- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 March 2016 16:19
- Hits: 644
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์หลังขึ้นแรงสามวัน รอดูข้อมูลฝั่งสหรัฐฯ คืนนี้
KGI คาด SET วันศุกร์แกว่ง/ขึ้นแคบๆ ชะลอความร้อนแรง (วานนี้ฟันด์โฟลว์ดันตลาดต่อ ตามคาด) ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ก.พ. คืนนี้ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด (consensus คาดจ้างงานเพิ่ม 1.9 แสนคน, อัตราว่างงาน 4.9%) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นดัชนี ISM ภาคบริการ คำสั่งซื้อภาคโรงงาน และยอดขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ และตลาดน้ำมันทรงตัวแคบๆ รอดูข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรึงปริมาณการผลิต คาดหุ้นใหญ่จะเริ่มทรงตัวและจะเห็นการหมุนมาเล่นหุ้นขนาดกลางมากขึ้น แนะเก็งกำไรเร็วต่อไป ส่วนสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญคือผลประชุม ECB วันที่ 10 มี.ค. นี้ (คาด ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงิน)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรหุ้นเล็ก VIBHA, COM7 / หุ้นใหญ่ STEC*
VIBHA (เป้า Consensus 2.65 บาท) 1) ประเด็นข่าว บลจ วรรณ เตรียมตั้งกองทุนเปิดวรรณ โฮสพีทอล (ONE-HOSPITAL) เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 7-17 มี.ค. นี้ คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (คาด Flow เข้า) 2) VIBHA ราคาหุ้น Laggard กลุ่มโรงพยาบาล และ Valuation น่าสนใจด้วย PE และ EV/EBITDA ที่ถูกกว่ากลุ่ม โดย PE ปีนี้ = 32.7 เท่า, กลุ่มฯ = 37.5 เท่า EV/EBITDA ปีนี้ = 20 เท่า, กลุ่มฯ = 22.2 เท่า (Discount เฉลี่ย 10 – 15%) 3) รูปแบบราคาแกว่งตัว Sideway บีบกรอบแคบรอสัญญาณการ Breakout หากดีดพ้นแนวต้าน 2.34 บาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านใกล้ 2.46 บาท และเป้าขายทำกำไรที่ 2.70 บาท แนวรับ 2.30 บาท, 2.24 บาท ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เป้าหมายของนักลงทุนสถาบันอื่นๆ อาทิ BH*, BDMS* เป็นต้น
COM7 (เป้าสูงสุด Consensus 7 บาท) 1) ราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีกตัวใหญ่ (Flow เข้าหุ้นใหญ่ก่อน คาดต่อด้วยหุ้นกลาง) 2) ประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา (< 3 หมื่นบาทต่อเดือน ไม่เสียภาษี คาดเข้า ครม ภายในเดือนนี้) คาดเป็น Sentiment บวกต่อการบริโภคในประเทศ (เป็นกลุ่มคนที่เพิ่งทำงานรุ่นใหม่ ตรงกับกลุ่มลูกค้า COM7) 3) อัตรากำไรที่จะเพิ่มขึ้นในส่วนของโทรศัพท์ iPhone (จากการซื้อตรงกับ Apple ไม่ผ่าน Operators) จะเห็นชัดในไตรมาส 1/59 เพราะสินค้าส่วนใหญ่จะส่งมอบในไตรมาส 1 หลังเปิดตัวรุ่นใหม่ในไตรมาส 4 (ยอดขาย iPhone โดยปกติจะพีคที่ไตรมาส 1) 4) ราคาหุ้น Sideway บีบกรอบแคบ ในกรอบแนวรับ 6 บาท แนวต้าน 6.25 บาท หากดีดพ้น 6.25 บาท จะเป็นการ Break ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 6.85 บาท (Stop loss 5.9 บาท)
STEC (เป้าพื้นฐาน 33.4 บาท) 1) ราคาหุ้นปรับลงแรง (-20% YTD) คาดเป็นผลจากการที่การประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐฯล่าช้า + ความกังวลเรื่องอัตรากำไรของงานก่อสร้างรัฐสภาใหม่ที่ล่าช้า 2) อย่างไรก็ดีเราประเมินราคาหุ้น Oversold มีโอกาสรีบาวด์ + Fund flow ที่อาจจะยังเข้ามาต่อเนื่อง 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินการประมูลงานภาครัฐฯยังคงทยอยมาตามแผนในปีนี้ และจะเร่งตัวขึ้นใน 2H59 4) รูปแบบราคาดีดตัวขึ้นมาพร้อมวอลุ่มสนับสนุน และยืนเหนือแนวต้านขาลงได้ หากสามารถยืนเหนือ 19.7 บาทได้ คาดจะเป็นการยืนยันการฟื้นตัวของรูปแบบราคา แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 19.7 บาท, 19.3 บาท แนวต้าน 20.5 บาท, 21.5 บาท
หุ้นในกระแส
หุ้นเล็กที่เตรียมล้างขาดทุนสะสม เตรียมปันผล (TVD, TMC) จากการ Company visit หุ้นขนาดเล็กที่มีสตอรี่น่าสนใจเรื่องการล้างขาดทุนสะสม (คาดจะนำส่วนเกินทุนมาล้างขาดทุนสะสม) เพื่อเตรียมพร้อมจ่ายปันผล เป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ (Signaling hypothesis) ได้แก่ TVD (ปีนี้คาด Turnaround PE จะต่ำเหลือ <10 เท่า) และ TMC (รุกธุรกิจใหม่ + มีพันธมิตรใหม่ ตรงกับ 3 ธีมหลัก คือ พลังงานทดแทน, บริหารจัดการน้ำ, รับเหมาก่อสร้าง)
หุ้นกลุ่มสื่อ (WORK*, RS*, NMG) จากประเด็นรายการข่าวช่อง 3 ที่มีการเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินรายการ (นายสรยุทธ์ออก) คาดมีโอกาสจะส่งผลกระทบต่อเรตติ้งรายการข่าวของช่อง 3 และมีโอกาสที่เรตติ้งของช่องอื่นๆจะได้อานิสงส์ ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯชอบ WORK* และแนะนำ “เก็งกำไร” RS*
หุ้น Laggard ในแต่ละกลุ่ม i) โรงพยาบาล (VIBHA) ii) รับเหมาฯ (STEC*, UNIQ) iii) โรงกลั่น (BCP*) iv) ธนาคาร (KTB*) เราประเมิน Fund flow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย เป็นผลให้หุ้นใหญ่พิมพ์นิยมสำหรับต่างชาติในแต่ละกลุ่มขึ้นมาแล้ว คาดหุ้นกลาง – เล็กในแต่ละกลุ่มมีโอกาสที่จะถูกเก็งกำไรตาม
กลุ่มสื่อสาร (TRUE*, ADVANC*, DTAC*, DIF, JAS*) จากประเด็นข่าว TRUE* ได้รับการปล่อยสินเชื่อ 4G แล้ว ขณะที่ทาง BBL* ยังไม่ยืนยันเรื่องสินเชื่อให้ทาง JAS* เราประเมินเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมฯ โดยรวม (ยังไม่มีคู่แข่งรายใหม่) แนะนำ “เก็งกำไร” TRUE*, ADVANC* และ DTAC* รวมถึง DIF
กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC, ASEFA, QTC) คาดเปิดจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการได้ในเดือน เม.ย. (เลื่อนมาจากเดือน ธ.ค.) และกำหนด COD เป็นช่วงเดือน ธค.59 (เลื่อนจาก ก.ย.59) โดยที่ประชุม กพช วันที่ 11 มี.ค. จะพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ (หลังมีการเว้นกฏหมายผังเมือง) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, PSTC, UWC) และตัวที่จะได้อานิสงส์งานระบบไฟฟ้าอย่าง ASEFA และ QTC เป็นต้น
หุ้นมีข่าว
(+ IFEC, BWG) พลังงานพร้อมซื้อ 'ไฟฟ้าขยะ' ตั้งเป้า 348 เมก (ไทยโพสต์) พลังงานรุกส่งเสริมจัดการขยะเป็นพลังงานคาดปี 2560 เกิดการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 348 เมกะวัตต์ และขยะจากอุตสาหกรรม 10 เมกะวัตต์ ... ปัจจุบัน IFEC มีธุรกิจกำจัดขยะที่ จ.ชลบุรี กำลังรอยื่น PPA คาดกำลังการผลิต 5 – 10MW
(+) 'TFD'พลิกกำไรอลังการ ดีลใหญ่ดันโตเกิน500% (ทันหุ้น) TFD ถึงเวลา "เทิร์นอะราวด์" การันตีปี 2559 พลิกกำไรโตแรง แย้มทยอยล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง 318.49 ล้านบาท ลุ้นแจกปันผลตามนโยบาย 60% ของกำไรสุทธิ ส่วนปี 2559 ตั้งเป้ารายได้โต 528% แตะ5.5 พันล้านบาท หลังบุ๊กขายที่ดินล็อตใหญ่ 200 ไร่ มูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาท ซดกำไรตั้งกอง REIT อื้อซ่า ลุยเทกโอเวอร์โรงงานอังกฤษ
(+) ลือ'MAX'ขายทุนใหม่ ทำพลังงาน (โพสต์ทูเดย์) วงการเหล็กลือสะพัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ MAX ถอดใจ ขายหุ้นทิ้งให้หมอนักการเมืองพันล้านบาท รายงานข่าวจากวงการค้าเหล็ก เปิดเผยว่า บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) กำลังจะเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ โดย นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ซึ่งถือหุ้นใหญ่ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ให้กับนายแพทย์นักการเมืองชื่อดัง ราคาเสนอขายหุ้นละกว่า 0.20 บาท มูลค่าซื้อขายประมาณ 1,000 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
