- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 February 2016 18:23
- Hits: 4877
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น 25 กุมภาพันธ์ 2559
รอบด้านตลาดหุ้น 25/02/16
มุมมองตลาด
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสู่ระดับที่เราประมาณไว้ที่ 1340 จุด ขณะที่ RSI ปรับตัวขึ้นมาในตำแหน่งที่มีความผันผวนสูง การเพิ่มขึ้นของดัชนี US dollar จาก95.5 จาก 97.5 หรือ +2% ส่งผลให้มีความผันผวนในการซื้อขายสินทรัพย์ตลาดหุ้น น้ำมันและพันธบัตร เรายังคงระมัดระวังกับการปรับเพิ่มขึ้นของความผันผวนของสินทรัพย์แทบทุกประเภทรวมถึงตลาดหุ้น
ดัชนี ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในประเทศยุโรปเริ่มปรับตัวลง ไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญ 9500 จุดขึ้นไปได้ หลังความกังวลเรื่องการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกส่วนใหญ่เริ่มปรับตัวลงภายหลังจากปรับขึ้นแรง
ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่ระดับเป้าหมายระยะสั้นของเราแต่จากการวิเคราะห์ในเรื่องกระแสเงินลงทุน ดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศรวมทั้งตลาดหุ้นไทย บ่งชี้ว่าความเสี่ยงตลาดที่ระดับปัจจุบัน ซึ่งเราควรเฝ้าระวังการปรับตัวขึ้นของตลาดรอบนี้อย่างใกล้ชิด
BLS report 25/02/16
SAPPE (HOLD /TP 17.5)
รายงานกำไรสุทธิ 4Q15 ที่ 37 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 35%YoY แต่ลดลง 37%QoQ) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 25% หากไม่นับรวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 4 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 32 ล้านบาท แนวโน้มเรายังคงมองว่าผลประกอบการใน 1Q16 อยู่ในระดับที่อ่อนแอ เพราะค่าเสื่อมราคาของสายการผลิตใหม่ ประกอบกับ utilization rate ที่ยังทรงตัว จะยังไม่ช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นไปมาก และยอดขายที่แนวโน้มอ่อนตัวลง QoQ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันกำไรให้ฟื้นตัวได้ไม่มาก
ICHI (SELL)
รายงานกำไร 4Q15 ที่ 54 ล้านบาท (ลดลง 73%YoY และ 54%QoQ) ต่ำกว่าที่เราและ Consensus คาดราว 50% เรามีมุมมองเชิงลบต่อภาพธุรกิจและผลประกอบการของ ICHI เรามองว่าภาพรวมตลาดชาฯปี 2016 เติบโตจำกัดเพราะการแข่งขันด้านราคา และบริษัทจะรับรู้ค่าเสื่อมราคาจากสายการผลิตที่ 5 เต็มปี ราคาเป้าหมาย 10 บาท (อิง P/E 15 เท่า ซึ่งเป็นจุดที่หุ้นปรับตัวลงมาหลังจากผิดหวังผลประกอบการในปีที่แล้ว)
COM7 (BUY /TP 7)
รายงานกำไร 4Q15 108 ล้านบาท (เติบโต 39%YoY และ 258%QoQ) โดยกำไรที่เติบโตสูงนั้นมาจาก รายได้ ซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากนโยบาย ชอปลดหย่อนภาษี 15,000 บาท ของภาครัฐฯและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น เรามองว่ากำไรที่มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องมากกว่าที่เราและตลาดมีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เพราะบริษัทเน้นกลยุทธ์การขยายอัตรากำไรเป็นหลัก โดยคาดบริษัทซึ่งเป็นผู้ขาย iPhone รายใหญ่ในประเทศจะสามารถเจรจาขอซื้อเครื่องตรงจาก Apple ได้ (ไม่ต้องผ่าน dealer) หนุนให้บริษัทได้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 2-3% ในขณะที่ยอดขาย iPhone มีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของรายได้รวม คาดหนุนให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นอีกปีละ 60-100 ล้านบาท คิดเป็นส่วนเพิ่มกำไรอีกราว 20-35% จากปีที่แล้วที่มีกำไร 268 ล้านบาท ดังนั้นเราจึงปรับคาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยขึ้นเป็น 43%/ปี (จากเดิม 30%) ในช่วง 2015-17
ANAN (BUY /TP 4.8)
รายงานกำไรหลักไตรมาส 4Q15 ที่ 901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% YoY และกระโดดสูงขึ้น 461% QoQ กำไรหลักที่ขยายตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ มีปัจจัยจากการเติบโตของรายได้โครงการที่อยู่อาศัยหลังมีการเริ่มโอนโครงการ จากแนวโน้มกำไรเติบโตดีสุดในปี 2559 ในกลุ่มที่อยู่อาศัยของเรา ANAN ยังเป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดในการเลือกลงทุนในปี 2559 ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2559 ที่ 4.80 บาท อิงระดับ PER ที่ 12
AP (Trading BUY /TP 6.4)
รายงานกำไร 4Q15 676 ล้านบาท (เติบโต 11%YoY และ 9%QoQ) ต่ำกว่าคาดเนื่องจากรายได้โครงการที่อยู่อาศัยที่ลดลงและอัตรากำไรที่ลดลง เนื่องจากความชัดเจนของกำไรปี 2559 นั้นค่อนข้างต่ำ โดยมียอดขายรอรับรู้รายรายได้ประกันเพียง 14% ของที่เราประมาณการ อย่างไรก็ตามมูลค่าหุ้นในปัจจุบันนั้นถูกมาก โดยซื้อขายกันอยู่ที่ค่า PER ปี 2559 เพียง 6.4 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำ
CPN (BUY /TP 63.5)
