- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 February 2016 18:13
- Hits: 781
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ราคาน้ำมันกลับมาร่วงอีก
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ตามตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรป หลังจากราคาน้ำมันกลับมาร่วงแรงอีก จากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความจริงจังในการควบคุมกำลังการผลิตน้ำมันของทั้งกลุ่ม OPEC และนอกกลุ่ม ทำให้มีความต้องการเลี่ยงความเสี่ยงกลับมาอีก นักลงทุนบางส่วนกลัวว่าเศรษฐกิจโลกชะลอลงกว่าที่คิด และราคาน้ำมันจะร่วงต่ออีกยาวนาน ภายในประเทศ ครม.อนุมัติสินเชื่อภาคเกษตรอีก 9.3 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยลดผลกระทบของภาวะภัยแล้งและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มาตรการดังกล่าวไม่น่าจะต้านปัจจัยลบที่มาจากต่างประเทศได้
หุ้นเด่นวันนี้ : KBANK (Bt171.50; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 205.00 บาท)
เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อของ KBANK ประกอบไปด้วยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) ประมาณ 38% เราคาดว่าธนาคารจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วย SME มาตรการนี้รวมถึงโครงการซอฟท์โลนและนโยบายลดภาษีและยกเว้นภาษีสำหรับผู้ประกอบการ SME ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยเอื้อต่อการเร่งโครงการลงทุนและการลดภาษีจะช่วยกระตุ้นธุรกิจ SME ให้เข้าร่วมระบบภาษีอย่างเป็นทางการมากขึ้น เราเชื่อว่าปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้ นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ CAMEL แสดงให้เห็นว่า ธนาคารยังคงรักษาพื้นฐานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดย KBANK ยังอยู่ในลำดับที่ 1 จากธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 11 แห่ง และอีกปัจจัยที่สำคัญ ในปัจจุบัน KBANK ซื้อขายที่ 1.3 เท่า ของ 2016E BV ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา จึงทำให้เราแนะนำซื้อสะสม ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิของธนาคารจะลดลง 14.5% ในปี 58 เราเชื่อว่าธนาคารจะพลิกฟื้นกลับมาเติบโตอีกครั้งไปในทิศทางเดียวกับสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเราประมาณการกำไรสุทธิจะเติบโต 10.5% และ 13.3% ในปี 59 และ 60 ตามลำดับ Price Pattern ของ KBANK เริ่มมีความแข็งแกร่งในการปรับตัวขึ้นเป็นลำดับ โดยปัจจุบัน Price Pattern ของ KBANK ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal มาระยะหนึ่งแล้ว และหาก Price Pattern ของ KBANK สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 169.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของ KBANK ต่อไป โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ KBANK ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายแรกที่ 169 บาทไปแล้ว คาดว่า KBANK น่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อเพื่อทดสอบเป้าหมายเบื้องต้นที่ 184 บาทต่อไป โดยมีจุด Stop Loss ของ KBANK ในรอบนี้อยู่ที่ 160.50 บาท (Resistance: 172.50, 174.00, 176.50; Support: 170.50, 169.00, 166.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
อนุมัติสินเชื่อการเกษตร 9.3 หมื่นลบ. คณะรัฐมนตรีล่าสุดได้อนุมัติงบประมาณเพื่อการปล่อยกู้จำนวน 9.3 หมื่นลบ.สำหรับกลุ่มเกษตรเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินจำนวน 7.2 หมื่นลบ. จะนำไปใช้ในการสรับสนุนเอสเอมอีสินค้าเกษตรในโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ขณะที่เงิน 6 พันลบ. จะนำไปช่วยชาวนาห้าพันรายที่เป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรของหน่วยงานรัฐ และอีก 1.5 หมื่นลบ. จะใช้สำหรับตั้งเป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือชาวนนาหนึ่งแสนรายใน 26 จังหวัด (Bangkok Post)
มูลค่าพาร์ขั้นต่ำ 50 สตางค์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำลังจะห้ามไม่ให้หุ้นสามัญออกใหม่และหุ้นที่จดทะเบียนอยู่แล้วแตกพาร์ต่ำกว่า 50 สตางค์เพื่อควบคุมราคาหุ้นไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป อย่างไรก็จาม กฎดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมหุ้นที่มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 100 บาทในช่วงหกเดือนก่อนหน้าหรือบริษัทที่อยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ (Bangkok Post)
CKP (2.14 บ. ราคาเป้าหมาย AWS ปี 59 3.25 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q58 อยู่ที่ 161 ลบ. ปรับตัวสูงขึ้นถึง 344% QoQ แต่ลดลง 25% YoY CKP ประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวดปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.0223 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 1.0% โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 18 มี.ค. (SET) ความเห็น: กำไรสุทธิงวด 4Q58 ประกาศออกมาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ว่าจะทำระดับสูงสุดใหม่ในรายไตรมาสอยู่ที่ 220 ลบ. เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่ไม่ได้คาดหมายไว้จำนวน 135 ลบ.จากการยกเลิกสัญญาเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 หารตัดรายการดังกล่าวกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 219 ลบ. เป็นไปตามที่คาดไว้ เรายังคงราคาเป้าหมายและตำแนะนำ ซื้อ ไว้เช่นเดิม โปรดดูรายงานฉบับเต็มวันนี้
ERW (4.00 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 5.50 บ.) รายงานกำไรงวด 4Q58 ที่ 103 ลบ. เพิ่มขึ้น 416% QoQ และ 110% YoY สำหรับผลประกอบการปี 58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 198 ลบ. เพิ่มขึ้น 215% YoY เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 192 ลบ. และประมาณการของบลูมเบริ์กที่ 196 ลบ. บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลประกอบการปี 58 ที่ 0.04 บ./หุ้น วันขึ้นเครื่องหมาย XD 4 มี.ค. (SET, AWS)
HMPRO (6.65 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 8.00 บ.) รายงานกำไรจากการดำเนินงานงวด 4Q58 ที่ 1.14 พันลบ. เพิ่มขึ้น 42% QoQ และ 11% YoY สำหรับผลประกอบการปี 58 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 3.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6% YoY เป็นไปตามประมาณการของเราและประมาณการของบลูมเบริ์กที่ 3.4 พันลบ. บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 58 ที่ 0.15 บ./หุ้น คิดเป็น 4.5% p.a. วันขึ้นเครื่องหมาย XD 12 เม.ษ. (SET, AWS)
TCAP (ปิด 37.25 บาท ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 50.00 บาท) จากแหล่งข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งโนวาสโกเทียได้จ้างมอร์แกน สแตนลีย์เป็นที่ปรึกษาสำหรับการขายหุ้น 49% ที่ถืออยู่ในธนาคารธนชาต โดยที่อีก 51% ถือโดย TCAP แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีธนาคารแห่งประเทศจีน เมย์แบงก์ และธนาคารในญี่ปุ่น 2 แห่งได้แสดงความสนใจ ซึ่งการประมูลในรอบแรกคาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 2/59 (Bangkok Post) ความเห็น: ตามรายงานของ TCAP ข้อตกลงซื้อขายยังอยู่ในขั้นตอนและไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ธนาคารจะทำให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
TU (18.50 บ., ซื้อ, AWS 59 TP 22.00 บ.) รายงานกำไรจากการดำเนินงานงวด 4Q58 ที่ 1.20 พันลบ. ลดลง 28% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 11% YoY สำหรับผลประกอบการปี 58 หากไม่รวมรายการพิเศษบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 4.89 พันลบ. เพิ่มขึ้น 1% YoY เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 5.28 พันลบ. และประมาณการของบลูมเบริ์กที่ 5.42 พันลบ. บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 58 ที่ 0.31 บ./หุ้น คิดเป็น 3.4% p.a. วันขึ้นเครื่องหมาย XD 7 มี.ค. (SET, AWS)
ต่างประเทศ
มุมมองในแง่ลบเทียบกับมุมมองในแง่บวก ดูเหมือนจะมีแนวความคิด 2 แบบเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันเกิดขึ้น ข้อแรก ฝ่ายที่มองในแง่ร้ายเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกจะมีนัยสำคัญมากกว่าที่คาดและราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงลดลงต่อไป ข้อที่สอง ฝ่ายที่มองโลกในแง่ดีเชื่อว่าความผันผวนของตลาดรายวันในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการถึงจุดต่ำสุดก่อนจะฟื้นตัวต่อไป ตลาดตราสารทุนในปีนี้มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความผันผวนรายวันของราคาน้ำมัน (AWS)
ราคาพันธบัตรสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร หลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุฯ ประกาศว่ายังไม่มีปแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาหุ้นและน้ำมันปรับตัวลดลง ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 6/32 ส่วนอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.75% ลดลงจาก 1.76% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
