WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแกร่งลบความกลัว ศก. โลก
  คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ ตามการพุ่งขึ้นแรงของตลาดหุ้นสหรัฐจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวออกมาแข็งแกร่งทำให้ความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น และช่วยลดความวิตกกังวลในเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ราคาน้ำมันน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ภายในประเทศ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่ลดลงสู่ระดับบริหารจัดการได้และอัตราเงินเฟ้อที่ดีขึ้นแม้เล็กน้อยก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพียงแต่การส่งออกยังมีแนวโน้มแย่อยู่

หุ้นเด่นวันนี้ : KCE (ราคาปิด 84.75 บาท; ราคาเป้าหมาย IAA 85.74 บาท)
  บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการผลิตแผ่นวงจร (PCB) ซึ่งมีจุดแข็งในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ โดยจะเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์และความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลักอันหนึ่งคือ PCB แบบหลายชั้นซึ่งให้อัตรากำไรที่สูง KCE ยังได้กำไรที่ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดเพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจากการที่โรงงานใหม่มีกำลังการผลิตและมีประสิทธิภาพมากกว่า กอปรกับคาดว่าจะมีออเดอร์จำนวนมากขึ้นรองรับ น่าจะเป็นตัวช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ได้อย่างดี อัตราของเหลือทิ้ง (scrap rate) ก็คาดว่าจะปรับตัวลงเช่นกัน KCE ยังได้ประโยชน์จากราคาโลหะอุตสาหกรรมที่ร่วงลงอย่างยาวนานโดยเฉพาะทองแดงที่ KCE ต้องใช้แผ่นทองแดงและวัตถุดิบที่ทำจากทองแดงอื่นถึงราว 20% ของต้นทุน ตามคาดการณ์เฉลี่ยจาสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กำไรสุทธิของ KCE น่าจะเติบโตพุ่งขึ้น 37% ในปี 59 และ 14% ในปี 60 Price Pattern ของ KCE มี Price Pattern ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ซึ่งบ่งบอกว่า Price Pattern ของ KCE ได้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