VGI* (เป้าสูงสุด Consensus 5.2 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาหุ้น Break กรอบ Sideway ขึ้นมาได้แล้ว คาดมีเป้าหมายถัดไปที่ 4.9 บาท (แนวต้านใกล้แรกที่ 4.52 บาท) แนวรับ 4.3 บาท ... ผลการดำเนินงาน Bottom out
TMC (เป้าพื้นฐาน 3.0 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 2.20 บาท แนวต้าน 2.30 บาท หาก Breakout ผ่านได้คาดจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.6 – 2.8 บาทได้ ... ปีนี้ Turnaround มี Partner ใหม่ + เตรียมเอาส่วนเกินทุนล้างขาดทุนสะสมเร็วๆนี้ เพื่อจ่ายปันผล
TVD (ยังไม่มีเป้า Consensus) รูปแบบราคาแกว่งตัวบีบกรอบแคบรอสัญญาณการ Breakout แนวต้านสั้น 1.27 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 1.50 บาท (Stop loss 1.18 บาท) ... PE ตอนนี้ <10 เท่า + เตรียมเอาส่วนเกินทุนล้างขาดทุนสะสมเร็วๆนี้ เพื่อจ่ายปันผลระหว่างกาล
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ ±6.1 บาท ... ประเมิน Downside risk ต่ำ (ราคาตอนนี้ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมของโรงไฟฟ้าที่มีในมือ + ที่ดิน รร ดาราเทวี) และรอข่าวดีเร็วๆนี้ เรื่องการซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม
SMT (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 13 บาท ... ไม่รวม Upside จากการประกอบแผงโซลาร์เซลล์) วานนี้หลุดแนวรับ 13.5 บาท ประเมินแนวรับถัดไป 12.8 บาท แนะนำ “ซื้อสะสม” คาดไตรมาส 1/59 แนวโน้มกำไร Turnaround ต่อ
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) แนะนำ “ซื้อสะสม” คาดกำไรไตรมาส 1/59 จะทำนิวไฮโต QoQ, YoY ต่อ
MACO (เป้า Consensus 1.60 บาท) ไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1.10 บาทได้ แนะนำ “ขายตัดขาดทุน”
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 56 บาท) หากวันนี้ยืนเหนือ 47 บาท แนะนำ “Let profit run” ถ้าต่ำกว่าแนะนำ “ขายทำกำไร”
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BJCHI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ แนวโน้มเป็นบวกต่อ มี Backlog 3.7 พันล้านบาท รอประมูลงานอีก 6.5 พันล้านบาท และเป็นหุ้นปันผลสูงเฉลี่ย ±7% ต่อปี
BH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 252 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BH* ไตรมาสแรกจะเด่น เพราะเป็น High season
กลุ่มสื่อสาร คงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารวิ่งขึ้นมาถึง 7% ในช่วงสองวันที่ผ่านมาจากกระแสข่าวว่า JAS* จะไม่สามารถเข้ามาแข่งในธุรกิจมือถือได้ เรายังไม่ฟันธงว่า JAS* จะพลาดท่าในที่สุด ขณะที่การวิเคราะห์สถานะทางการเงินของ JAS* พบว่า JAS* อาจจะหาทางออกด้วยการเพิ่มทุน (ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของธนาคาร) เช่นเดียวกับในกรณีของ TRUE* ทำก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ถ้า JAS* หาเงินไม่สำเร็จ เราก็คาดว่าจะมีการอัพเกรดกลุ่มสื่อสารทั้งกลุ่มจากประเด็นโครงสร้างส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1372 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1372 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นในกรอบ 1372 - 1395 จุด แต่หากวันนี้ SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1372 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1372 - 1355 จุด
แนวรับวันนี้: 1372/1364/1355 แนวต้านวันนี้: 1386/1394
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]