- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 February 2016 17:17
- Hits: 639
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET บวกต่อได้ แต่เสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นควรเริ่มทยอยขายช่วงบวก...
กลยุทธ์ : หลังจากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา SET ดีดขึ้นมาแล้วกว่า 100 จุด โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ดัชนีขยับขึ้นมาเร็วเกือบ 70 จุดแล้วด้วย ในขณะที่ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่มเติม ทำให้ต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับพักตัวลงในกรอบกว้างได้ในช่วงถัดไป ดังนั้น FSS จึงแนะนำให้เริ่มทยอยขายเพื่อลดพอร์ตแล้วถือเงินสดไว้บ้างในช่วงตลาดเป็นบวก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTCL, JSP, VGI(buy back)
แนวโน้ม : แม้ว่าเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะยังปิดปรับตัวลดลง แต่ SET พลิกกลับมาแกว่งตัวด้านบวกได้ตั้งแต่ช่วงบ่าย พร้อมทั้งปิดเป็นบวกได้ดีพอควร ซึ่งเช้านี้ยังได้รับแรงส่งจากการพลิกกลับมาปิดเป็นบวกของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้อีก หลังจากช่วงแรกตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวลดลงก่อน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังอ่อนแอลงต่อเนื่อง ก่อนที่ในช่วงค่ำราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะฟื้นตัวกลับมาปิดเป็นบวกได้ เนื่องจาก EIA รายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว จึงกระตุ้นให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานอีกครั้ง ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สามารถเปิดเป็นบวก ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีลุ้นขยับบวกต่อเนื่องได้ตามคาด อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ต้นปี 2016 เป็นต้นมา SET แกว่งไต่ระดับขึ้นมาได้พอควรแล้ว ในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์นี้ดัชนีดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ทำให้ต้องระวังแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมากดดันให้ SET มีจังหวะปรับพักตัวลงในกรอบกว้างได้ในช่วงถัดไป เราจึงแนะนำให้เริ่มทยอยขายลดพอร์ตช่วงตลาดบวก
แนวรับ 1330-1326 , 1323-1319 จุด
แนวต้าน 1335-1338 , 1340-1342 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบางลงเหลือ US$12ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าประเทศไทย US$38.1ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$11.7 ล้าน ขณะที่ไหลออกไต้หวัน US$28.9ล้าน และอินโดนีเซีย US$25.5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่น่าจะยังเบาบางตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ซึ่งน่าจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานต่อไป
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ผลประกอบการโดยรวมไม่แย่กว่าคาด ล่าสุด 54% ของหุ้นใน FSS Coverage รายงานผลประกอบการแล้ว ปรากฎว่ากำไรสุทธิ 4Q15 +433% Q-Q, +386% Y-Y จากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่พลิกเป็นกำไร จากที่ขาดทุนใน 3Q15 และ 4Q14 เพราะ Stock loss หากตัดทั้ง 2 กลุ่มออก กำไรสุทธิของกลุ่มที่เหลือ +7% Q-Q, -1% Y-Y กลุ่มที่กำไรโดดเด่นกว่ากลุ่มอื่น คือกลุ่มไฟแนนซ์ โรงพยาบาล โรงแรม อิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ราคา outperform ตลาดในปีที่ผ่านมา แนวโน้มกลุ่มดังกล่าวยังมีโมเมนตัมที่ดีต่อในปีนี้ เรายังชอบไฟแนนซ์ (MTLS, GL, LIT) โรงพยาบาล (BDMS) โรงแรม (MINT) และบจ.ที่มี Growth story ในปีนี้เช่น BIG, ARROW, EPG, SNC, SVI, TU, TPCH
(+) BBL ราคาหุ้นที่ laggard กลุ่มเพราะความกังวลต่อการค้ำประกันค่าใบอนุญาตของไทยทีวีและ CTH และอาจค้ำประกันให้กับที่ประมูล 4G เราพบว่าหากรวมความเสี่ยงทั้งหมดแล้ว จะส่งผลต่อมูลค่าทางบัญชีให้ลดเหลือ 160 บาท จาก 195 บาท ซึ่งราคาหุ้นได้สะท้อนไปแล้ว ขณะที่การการันตีกลุ่ม JAS น่าจะเป็นการการันตีร่วมหลายธนาคาร ความเสี่ยงจึงจำกัดลง ส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอล เราคาดว่าสำรองส่วนเกินที่มีอยู่ 5 หมื่นล้านบาท น่าจะนำมาใช้รองรับได้ เรายังคงราคาพื้นฐาน 195 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