ราคาสินค้าปรับตัวลงในเดือน ก.พ. เป็นการลดลง 14 เดือนติดต่อกัน ตาม รมว. กระทรวงพาณิชย์ การคำนวณราคาสินค้าและบริการจาก 450 รายการลดลง 0.5% YoY ในเดือน ก.พ. ต่อเนื่องจากเดือน ม.ค.ซึ่งปรับลดลง 0.53% ทั้งนี้เป็นผลจากราคาปลีกน้ำมันที่ลดลง ค่าโดยสารรถสาธารณะ แก๊สหุงต้มและค่าไฟ อย่างไรก็ตาม รมว.พาณิชย์เชื่อว่ามีสัญญาณที่ราคาจะปรับตัวขึ้นเนื่องจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่หลากหลาย (Bangkok Post)
หนึ้ครัวเรือนควรได้รับการจัดการ จากรายงานหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 5.5% YoY ในไตรมาส 3/58 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.5% YoY ตลอดทั้งปี 58 เมื่อเทียบกับจีดีพีของไทยในปีก่อน สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีควรจะลดลงเป็น 81% จาก 85.9% ในปี 57 รมว. กระทรวงการคลังยังกล่าวว่าระดับหนี้ครัวเรือนดังกล่าวอยู่ในระดับที่จัดการได้และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงสนับสนุนโดยนโยบายของรัฐ อาทิ นาโนไฟแนนซ์ และ กองทุนหมู่บ้าน (Bangkok Post)
การส่งออกยังดูไม่สดใส สภาขนส่งสินค้าทางเรือกว่าว่าการขนส่งสินค้าของไทยในไตรมาสแรกยังยากที่จะฟื้นคืนเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะขาลง และคาดการณ์ว่าการส่งออกจะลดลงอีก 4.5-5.0% YoY การส่งออกทั้งปีคาดว่าจะยังติดลบในอัตราที่เทียบเคียงกับปีก่อน (Bangkok Post)
JAS (ปิด 2.78 บาท) ไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการได้การออกหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร ธนาคารกรุงเทพกล่าว โดย JAS จะต้องปรับโครงสร้างการเงินให้เหมาะสมก่อนจะพิจารณาการค้ำประกัน แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารเผยว่าไม่มีธนาคารใดได้รับการติดต่อขอเงินสนับสนุนออกแบงก์การันตีจาก JAS (โพสทูเดย์) ความเห็น: ข่าวนี้ยืนยันสิ่งที่เราคาดว่า JAS คงไม่สามารถจ่ายได้ทั้งหมดยกเว้นจะหาทุนมาเพิ่ม ข่าวนี้นับเป็นข่าวลบต่อ JAS แต่ข่าวดีต่อค่ายมือถือที่เหลือเนื่องจากได้ประโยชน์ที่คู่แข่งรายใหม่เจออุปสรรค
TRUE (ปิด 7.45 บาท) ได้ 6 แบงก์ค้ำประกันค่าใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ได้แก่ ธ.ไอซีบีซี ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงไทยและ ธ.เกียรตินาคิน โดยจำนวนราวครึ่งหนึ่งค้ำโดย ธ.ไอซีบีซี บริษัทเตรียมขยายบริการ 4G ด้วยงบลงทุน 3 ปีถึง 5.7 หมื่น ลบ. โดยมีการสนับสนุนการเงินจากไชน่าโมบายที่เป็นพันธมิตร 3.6 หมื่น ลบ.จะใช้ในปีนี้เพื่อขยายสถานีฐาน 4G 900 เมกะเฮิร์ตซ์ จำนวน 1.6 หมื่นสถานีทั่วประเทศและเพิ่มเป็น 2 หมื่นสถานีในสิ้นปี ส่วนงบที่เหลือ 2.1 หมื่น ลบ. สำหรับการขยายเสา 1800 เมกะเฮิร์ตซ์และ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ จะครอบคลุม 97% ของประชากรในสิ้นปีจากปัจจุบันอยู่ที่ 80% ทรูตั้งเป้าจะชิงส่วนแบ่งตลาดเป็น 33% จากรายได้รวมทั้งตลาดภายในปี 61 จากปัจจุบัน 21% ทรูยังพร้อมจะประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์อีกใบหาก JAS ไม่สามารถได้แบงก์การันตี (Bangkok Post, โพสต์ทูเดย์) ความเห็น: เป็นข่าวบวกต่อ TRUE คลายความคลุมเครือว่า TRUE จะสามารถหาแบงค์การันตีมาเพื่อรับใบอนุญาตได้หรือไม่ ทำให้มั่นใจว่า TRUE จะได้รับใบอนุญาต 900 เมกะเฮิร์ตซ์จริงๆ เราเห็นว่าสถานะของ TRUE ดีขึ้นโดยเปรียบเทียบ เราเชื่อว่ารายได้ของ TRUE จะเติบโตดี อย่างไรก็ดีการเติบโตด้านกำไรยังน่ากังวลและเป็นความท้าทายที่ทรูต้องพิสูจน์ตัวเอง


ต่างประเทศ

    การเติบโตของภาคการผลิตทั่วโลกหยุดนิ่งในเดือน ก.พ. จากราคาที่ร่วงลงทำให้ไม่สามารถกระตุ้นคำสั่งซื้อใหม่ ๆ ได้ และผลักดันให้โรงงานต่าง ๆ ปรับลดกำลังแรงงานลง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเอเชียส่วนมากหดตัวในเดือนก.พ. ส่วนในยุโรปก็ลดลงและยังคงชะลอตัวในสหรัฐ ดัชนี PMI ของภาคการผลิตทั่วโลกของเจพีมอร์แกนซึ่งจัดทำโดยมาร์กิตนั้นร่วงลงอยู่ที่ 50.0 ในเดือนก่อน อยู่ในระดับที่แบ่งระหว่างการเติบโตและการหดตัว และลดลงจาก 50.9 ในเดือน ม.ค. (Reuters)
     อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร หลังจากที่มีข้อมูลแสดงถึงกิจกรรมภาคการผลิตดีดตัวกลับในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในทิศทางที่มีเสถียรภาพหลังจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นทั้งบวกและลบ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีล่าสุดลดลง 16/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.793% เพิ่มขึ้นจกา 1.74% เมื่อวันจันทร์ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีล่าสุดลดลง 1-4/32 และให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.672% เพิ่มขึ้นจาก 2.616% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)

สหรัฐ :

