธุรกิจดิจิตอลทีวีช่อง 8 ที่สามารถครองทีวีเรตติ้งอันดับที่ 4 ได้อย่างเหนียวแน่นโดยมีคะแนน ณ สิ้นปีอยู่ที่ 0.45 เพิ่มขึ้นจาก 0.21 ในเดือน เม.ษ.57 ซึ่งเป็นเดือนแรกที่เริ่มออกอากาศ บริษัทยังมุ่งหมายปั้นธุรกิจเทเลเซล หรือ ขายสินค้าสุขภาพและความงามผ่านรายการทางช่อง RS ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของสินค้าเองโดยได้ตั้งเป้ายอดขายของธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตได้ 65% ในปีนี้ นอกจากนี้ ผลประกอบการของ RS งวดไตรมาส 1/59 ยังมีแนวโน้มสดใสสวนกระแสงบโฆษณาที่อ่อนตัวสนับสนุนโดย 1) รับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการรับจัดอีเว้นท์ ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าอีกประมาณ 500 ลบ. 2) บริษัทปรับกลยุทธ์การขายและราคาโฆษณาเฉลี่ยของช่อง 8 น่าจะช่วยหนุนรายได้ของช่องให้เติบโตได้ 30% YoY ในไตรมาสนี้ 3) งานคอนเสิร์ต์ใหญ่ The Next Venture ในวันที่ 6 มี.ค. จะสร้างรายได้ขายตั๋วและสปอนเซอร์เข้ามาเพิ่มเติม ตามประมาณการของบลูมบริ์กคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานของ RS จะเติบโต 321% ในปีนี้และ 47% ในปี 2560 สำหรับรูปแบบราคาของ RS เกิดสัญญาณทั้งในรายวันและรายสัปดาห์บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันในระยะยาวจากสัญญาณขายในรายเดือน ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 11.50 บาท และ 13.40 บาท ตามลำดับ จุด stop loss อยู่ที่ 8.85 บาท (แนวต้าน: 10.60, 10.80, 11.00; แนวรับ: 10.30, 10.10, 9.85)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงอีกครั้งในเดือน ก.พ. ผลสำรวจโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงานวานนี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 74.7 จาก 75.5 ในเดือนม.ค. และ 76.1 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว การร่วงลงของดัชนี 2 เดือนติดต่อกันแสดงให้เห็นถึงความกังวลของผู้บริโภคทั้งในเรื่องของอนาคตเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ภาคส่งออกที่ลดลง ราคาน้ำมัน และผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง (Bangkok Post)
ผู้พัฒนาอสังหาหวังเคลียร์บ้านในสต็อก ก่อน 28 เม.ษ. ซึ่งจะเป็นเวลาที่มาตรการจูงใจด้านภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาของรัฐสิ้นสุดลง โดยบ้านในสต็อกมีมูลค่ากว่าแปดหมื่นลบ. หรือสามหมื่นยูนิตพร้อมจะส่งมอบภายในเดือน เม.ษ. นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทยกล่าวว่าในช่วงสี่เดือนแรกเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผู้พัฒนาอสังหาในการเคลียร์สต็อกด้วยการแข่งขันทางแคมเปญการตลาด. (Bangkok Post)
สนับสนุนการกู้ยืมของผู้มีรายได้น้อย รมว.การคลังจะลดทุนจดทะเบียนของบริษัทนาโนไฟแนนซ์เหลือ 10 ลบ. จาก 50 ลบ. ขณะที่แผนลดข้อจำกัดของสินเชื่อจะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น การยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวจะช่วยให้มีบริษัทเข้ามาในอุตสาหกรรมมากขึ้นเพื่อปล่อยกู้แก่ผู้มีรายได้น้อยและเข้าถึงการกู้ยืมที่เป็นทางการแทนการกู้ยืมในระบบใต้ดิน (Bangkok Post)
JAS (3.12 บาท) อาจจ่ายเงินงวดแรกพร้อมแบงก์การันตีได้เพื่อรับใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ โดยเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า จากการที่ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูง บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ทาง JAS ได้ยืนยันว่าในวันที่ 18 มีนาคมนี้ จะมาชำระค่าใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ งวดที่ 1 จำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมหนังสือรับรองจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) ซึ่งขณะนี้ นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการเจรจาอย่างสุดความสามารถกับสถาบันการเงินเพื่อขอวงเงินกู้ต่อไป (MThai) ความเห็น: เราเห็นว่า JAS เหมือนพูดไปก่อนแม้จะยังไม่แน่นอนว่าจะได้รับใบอนุญาต แม้ว่าข่าวนี้จะช่วยหนุนโอกาสรับใบอนุญาตของ JAS เพิ่มขึ้นมาอีกนิด แต่เราก็ยังเห็นว่าโอกาสโดยรวมยังต่ำอยู่ อย่างไรก็ดีเราควรจับตาประเด็นนี้ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรจนกว่าจะถึงเส้นตายการจ่ายรับใบอนุญาตที่ 21 มี.ค. 59
ต่างประเทศ
ตลาดหุ้นทั่วโลกแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัส โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดเกิดใหม่จากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกได้ลดลงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ดัชนี MSCIEF ปรับตัวขึ้น 1.4% ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ยาวนานที่สุดในปีนี้ (Reuters)