สกุลเงินที่มีความเสี่ยงต่ำปรับตัวขึ้น เงินเยนและสวิสฟรังก์เพิ่มขึ้นเมื่อวันอังคารจากการดีดกลับของหุ้นและน้ำมันได้จางหาย ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.8% อยู่ที่ 112.02 เยน ร่วงลงต่ำถึง 111.78 เยน ต่ำสุดนับแต่ 11 ก.พ. เงินยูโรแตะที่ 123.13 เยน ต่ำสุดนับแต่เม.ย. 56 และล่าสุดอยู่ที่ 123.57 เยน ลดลง 0.8% (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อวันอังคาร นำโดยกลุ่มธนาคารและพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของธนาคารต่อกลุ่มพลังงานกลายเป็นเรื่องเด่นขึ้นมากจากการประกาศของเจพีมอร์แกนว่าบริษัทตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 60% ของทุนสำรองที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อรองรับกับหนี้สงสัยจะสูญที่มีแนวโน้มเป็นไปได้ต่อบริษัทพลังงาน (Reuters)
ยอดขายบ้านพร้อมอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เป็นสัญญาณล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งหรือแข็งแกร่งกว่าเดิม ยอดขายบ้านพร้อมอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ระดับ 5.47 ล้านยูนิตต่อปี สูงสุดนับแต่เดือนก.ค. ยอดขายในเดือนก่อนสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับแต่ปี 2007 นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้าว่ายอดขายบ้านดังกล่าวจะลดลง 2.9% อยู่ที่ระดับ 5.32 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนก่อน ยอดขายเพิ่มขึ้น 11% จาก 1 ปีที่แล้ว (Reuters)
ราคาบ้านครอบครัวเดี่ยวสหรัฐปรับเป็นรายปีเพิ่มน้อยกว่าคาดใน พ.ย. ระบุในวันอังคารโดยการสำรวจอย่างใกล้ชิด S&P/Case Shiller composite index จาก 20 เมืองหลวงเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือน ธ.ค.เทียบปีก่อน สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นในเดือนก่อน โดยต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 5.8% เล็กน้อย คาดการณ์จากผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำโดย Reuters (Reuters)
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง Conference Board Consumer กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ 92.2 ใน ก.พ. จากตัวเลข 97.8 ใน ม.ค. ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยและการร่วงลงของราคาน้ำมันกระตุ้นให้มีแรงเทขายหุ้นทั่วโลกและกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปิดต่ำลงจากน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงวันอังคาร ประกอบกับข้อมูลล่าสุดของ Standard Chartered และ BHP Billiton ที่ออกมาไม่น่าพอใจนัก ตัวเลขความเชื่อมั่นที่อ่อนแอของผู้ผลิตในเยอรมันได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรป (Reuters)
ความเชื่อมั่นผู้ผลิตของเยอรมันร่วงต่อมากสุดนับแต่ 51 ทำให้ยิ่งกังวลกันเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป Ifo's headline business climate index ได้ร่วงไปเหลือ 105.7 ใน ก.พ. จาก 107.3 ในเดือนก่อน แตะจุดต่ำสุดนับแต่ ธ.ค. 57 และยังถูกซ้ำเติมจากแนวโน้มด้านธุรกิจที่คาดว่าจะแย่ลงในช่วงครึ่งปีต่อจากนี้ (Ifo)
เอเชีย :
รมว.คลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณถึงการเพิ่มการกระตุ้นทางการคลัง ซึ่งการให้ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ว่า BOJ กล่าวว่าการใช้การผ่อนคลายทางการเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไปมากกว่านี้ (Reuters)
เงินทุนไหลออกจากจีนเดือน ม.ค. ลงลงมาอยู่ที่ 8.8 หมื่นลบ. จาก 9.7 หมื่นลบ. ในเดือน ธ.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการควบคุมเงินทุนไหลออกเริ่มเห็นผล (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันอ่อนตัวจากความสงสัยเรื่องข้อตกลงลดกำลังการผลิต ราคาน้ำมันร่วง 4% อังคารหลัง รมว.น้ำมันซาอุฯ เข้ามาคุมการลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยได้กลับคำว่ามีเหตุผลที่จะคงการผลิตของประเทศเพราะอุปสงค์น่าจะเพิ่มขึ้นเกินน้ำมันที่ร่วงลงไปตลอด 20 เดือนที่ผ่านมาแล้ว Brent ปรับลง 1.33 ดอลลาร์ (-.38%) อยู่ที่ 33.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบล่วงหน้าสหรัฐ ร่วงลง 1.51 ดอลลาร์ (-4.5%) ปิดที่ 31.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองขึ้น 1% วันอังคาร หลังจากหุ้นยุโรปร่วงและเงินทุนยังคงไหลเข้ากองทุนทองแท่ง ผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้น ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 1% ปิด 1,220.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำได้ร่วงไป 1.6% ในวันจันทร์ตอนที่ดอลลาร์และตลาดหุ้นวิ่ง (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331