(0) BCH กำไร 4Q15 ดีกว่าคาด +32.7% Q-Q, +32.5% Y-Y จากรพ. WMC ที่ดีขึ้นมาก ทำให้กำไรทั้งปี +1% Y-Y โตครั้งแรกในรอบ 3 ปีตั้งแต่เปิด WMC ซึ่งกำลังเข้าใกล้จุดคุ้มทุนหลังได้ทีมแพทย์ใหม่ที่มีชื่อเสียง ส่วนผู้ป่วยต่างชาติยังโตต่อจากการทำสัญญาส่งต่อผู้ป่วยทั้งจากจีนและตะวันออกกลาง และมีรายได้จากประกันสังคมที่คาดว่าจะโตขึ้นจากรพ.การุณเวชรัตนาธิเบศร์ที่เปิดกลางปีก่อนและรพ.เกษมราษฏร์ศรีบุรินทร์ที่กลับมารับผู้ป่วยประกันสังคมอีกครั้ง เราปรับกำไรปกติปี 2016 ขึ้น 4% เป็นเติบโต 21.4% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานเป็น 10.50 บาทจาก 9.60 บาท (DCF) แต่ราคาหุ้นขึ้นแรงจน upside แคบ ปรับคำแนะนำลงจากซื้อ เป็นถือ
(+) NCL เราเริ่มต้น Coverage ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 2.70 บาท ความน่าสนใจอยู่ที่การ Turnaround จากขาดทุนใน 9M15 คาดว่าจะเสมอตัวใน 4Q15 และเริ่มกำไรตั้งแต่ 1Q16 เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 46 ล้านบาทจากรายได้ที่โตตามอุตสาหกรรม และต้นทุนที่ลดลงจากการซื้อตู้คอนเทนเนอร์ไว้ใช้เองซึ่งถูกกว่าการเช่าในปัจจุบัน เสริมด้วยบ.ย่อยในสิงคโปร์ที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว แม้คู่แข่งจะมีมากแต่มูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่า 1.7 แสนล้านบาท ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง โอกาสเติบโตจึงยังเปิดกว้างสำหรับ NCL
(+) GTB เป็นผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำชั้นนำของไทยและอาเซียน ที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ แม้กำไรปกติปี 2014-15 ชะลอ -37% Y-Y และ -2% Y-Y จากผลกระทบการเมือง แต่คาดปี 2016 กำไรปกติจะฟื้นเท่าตัว +99.8% Y-Y จาก Backlog เกือบ 500 ล้านบาทซึ่งรองรับคาดการณ์รายได้ของเราแล้ว 50% งานส่วนใหญ่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ภาษีจ่ายลดลงเพราะได้ BOI และคาดกำไรโตต่อเนื่อง 11.8% Y-Y ในปีหน้า เราประเมินมูลค่าหุ้นได้ 1.62 บาท อิง PE 16 เท่า
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมารีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยหลังระหว่างวันปรับตัวลงมากกว่า 1.5% ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าตัวเลข PMI ภาคการผลิตจะออกมาอ่อนแอ
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนยังปิดลบค่อนข้างแรงต่อเนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้า Commodity ที่ร่วงแรง ซึ่งบดบังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สดใส
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มขยับตัวในแดนบวกได้เล็กน้อยเช่นกันตามตลาดหุ้นสหรัฐฯรวมถึงแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้น
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างค่อนมาในทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.63-35.75 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ขยับขึ้น 0.28 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 32.15 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 16.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,239.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.หดตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี และยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-ก.พ. - ฮ่องกง: 2015 GDP
- สิงคโปร์: 4Q15 (ตลาดคาด +1.8% Y-Y ชะลอจากปีก่อนที่โต 2.5%)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่(ม.ค.)
25-ก.พ. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ วันปฎิวัตประชาชน Edsa People Power
- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.)
- สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
26-ก.พ. - สหรัฐ: 4Q15 GDP (ตลาดคาด +0.5% Q-Q ชะลอจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +0.7% Q-Q)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
29-ก.พ. - ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการ
- ไทย:วันสุดท้ายส่งงบการเงินปี 2015,ธปท.รายงานเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
- สหรัฐ: Pending home sales (ม.ค.)
1-มี.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
- จีน:Manufacturing PMI (ก.พ.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.พ.)
2-มี.ค. - สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (ก.พ.), Fed Beige Book
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch