- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 March 2016 18:09
- Hits: 538
บล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Big Caps (DTAC, SCC) หนุนตลาด ผสาน Mid-Small เด่น (BRR) หนุน SET ทดสอบต้านสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 1372 จุด
Nomura : Key Factors
(+) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 3605 ลบ, Long Future 7893, ซื้อ Bond 1824 ลบ
(+) US Econ: ADP เผยจ้างงานภาคเอกชน ก.พ. ที่ 214K จาก 205K มากกว่าคาดที่ 190K
(+) Ex Factor: ความคาดหวังต่อนโยบายผ่อนคลายจากธนาคารกลาง หนุนสินทรัพย์เสี่ยง
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.75% สู่ $34.66/bbl / Brent +0.32% สู่ $36.93/bbl
(+) TFEX: สถานะสะสมของต่างชาติใน TFEX ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันสูงถึง 122,486 สัญญา
(+) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 14.38 เท่า ต่ำกว่าLT Avg PER 14.7 เท่า
SET PER 16F: CNS 13.51x (EPS 101) vs Cons.14.38x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 101, PER15x)
Nomura Daily Top Picks: BRR, DTAC, SCC
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบแนวต้าน 1372/1378จุด และแนวรับ 1356/1350จุด ความคาดหวังเชิงบวกต่อการใช้นโยบายผ่อนคลายจาก ECB ในการประชุม 10 มี.ค. นี้ ยังเป็นแรงผลักดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมุมมอง Nomura คาด ECB มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก -0.1% ลงสู่ระดับ -0.4% รวมถึงคาดหวังการปรับเพิ่มวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์อีกอย่างน้อย 1 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน สู่ระดับ 7 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน รวมไปถึงการรายงานดัชนีการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯจาก ADP เดือน ก.พ. ที่รายงานวานนี้ ที่ 2.14 แสนตำแหน่ง ปรับตัวขึ้นจาก 2.05 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า และดีกว่า consensus คาดที่ 1.9 แสนตำแหน่ง เป็นปัจจัยหนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ +0.2%
แต่อย่างไรก็ตามการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯครั้งนี้กลับเป็นการแข็งค่าเทียบค่าเงินลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก จากทิศทางการใช้นโยบายผ่อนคลายของประเทศอื่นๆ ขณะที่เมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเซียกลับพบว่า ค่าเงินสกุลเอเซียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเช้านี้ค่าเงินเอเซียแข็งค่าขึ้นเฉลี่ย +0.3% เป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางการลงทุนโลกมีแนวโน้มไหลกลับมาสู่ ประเทศในแถบเอเซียที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวดีกว่าโดยวานนี้ Fund Flow ยังคงไหลเข้าไทยทุกตลาด โดยตลาดหุ้น ต่างชาติซื้อมาในอัตราเร่ง 3.6 พันล้านบาท(ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. –ปัจจุบันยอดซื้อรวม 1.05หมื่นลบ ) , TFEX เปิด Net long 7,893 สัญญา(2016YTD +122,486 สัญญา) และพันธบัตร (ซื้อ 1.8 พันล้านบาท) เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขยับขึ้นต่อทั้ง ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ วานนี้ +0.75% สู่ระดับ 34.66 เหรียญต่อบาร์เรล จากแรงหนุนความร่วมมือการคงกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ช่วยหักล้างปัจจัยกดดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ยังคงพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องได้ และราคาน้ำตาลวานนี้ +1.95% สู่ 14.67 เซนต์ต่อปอนด์ ขานรับภาวะอุปทานน้ำตาลในตลาดโลกที่น่าจะขาดแคลนมากกว่าที่คาดเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อหุ้นโภคภัณฑ์ น้ำมันและน้ำตาล ฟื้นตัว
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Short-Term Strategy : Flow Flow ยังหนุน โดยตลาดมีแนวต้านสำคัญ 1372จุด (เส้นค่าเฉลี่ย EMA200 วัน) หากผ่านได้จะเป็นจิตวิทยาบวกยิ่งขึ้น โดยหุ้น Big Caps เด่น ยังคงนำตลาดแนะนำ BANK (BBL, SCB), ENERG (PTTEP, PTT) และ SCC ในฐานะ The Laggard ส่วนกลุ่ม ICT มีจิตวิทยาบวกหลัง JAS ยังไม่ยื่นแผนธุรกิจรอบ 2 ให้ BBL พิจารณา และด้วยกรอบระยะเวลาที่จำกัดเพียงวันที่ 21 มีค 2016 ทำให้ตลาดเริ่มให้น้ำหนักต่อภาพรวมอุตสาหกรรมที่อาจไม่มีคู่แข่งรายใหม่ ภายใต้สถานการณ์นี้ 1) เราแนะนำเก็งกำไร DTAC(ได้ประโยชน์สุดหากไม่มีคู่แข่งรายใหม่ ขณะที่ราคามี Downside จำกัดหลังก่อนหน้าราคาตอบรับปัจจัยลบของการแข่งขันไปแล้ว) 2) JAS จะเป็น High Risk High Return เพราะกรณีไม่ทำ 4G หากยึดตาม TOR จะถูกปรับ 644ลบ และถูกตัดสทธิ์การประมูลครั้งถัดไปของ กสทช