- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 February 2016 16:45
- Hits: 799
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังบวกแต่ผันผวนมากขึ้น น่าแบ่งขายช่วงบวก เพื่อรอซื้อช่วงลบ!!
กลยุทธ์ : SET ขยับขึ้นมาพอควรในช่วงที่ผ่านมา และระยะนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันให้ตลาดแกว่งผันผวนมากขึ้นด้วย ส่วนปัจจัยบวกที่หนุนตลาดอยู่ก็ไม่ได้มีความชัดเจนมากนัก ทำให้ต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับพักตัวลงในกรอบกว้างไว้ด้วย ดังนั้น FSS จึงแนะนำให้ทยอยขายเพื่อลดพอร์ตช่วงตลาดเป็นบวกบ้าง แล้วถือเงินสดไว้รอจังหวะกลับเข้าซื้อช่วง SET ไหลลงต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TVO, PTG, CHG(buy back)
แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ยังขยับบวกต่อเนื่องได้ดี แต่ก็มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวันพอควร แสดงถึงแรงขายทำกำไรที่เริ่มมีออกมากดดันมากขึ้น หลังจากดัชนีขยับขึ้นมาเพื่อตอบรับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไปพอควรแล้ว ขณะที่ช่วงหลังราคาน้ำมันเริ่มทำได้แค่แกว่งทรงตัว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการควบคุมภาวะ Oversupply ของตลาดน้ำมัน ส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นสหรัฐก็เริ่มมีการปรับพักตัวย้อนปิดลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมุมมองบวกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดมาในช่วงนี้เริ่มอ่อนแรงลง ประกอบกับราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลงอีกครั้งด้วย อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังขยับด้านบวก เพราะนักลงทุนยังมีความหวังกับการส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจากผู้ว่าการธนาคารกลางจีน แต่กรอบบวกยังค่อนข้างจำกัด และหลายตลาดมีแนวโน้มแกว่งผันผวนพอควร จากความไม่แน่นอนที่ยังปกคลุมตลาดอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะอยู่ในช่วงแกว่งผันผวนและย้อนลบลงอีกได้ในเร็วๆ นี้
แนวรับ 1340-1335 , 1332-1326 จุด
แนวต้าน 1345-1350 , 1353-1357 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคไหลเข้าภูมิภาค US$475 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$305.2 ล้าน และ US$211.2 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ไหลออกจากไทย US$38.4 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$14.8 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคจากแนวโน้มที่ ECB และ BOJ (ประชุมกลางมี.ค.) จะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมซึ่งน่าจะหนุนสภาพคล่องในตลาดการเงินให้เพิ่มขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) โอกาสพักฐานระยะมากขึ้น สหรัฐประกาศ GDP 4Q15 +1% Q-Q annualized ดีกว่าตลาดคาดที่ +0.4% และดีกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +0.7% ทำให้ความกังวลเรื่อง Fed ขึ้นดอกเบี้ยกลับมาใหม่ ขณะที่ราคาน้ำมันกลับมาปรับลงจากแรงขายทำกำไรหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้น 6-11%
(0) กำไร bottom แล้ว กำไรสุทธิที่ไม่รวมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี -1% Q-Q, -9% Y-Y กลุ่มที่กำไรดีได้แก่กลุ่มไฟแนนซ์ โรงพยาบาล โรงแรม อิเล็คทรอนิคส์ ส่วนกลุ่มที่กำไรน่าผิดหวังคือ เรือ เหล็ก สายการบิน รับเหมาก่อสร้าง มีเดีย สินค้าเกษตร เครื่องดื่ม