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากมีข้อมูลแสดงถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและนักลงทุนกำลังจับตาดูรายงานการจ้างงานประจำเดือนก.พ. ซึ่งกำหนดประกาศในวันศุกร์นี้ ราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง 1/32 และอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.852% เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเทียบกับวันก่อนหน้า (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอยู่แนวตั้งรับเทียบกับเงินสกุลอื่นในวันศุกร์ หลังจากรายงานการจ้างงานของภาคบริการในสหรัฐได้ลดความคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เงินยูโรทรงตัวอยู่ที่ 1.0950 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อคืน ส่วนดอลลาร์สหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 113.71 เยน หลังจากปรับตัวแตะระดับสูงสุดในวันก่อนที่ 114.28 เยน (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันพฤหัส เป็นวันที่สองเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกลดลง ตลาดเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นโดยถ้วนหน้าและปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนต.ค. และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งทะยานขึ้นชดเชยกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและสุขภาพที่ปรับตัวลง ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่แนวโน้มพื้นฐานยังคงชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง (Reuters)
ISM ประกาศเมื่อวันพฤหัสว่าดัชนีการจ้างงานในภาคบริการลดลงอยู่ที่ 49.7 จุดในเดือนก.พ. จาก 52.1 จุดในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกของการจ้างงานในภาคบริการนับแต่ ก.พ. 57 (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 278,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขการจ้างงานจะลดลงอยู่ที่ 271,000 ตำแหน่ง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ ในตอนนี้อยู่ระดับต่ำกว่า 300,000 รายซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงว่าสภาวะตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งเป็นเวลา 1 ปี นานที่สุดนับแต่ช่วงต้นปี 1970 ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ ซึ่งใช้วัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าลดลง 1,750 รายอยู่ที่ 270,250 รายในสัปดาห์ก่อน อยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. (Reuters)
ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากลดลง 2.9% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนมิ.ย. และตามมาด้วยการลดลงติดต่อกัน 2 เดือน การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเป็นสิ่งที่บอกเป็นนัยล่าสุดว่าภาวะตกต่ำของภาคโรงงานน่าจะสิ้นสุดแล้ว (Reuters)
คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. จากผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ อัตราการว่างงานถูกมองว่าอยู่ในระดับทรงตัวที่ 4.9% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 8 ปี (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้น 5 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้ นำโดยการปรับตัวลดลงของหุ้นในกลุ่ม Healthcare อาทิ Roche และ GlaxoSmithKline หลังจาก Moody’s ปรับมุมมองต่ออุตสาหกรรมยาลงเป็นระดับมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มบวกเดิม (Reuters)
กิจกรรมทางธุรกิจยูโรโซนเดือน ก.พ. ขยายตัวน้อยที่สุดในรอบปี โดย Markit รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สรุปสุดท้ายปรับตัวลดลงในเดือน ก.พ. ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558 สู่ระดับ 53.0 จาก 53.6 ในเดือน ม.ค. ก่อนหน้า แต่สูงขึ้นจากตัวเลขประเมินเบื้องต้นก่อนหน้าที่ 52.7 ทั้งนี้ตัวเลขที่ยืนเหนือระดับ 50 ยังคงสะท้อนถึงภาวะการขยายตัว (Reuters)
เอเชีย :
ภาคการบริการญี่ปุ่นเดือน ก.พ. ขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จัดทำโดย Markit/Nikkei ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.2 ในเดือน ก.พ. จาก 52.4 ในเดือน ม.ค. ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังสามารถยืนเหนือระดับ 50 ซี่งสะท้อนถึงภาวะการขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน (Reuters)
การประชุมรัฐสภาจีนประจำปี ผู้แทนกว่า 3,000 คนจะเข้าร่วมประชุมสภาจีนประจำปี ณ กรุงปักกิ่งในวันที่ 5 มี.ค. เป็นระยะเวลา 12 วัน ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะพูดถึงได้แก่ แผนเศรษฐกิจ 5 ปีนับจากนี้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบคงตัววันพฤหัส หลังจากบวกติดต่อกันไปแล้ว 3 วันเพราะสต็อกน้ำมันสหรัฐสวนกระแสแผนคุมกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปค และการขายทำกำไรหลังจากวิ่งขึ้นแรง Brent พ.ค. ปรับขึ้น 14 เซนต์ อยู่ที่ 37.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังปรับขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์นับจากปิดศุกร์ที่แล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 2 วันแรก น้ำมันดิบสหรัฐลด 9 เซนต์ปิดที่ 34.57 ดอลลาร์(Reuters)
ราคาทองกลับขึ้นมา 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์วันพฤหัส เพราะค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ทำให้อยากถือทองเป็นการลงทุนทางเลือกมากขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่ด้วยการรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐศุกร์นี้ ราคาทองคำตลาดจรขึ้น 0.5% ปิด 1,246.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบ เม.ย. ขึ้น 6.20 ดอลลาร์ปิด 1,248.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
ราคาทองแดงแตะจุดสูงสุดกว่าสามเดือนในวันพฤหัส เพราะหุ้นเป็นบวก ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตเศรษฐกิจโลกและค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ราคาทองคำอ้างอิงในตลาด London Metal Exchange ปิดบวก 1.4% อยู่ที่ 4,856 ดอลลาร์ต่อตัน หลังแตะ 4,848 ดอลลาร์ก่อนหน้า หรือจุดสูงสุดนับแต่ 12 พ.ย.
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331