แต่ประเด็นการถูกลงโทษเพิ่มเติมไม่แน่ชัด แต่มูลค่าธุรกิจเดิมของ JAS จะมีมูลค่าพื้นฐาน 6.5-7บาท จึงเหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง และ 3) ADVANC เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน Passive เพราะราคาหุ้นมีโอกาสรับปัจจัยบวกต่อประเด็นนี้ปานกลาง และมีปันผลสูงกว่า6% ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาสามารถโอนลูกค้า 2G ได้ค่อนข้างไว 2เดือนราว 5ล้านราย ผสานหุ้น Mid-Small Cpas สตอรี่เด่น นำโดย 1) กลุ่ม Module oil and gas (STPI, BJCHI) PER ยังต่ำ 8เท่าเศษ และลุ้นโครงการ LNG กลับมาเดินหน้าอีกครั้งหลังน้ำมันฟื้น 2) ) Earning Momentum ปี 2016 เด่น(TPCH, ERW) 3) กำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (BRR, CK) 4) เก็งการปรับโครงสร้างภาษี (ROBINS, HMPRO) 5) ปันผล+Upsideสูง นำโดยRP(dividend yield 8.8%), BJCHI (6.8%), QTC (5.9%), SC (5.7%), AP (5.2%), CI(5.0%) PS (4.8%), QH(4.0%) ผสาน Portfolio Top picks MAR 16 : DTAC, BRR, TPCH, CI, ERW, PYLON สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: BRR, DTAC, SCC*
Mid-Long Term Strategy : คาด มีค 2016 หุ้น Big Cap ยังได้รับแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าเอเซียต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจ DM ชะลอตัวกว่า EM-ASIA ผสานสภาพคล่องโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเงินผ่อนคลาย หนุน SET สู่แนวต้าน 1378/1411จุด โดยคาดว่ากลุ่มนำตลาด คือ Big Cap Domestic & High Yield เช่น BBL, SCB, KTB, SCC ผสานหุ้นน้ำมันที่มีลักษณะเก็งกำไรระหว่างเดือนได้ PTT, PTTEP, PTTGC และให้เริ่มจับตา Mid-Small Cap ที่คาดว่าจะเริ่ม Outperform ต่อเนื่อง นำโดย 1) กลุ่ม Module oil and gas (STPI, BJCHI) ลุ้นโครงการ LNG กลับมาเดินหน้าหลังน้ำมันฟื้น 2) Earning Momentum ปี 2016 เด่น (TPCH, ERW, CI) 3) กลุ่มที่กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว CK, BRR 4) High Yield BJCHI, QTC, SC, AP, CI, PS, QH ส่วนหุ้น Dark Horse แนะนำ DTAC ในฐานะ Laggard Downside จำกัด และมีจิตวิทยาบวกหากธุรกิจ ICT พลิกมีผู้แข่งขันในกลุ่มเท่าเดิม สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ เช่น TASCO, EPG หากน้ำมันฟื้นตัวอาจถูกขายทำกำไร และ MEDIA(BEC) ที่กำไรมีแนวโน้มชะลอตัว สำหรับ Portfolio Top picks MAR 16: DTAC, BRR, TPCH, CI, ERW, PYLON
Investment Theme:
.2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
.1Q16 Top Picks : ERW, BBL, ROBINS, BRR, LH, CPF
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BRR (TP15.6*): Support 12.0/11.6 Resistance 12.6/13.0
Theme: Complete Utilization of Sugar / Turnaround
Earning outlook: ผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการใน 2H15 ก้าวสู่การบันทึกกำไรที่จุดสูงสุดใหม่ใน 1Q16F และเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึง 2Q16F เนื่องจาก เป็นช่วงเวลาไฮซีซั่นการส่งมอบน้ำตาลตามวัฏจักรอุตสาหกรรม
Valuation: มูลค่าเหมาะสมปี 2016F ที่ 15.60 บาท Upside 27.8% โดยคาด EPS growth ในปี 16F เติบโตกว่า 78% และเติบโตต่อเนื่องสามปีข้างหน้าเฉลี่ย (16F-18F) กว่า 52.9%
Catalyst: ราคาน้ำตาลวานนี้ +1.95% สู่ 14.67 เซนต์/ปอนด์ จากภาวะอุปทานน้ำตาลโลกที่ตึงตัว เป็น sentiment บวก
DTAC (TP37.25): Support 33.5/32.0 Resistance 35.5/37.25
Theme: Bottom Plays
Earning outlook : Consensus คาดรายได้รวมปี 2016F ยังทรงตัวในระดับสูง 87.8 หมื่นลบ. (+0.1% y-y) ขณะที่คาดกำไรสุทธิที่ 4.8 พันลบ. (-18.6%y-y)
Valuation : มูลค่าเหมาะสม 37.25 (Consensus) Upside 8%
Catalyst : ประเมินราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากว่า 60% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้สะท้อนความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวังไปหมดแล้ว ขณะที่ปัจจุบันมี Upside Risk หาก JAS ไม่จ่ายเงินค่าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz
SCC (TP600.0*): Support 452/448 Resistance 462/470
Theme: Government Spending
Earning Outlook : คาดกำไรสุทธิปี 2016F แตะระดับ 51.2 หมื่นลบ. เติบโต 12.7% y-y แนวโน้มรับรู้กำไรเพิ่มเติมจากโรงงานซีเมนต์ในฐานผลิตต่างประเทศ
Valuation : ราคาเป้าหมาย 600 บาทต่อหุ้น อิงที่ PER16F 14x เท่า มี Upside 31.6%
Catalyst : ได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากการปลดล็อคโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ (ครม.มีมติรับทราบแผน PPP Fast Track ) หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ผสาน Dividend yield สูง 3.4%
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)