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบ 1 เดือนเมื่อวันอังคาร โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งซึ่งบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นกำลังฟื้นคืนและราคาน้ำมันที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2% แม้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตหดตัวในเดือนก.พ. แต่การเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่ยังเป็นอย่างสม่ำเสมอและปริมาณสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นแสดงถึงสัญญาณของความมีเสถียรภาพ ส่วนยอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับแต่ปี 2550 และยอดขายรถยนต์อันแข็งแกร่งช่วยกระตุ้นอารมณ์ตลาดให้คึกคักเช่นกัน (Reuters)
กิจกรรมภาคการผลิตสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือน ก.พ. แต่มีสัญญาณว่าภาคการผลิตยังคงมีเสถียรภาพเนื่องจากอัตราการเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่เป็นไปอย่างสม่ำเสมอและปริมาณสินค้าคลังก็กระเตื้องขึ้น ดัชนีภาคการผลิตของ ISM เพิ่มขึ้น 1.3 จุด (percentage point) อยู่ที่ระดับ 49.5 ในเดือนก่อน ซึ่งลดลงติดต่อกันแป็นเดือนที่ 5 (Reuters)
ยอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% อยู่ที่ 1.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน ม.ค. สูงสุดนับแต่เดือนต.ค. 50 เนื่องจากยอดใช้จ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นตามตัวเลขในเดือนธ.ค. ที่เพิ่มขึ้น 0.6% (ปรับปรุงแล้ว) ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกรายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.1% นักเศรษฐศาสตร์ได้ประมาณการก่อนหน้านี้ว่ายอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. และค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 10.4% YoY (Reuters)
ยอดจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐในเดือน ก.พ. พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปีในเดือนก่อน และเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายรถยนต์ในเดือนก่อนเพิ่มขึ้นประมาณ 8% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ต่ำลง สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น (Reuters)
ยุโรป :

      ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้น นำโดยตลาดหุ้นลอนดอนซึ่งปิดตลาดทำระดับสูงสุดใหม่หลังจากมีข่าวว่าบริษัท Intercontinental Exchange Inc (ICE) เสนอซื้อกิจการของบริษัท London Stock Exchange Group (LSE) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการตลาดหุ้นลอนดอน และประกาศจะเพิ่มวงเงินในการเข้าซื้อเพื่อตัดหน้าคู่แข่งอย่าง Deutsche Boerse (Reuters)


เอเชีย :

    Moody’s ปรับลดมุมมองต่อจีนเป็นลบ จากระดับเสถียรภาพเดิม โดยระบุถึงความอ่อนแอทางการคลังของรัฐบาล รวมไปถึงความไม่แน่นอนในการดำเนินการปฎิรูปประเทศ อย่างไรก็ตามยังคงให้อันดับความน่าเชื่อถือของจีนที่ระดับ Aa3 จากปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศจำนวนมาก (Reuters)
    จีนเตรียมปลดแรงงานภาครัฐออก 5-6 ล้านคนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ตามแผนการลดมลพิษและลดกำลังการผลิตส่วนเกินในปัจจุบันลง โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายราว 1.5 แสนล้านหยวน (2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ) (Reuters)
     เม็ดเงินลงทุนภาคธุรกิจในญี่ปุ่นในช่วง 4Q58 ขยายตัวน้อยที่สุด ขณะที่กำไรบริษัทผู้ประกอบการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณถึงผลกระทบที่อาจมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลข GDP ที่ได้รับการทบทวนที่จะประกาศในวันที่ 8 มี.ค. อาจลดลงจากที่รายงานในครั้งแรก (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

     น้ำมันดิบขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร เพราะจีนเซอไพรส์ตลาดด้วยการผ่อนคลายมาตรการการเงิน ทำให้คาดกันว่าอาจมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น กอปรกับ OPEC มีผลผลิตน้ำมันที่ลดลง อย่างก็ดีราคาที่ขึ้นไปก็กลับลดลงมาเกือบทั้งหมดหลังปิดตลาดเพราะข้อมูลจาก API ชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐก่อตัวเพิ่มขึ้นมากจนแตะสถิติสูงสุดแล้ว Brent พ.ค. ปรับขึ้น 24 เซนต์ (0.6%) อยู่ที่ 36.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 65 เซนต์หรือ 2% ปิดที่ 34.40 ดอลลาร์ (Reuters)
   ราคาทองกลับลดลงวันอังคาร เพราะค่าเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นจากตัวเลขสหรัฐที่ดีกว่าคาด หนุนการเก็งว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.2% ปิด 1,235.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังบวกรายเดือนมากสุดในรอบ 4 ปีจากการไล่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพราะความกังวลเศรษฐกิจโลก (Reuters)

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
  Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!