(+) BEAUTY กำไรไม่หยุดทำ new high +29% Q-Q, +25% Y-Y ดีกว่าคาด Growth story ยังไม่จบ เราคาดกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ย 22% จากการขยายสาขาในประเทศ 50 สาขา ต่างประเทศ 18 สาขา เพิ่มช่องทางออนไลน์ผ่าน Beautyplaza และเพิ่ม SKU ด้วยสินค้านวัตกรรมใหม่ โครงสร้างการเงินแข็งแกร่ง ไม่มีหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ย มี ROE 43% จ่ายปันผล 99% ของกำไร BEAUTY จึงสมควรซื้อขายที่ PE สูง ปัจจุบันมี PBV และ PE ที่ 14 และ 32 เท่า ยังมี Upside แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6.10 บาท
(+) KAMART กำไรสุทธิ 4Q15 พุ่งแรง 74% Q-Q โดยมีการตีมูลค่าสินค้าเพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออก กำไรปกติยังเพิ่มสูง +46% Q-Q, +3% Y-Y จากค่าใช้จ่ายโฆษณาลดลง เราเชื่อว่าปี 2016 จะเป็นปีทองของ KAMART เพราะตัดขาดทุนธุรกิจเก่าหมดแล้ว แบรนด์ที่รู้จักมากขึ้น การผันไปทำต้นน้ำคือผลิตเองจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้น และอุตสาหกรรมเครื่องสำอางขยายตัว 10-15% ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 9.50 บาท
(+) BLA พลิกจากขาดทุนใน 3Q15 เป็นกำไรสุทธิ 2,285 ล้านบาทใน 4Q15 แต่ทรงตัว Y-Y ดีกว่าเราและตลาดคาดเพราะกลับรายการสำรองฯที่ตั้งไว้ และเบี้ยประกันภัยรับสุทธิสูงกว่าคาด ทำให้กำไรทั้งปี +54% Y-Y เราคงกำไรปีนี้ที่คาด -27% Y-Y เพราะบริษัทต้องการส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นทำให้ต้องออกประกันระยะสั้นเพิ่ม ทำให้อาจต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น คงเป้าหมาย 56 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากถือ เพราะ upside ที่สูง 31%
(-) VNG กำไรชะลอกว่าคาด -41.3% Q-Q จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรุดลงเร็วเหลือเพียง 26.2% ต่ำสุดในรอบ 4 ไตรมาส กำไรสุทธิทั้งปีที่โตสูง 90% Y-Y มาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงที่สุดในรอบ 9 ปีเพราะต้นทุนเศษไม้ยางพาราตกต่ำมาก แต่รายได้เพิ่มเพียง 0.4% Y-Y ทั้งที่เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว เราปรับกำไรปีนี้ลงอีก 12% ทำให้กำไรปีนี้ -12% Y-Y ราคาพื้นฐานปรับเหลือ 11 บาทจาก 12 บาท ยังคงแนะนำขาย
(-) CSS กำไรน่าผิดหวังตั้งแต่ซื้อหุ้น NWC 70% ใน 2Q15 กำไรสุทธิ 4Q15 ลดมากกว่าคาด -7% Q-Q, -36% Y-Y จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น แม้งานติดตั้งเสา 4G จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ปริมาณงานอาจไม่มากเท่าที่บริษัทหวัง ปรับกำไรปีนี้ลง 5% เหลือ +3.4% Y-Y ปรับเป้าเหลือ 4.50 บาท แนะนำถือ หรือ switch เป็น ARROW หรือ SCI
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวผสมท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลงอีกครั้งหลังจากพึ่งขึ้นในช่วง 2 วันก่อนหน้า
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกไดดีต่อเนื่องนำโดยหุ้นในกลุ่มเหมืองและน้ำมัน รวมถึงแรงหนุนจากธนาคารกลางจีนที่ส่งสัญญาณว่าอาจกระตุ้นเศรษฐกิจ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังปรับตัวค่อนมาในแดนบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของโลกในสัปดาห์นี้
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างแต่เริ่มมีจังหวะอ่อนค่าให้เห็น ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.68-35.77 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ขยับลง 0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 32.78 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ภาพทั้งสัปดาห์ยังปรับตัวขึ้นได้โดยได้รับแรงหนุนจาก Supply ของอิรักและไนจีเรียที่ลดลงในระยะสั้นจากท่อส่งที่หยุดชะงัก
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 18.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังมีแรงซื้อจากกองทุนเนื่องจากคาดว่าการประชุม G-20 จะมีการร่วมมือกันกระตุ้นเศรษฐกิจ