รายงานกำไร 4Q15 1900 ล้านบาท (เติบโต 5%YoY และ 5%QoQ) เนื่องจากรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น และรายได้จากอาหารและเครื่องดื่มจากศูนย์อาหารในศูนย์การค้าใหม่ แนวโน้มกำไรปี 16 มีแนวโน้มดีขึ้นจากการเปิดให้บริการของศูนย์การค้าใหม่และอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้น โดยมูลค่าปัจจุบันนั้นค่อนข้างน่าสนใจ โดยซื้อขายกันอยู่ที่ค่า PER ปี 16 ที่ 22.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 26.5 เท่า
SAWAD (BUY /TP 57)
รายงานกำไร 4Q15 397ล้านบาท (เติบโต 49%YoY และ 7%QoQ) เนื่องจากรายได้สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยปัจจัย 1) แนวโน้มสินเชื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องและความต้องการสินเชื่อในตลาดที่ธนาคารยังเข้าไปไม่ถึง 2) SAWAD มีฐานธุรกิจไฟแนนซ์รายย่อยที่ครบวงจร 3) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการบริหารจัดการสัดส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ดี และ 4)ยังเติบโตได้อีกเยอะมากเนื่องจากมีอัตราหนี้สินต่อส่วนทุนต่ำที่เพียง 1.8 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของธนาคารที่ 10 เท่า เราจึงเชื่อว่าอาจมีอัพไซด์ต่อ SAWAD ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจโดยตรงและการเข้าซื้อกิจการในอนาคต
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์/ปัจจัยทางเทคนิค
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ข่าวเด่นเศรษฐกิจ
รายได้เดือน ม.ค.ฝืด คลังเก็บพลาดเป้า 1.4 หมื่นล้าน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.58-ม.ค.59) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 742,070 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 54,323 ล้านบาท หรือ 7.9% และ 11.1% สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาต 4 จีคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์สูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่การจัดภาษีต่ำกว่าประมาณการ สำหรับเดือน ม.ค.2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 156,392 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 14,591 ล้านบาท หรือ 8.5% มีสาเหตุสำคัญจากมูลค่าการนำเข้าที่ลดลงจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
คปภ.ชี้ปัจจัยบวกเพียบ ปีนี้เบี้ยทะลุ 8 แสนล้าน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 คปภ.คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะมีเบี้ยรับรวม 8.01 แสนล้านบาท เติบโต 8.02% แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิต 5.8 แสนล้านบาท ขยายตัว 9.55% และเบี้ยประกันวินาศภัย 2.17 แสนล้านบาท ขยายตัว 4.12% จากปีก่อน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ครม.ไฟเขียวหักภาษี 'แอลทีเอฟ'
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศกฎกระทรวงการคลังลดหย่อนภาษีให้ผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ ได้ถึงปี 2562 โดยให้นำรายจ่ายจากการซื้อหน่วยลงทุนมา หักลดหย่อนภาษีได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี โดยต้องถือหน่วยลงทุนเป็นเวลา 7 รอบปีบัญชี (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
MSCI เพิ่มน้ำหนัก SCB-BTS ลดน้ำหนักหุ้นไทย 9 บริษัทมีผล 29 ก.พ.
MSCI ปรับดัชนี MSCI รายไตรมาสมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.ที่จะถึงนี้ โดย MSCI Thailand ได้เพิ่มน้ำหนักหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ลดน้ำหนักหุ้นบริษัท ปตท. (PTT) ธนาคารกสิกรไทย กระดานต่างประเทศ (KBANK-F) บริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย กระดานต่างประเทศ (SCC-F) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) KBANK บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ลุยช็อปอินฟราฟันด์ บลจ.ธนชาตคลอดกองใหม่ลงทุน
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนธนชาตพร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อิน ฟราสตรักเจอร์ เฟล็กซิเบิล (T-Prop InfraFlex) เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ. 2559 โดยจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราฟันด์) ในประเทศที่มีโอกาสเติบโตสูง (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
เอสซีจีชี้ตลาดโต 3-4%
นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2559 ยังคงถูกกดดันจากภาวะภัยแล้ง และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้บริษัทคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมในปีนี้จะเติบโตได้เพียง 3-4% จากปี 2558 ที่มูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.5 แสนล้านบาท (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค