WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

'น้ำมันร่วงกดดัน...ไม่หลุด 1300 ยังลุ้นถือได้'
Stock Picks-Feb 2016 : Fundamental : INTUCH, KBANK, GFPT, PTT, TU และ Dark Horse เป็น SAMTEL
Fundamental Pick -Today: CPN(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, QTC, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : KTC 40%, BA 19%

Technical View ภาพตลาดเป็นบวก ที่พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ
Support Resistance Stop Loss
SET ซื้อค่าบวก 13301340,1350 หลุด 1300
SET50 ซื้อค่าบวก 860,870 หลุด 820
Technical Picks - Today KKP, CPN, KTB, BJCHI, ERW, TMT, THANI, CENTEL

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SPALI (จากซื้อเป็น ถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปรับขึ้นต่อ 5.6 จุดปิดที่ 1325.79 ซึ่งดีกว่าหลายตลาดในภูมิภาคที่อ่อนตัวลง กลุ่มที่หนุน คือ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (ที่คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตดีใน 1Q16 เพราะปล่อยให้กับผู้ประกอบการที่ชนะประมูล 4G) กลุ่มพลังงานที่กำไรปีนี้จะพลิกฟื้นจากฐานที่ต่ำมากในปีก่อน รวมถึงหุ้นปันผลสูง อย่างไรก็ดี นักลงทุนสถาบันและรายย่อยแบ่งขายทำกำไรในจังหวะที่ดัชนีปรับขึ้นมา 1300 ต้นๆ ส่วนต่างชาติและพอร์ตบล.ยังคงซื้อสุทธิต่อกลุ่มละ 900 กว่าล้านบาท


ในระยะสั้นมาก ราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งแรงและภาวะอุตสาหกรรมผลิตและสำรวจก๊าซและน้ำมันที่ซบเซามาก (IEA ระบุว่าการลงทุนทั่วโลกในอุตสาหกรรมดังกล่าวลดลง 24% ในปี 2015 และคาดว่าจะลดลงอีก 17% ในปีนี้) กลับมากดดัน Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะมีช่วงของความเสี่ยงขาลงน้อยกว่าปี 2014-2015 เพราะเริ่มต้นปีที่ฐานต่ำราว 37 US$/bbl (BRENT) ขณะที่ปี 2014 และ 2015 เริ่มต้นปีที่ 108 และ 57 US$/bbl ตามลำดับ ทำให้ความเสี่ยง Stock loss น้อยลงรวมทั้งการตั้งสำรองด้อยค่าฯก็จำกัดมากแล้ว กลยุทธ์ลงทุนหุ้นพลังงานจึงเป็นการทยอยซื้อสะสมจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว กลุ่มที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตดีต่อในปี 2016 คือ ท่องเที่ยวและไฟแนนซ์ แต่ต้องจับจังหวะลงทุนเพราะราคาหุ้นขึ้นมาแล้วพอควร ส่วนหุ้นที่น่าสนใจอีกกลุ่มเป็นพวกธุรกิจมั่นคง มีรายได้ค่อนข้างแน่นอน และหุ้นปันผลสูง สำหรับภาพรวมของการลงทุนใน Equity : การเล่นรอบไม่ควรหวัง Gap กำไรมากเพราะตลาดยังผันผวน ส่วนการลงทุนระยะยาวแนะนำให้ทยอยซื้อเป็น Step หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เลือกเป็น CPN

วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเป็นบวก แต่พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ แนวต้านระยะสั้น 1330-1340, 1350 จุด เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี ต่ำกว่า 1300 จุด ควรลดพอร์ตตาม สำหรับ SET50 มีแนวต้านระยะสั้น 860, 870 จุด และมีระดับ Stop loss ที่ 820 จุด

Market Drivers

ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. +0.4%MoM สู่ระดับ 5.47 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ก.ค.2015
- สหรัฐ : ภาคการผลิตและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ชะลอตัวลง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่าดัชนีภาวะธุรกิจปัจจุบันในส่วนของภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ -4 ในเดือนก.พ. จากระดับ 2 ในเดือนม.ค. เพราะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอ รวมทั้งการดิ่งลงของราคาพลังงาน ด้าน Conference Board ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ลดลงเป็น 92.2
สหรัฐ : ตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดตามช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ., ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งรายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


- น้ำมัน : รมว.น้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ซาอุฯยังไม่มีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และเชื่อว่าการลดปริมาณผลิตจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะควบคุมแต่ละประเทศได้ยาก จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และปริมาณการผลิตจะลดลงเองจากการที่ผู้ประกอบการต้นทุนสูงปิดกิจการ
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เราประเมินว่าผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางหลายประเทศน่าจะคิดเห็นเหมือนซาอุฯเพราะมีต้นทุนของบ่อน้ำมันที่ต่ำกว่าทางเวเนซูเอล่า รัสเซีย และแคนาดา อย่างมาก และความเห็นของซาอุฯมีผลต่อตลาดน้ำมันเพราะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของกลุ่มโอเปก เราคาดว่าจะมีการเจรจาเพื่อตรึงและปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันกันต่อไป แต่โอกาสทำสำเร็จยังน้อยในระดับราคาน้ำมัน 30-35 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะต้นทุนการผลิตน้ำมันที่เป็น Cash Cost+ค่า Royalties ของซาอุฯ อิรัก เม็กซิโก และจีน ต่ำกว่า 20 ดอลลาร์/บาร์เรล (ดูกราฟด้านล่าง)ทั้งนี้กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบประมาณ 40% ของการผลิตทั่วโลก และซาอุฯเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโอเปกที่ 28% และคิดเป็น 10% ของโลก


- IEA คาดราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำอีกระยะหนึ่ง เปิดเผยรายงาน "Medium-Term Oil Market Report" โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงเคลื่อนไหวระดับต่ำในระยะสั้น และคาดว่าอุปทานน้ำมันจะยังคงมีมากกว่าอุปสงค์ (Over supply) ราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2016 ซึ่งดีขึ้นจากปี 2015 ที่มี Over supply 2 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ยังแย่กว่าปี 2014 ที่ Over supply 9 แสนบาร์เรล/วัน
- การลงทุนผลิตและสำรวจก๊าซและน้ำมันปี 2016-2017 ลดลง โดย EIA ระบุว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวลดลงราว -24% ในปี 2015 และจะลดลงต่ออีก -17% ในปี 2016


ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เป็นข่าวลบกับกลุ่มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในอุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังผู้รับเหมาช่วงด้วย อย่างเช่น BJCHI, STPI เป็นต้น อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันทั้งสองบริษัทมี Backlog สูงพอควร สามารถรับรู้รายได้ไปถึงอย่างน้อยกลางปี 2017 และหวังว่าราคาน้ำมันจะพลิกฟื้นขึ้นมาได้ใน 2H16 ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตก๊าซและน้ำมันดีขึ้นตามไปด้วย


- ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง โดยสัญญา WTI และ BRENT ส่งมอบเม.ย.ปิดลดลง 1.52 และ 1.42 ดอลลาร์ หรือลดลงกว่า 4% มาที่ระดับ 31.87 และ 33.27 ดอลลาร์/บาร์เรล การซื้อขายในตลาดน้ำมันซบเซาหลังมีข่าวซาอุฯไม่มีแผนปรับลดปริมาณการผลิต
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงเพราะราคาน้ำมันกลับมาอ่อนตัว ปิดตลาดดัชนี DJIA ลดลง 188.88 จุด ปิดที่ 16,431.78 จุด ทั้งนี้เป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ไร้ทิศทาง (Mixed) และมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียปฏิเสธที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้วิตกว่าการตกต่ำของราคาน้ำมันจะกระทบภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก
+ ราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยสัญญาตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.พุ่งขึ้น 12.5 ดอลลาร์ปิดที่ 1,222.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
+ CPN (ราคาปิด 46 บาท) : เติบโตได้ดีจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันบริหารศูนย์การค้าถึง 29 แห่ง และจะเปิดใหม่อีก 15 ศูนย์การค้าแห่งใหม่ แบ่งเป็นในประเทศ 12 แห่ง และต่างประเทศ 3 แห่ง) และในปี 2016 จะเปิดอีก 1 แห่งที่นครศรีธรรมราช คาดรายได้ปีนี้เติบโต 14% จากโครงการที่เปิดใหม่ 4 แห่งในปีก่อน และปิ่นเกล้ากลับมาปิดให้บริการแล้วราว 85% หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ ยอดขายคอนโด 3 แห่งที่เชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่นไปได้ดี มีอัตราการจองซื้อ 80%, 50% และ 60% ตามลำดับ โดยโครงการมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงราว 40% เพราะต้นทุนค่าที่ดินต่ำ (บันทึกส่วนหนึ่งไปแล้วตอนทำศูนย์การค้า) และบริษัทยังมีที่ดินเหลือทำโครงการที่พักอาศัยได้อีกอย่างน้อย 15 จังหวัด ประมาณการกำไรสุทธิปี 2016-2017 เติบโต 11% และ 16% ตามลำดับ แนะนำซื้อ ฝ่ายวิจัยฯ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท (Sum-of-parts)

นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!