- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 February 2016 16:06
- Hits: 709
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มดีดขึ้นแรง ทำให้ยังน่าเน้นถือไว้ก่อน แต่จะซื้ออาจรอช่วงอ่อน!
กลยุทธ์ : SET เริ่มมีจังหวะดีดกลับขึ้นแรงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีปรับพักตัวลงไปพอควรในช่วง 2 สัปดาห์หลัง โดยแรงซื้อค่อนข้างหนักแน่น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็กลับมามียอดซื้อต่อเนื่องมากขึ้นด้วย ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องหลังจากเลือกหุ้นซื้อช่วงลบไปแล้ว แต่ถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่ม ยังน่ารอจังหวะตลาดผันผวนและอ่อนตัวลงให้ก่อนดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ROBINS, TNP, VGI(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้(22 ก.พ.) SET ปิดทำการเนื่องในวันมาฆบูชา ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่เปิดทำการปกติ โดยตลาดหุ้นเอเชียสามารถปิดเป็นบวกได้ค่อนข้างดี เนื่องจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วยหนุน จากรายงานที่ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกันและเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2552 รวมทั้งการขยับบวกค่อนข้างแรงของตลาดหุ้นจีน หลังมีการเปลี่ยนแปลงประธาน กลต.คนใหม่ จากประเด็นความล้มเหลวในการใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ของจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ขยับขึ้นปิดเป็นบวกในระดับ 1-2% ได้ด้วย เพราะนอกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นกว่า 6% เป็นแรงหนุนแล้ว ยังมีตัวเลขดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นในเดือน ม.ค.ช่วยทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกลงได้ด้วย ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะสามารถขยับบวกขึ้นต่อเนื่องจากช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้วได้อีก เพื่อลุ้นขึ้นไปใกล้ระดับดัชนี 1350 จุด(+/-) ตามคาดต่อไป
แนวรับ 1317-1312 , 1307-1300 จุด
แนวต้าน 1324-1326 , 1330-1334 , 1337-1342 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$47ล้าน นำโดยไต้หวัน US$81.5ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$39.7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอีก 6% เมื่อคืนนี้จากการคาดการณ์ของ IEA ว่าการผลิต Shale oil สหรัฐจะลดลงในปีนี้และปีหน้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กลุ่มพลังงานหนุนตลาดต่อ ราคาน้ำมันปรับขึ้น 5-6% จากการคาดการณ์ของ IEA ว่าการผลิต Shale oil ของสหรัฐฯจะลดลง 6 แสนบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 2 แสนบาร์เรล/วันในปีหน้า สอดคล้องกับรายงานจำนวนแท่นขุดน้ำมันสหรัฐฯที่ลดเหลือ 413 แท่น ต่ำสุดในรอบราว 7 ปีเพราะไม่คุ้มทุนในการผลิต หุ้นที่ราคา laggard และ Valuations ถูกได้แก่ PTTEP, PTT, PTTGC และ SCC
(-) หุ้นกลุ่มทีวี กำไรอาจน้อยกว่าที่ตลาดคาด เพราะมาตรฐานทางบัญชีในการบันทึกค่า License จากเดิมที่บันทึกในราคาทุน ให้เป็นมูลค่าปัจจุบันซึ่งต่ำกว่าราคาทุน ส่วนต่างดังกล่าวถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ตัดจำหน่าย 6 ปี (ถึงปี 2019) เราพบว่า BEC จะมีค่าใช้จ่ายก้อนดังกล่าวมากสุด ส่วน RS และ MCOT น่าจะน้อยสุด อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี ไม่กระทบต่อราคาพื้นฐานที่เราประเมินด้วย DCF เรายังคงให้ RS (ราคาพื้นฐาน 13 บาท) เป็น Top pick ของกลุ่ม
(+) KAMART เราคาดกำไรสุทธิ 4Q15 โตแรง +33% Y-Y เป็น 50 ล้านบาทตามฤดูกาล ไม่มีค่าการตลาดและตั้งด้อยค่าธุรกิจเก่าเหมือนไตรมาสก่อน การเติบโตในระยะยาวดูน่าสนใจจากแผนสร้างแบรนด์ของตัวเองโดยขยับขึ้นไปเป็นผู้ผลิตเพื่อเพิ่มมาร์จิ้น ปัจจุบันมีโรงงาน 1 แห่งที่ระยอง กำลังสร้างอีก 1 แห่งในกรุงเทพฯ และจะรุกตลาดส่งออกมากขึ้นหลังเป็นที่รู้จักในภูมิภาคมาระยะหนึ่ง ราคาปัจจุบันมี PE 2016 เพียง 22 เท่า ต่ำกว่า BEAUTY ที่ 35 เท่า แต่ความสามารถในการทำกำไรที่ต่ำกว่า BEAUTY เราจึงประเมินราคาพื้นฐานที่ PE discount 25% จาก BEAUTY ได้ 9.50 บาท แนะนำซื้อ
(+) MINT กำไรปกติเป็นไปตามคาด หากไม่รวมกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในธุรกิจร้านอาหารในออสเตรเลีย 1.62 พันล้านบาท กำไรปกติ 4Q15 แกร่งตามคาด +111.4% Q-Q, +11.4% Y-Y จากทั้งธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯ เราคาดกำไรปกติปีนี้โตสูง 27% Y-Y หลังจากซื้อโรงแรม Tivoli ในโปรตุเกสเพิ่มอีก 7 แห่งรวมเป็น 14 แห่งในปีก่อน ซึ่งจะเห็นกำไรที่โดดเด่นตั้งแต่ 1Q16 ที่เป็น High season ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 43 บาท และเป็นหุ้นที่เราชอบที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว
(-) VNG เราคาดกำไร 4Q15 -21.6% Q-Q ตาม low season ของฤดูส่งออก (บริษัทส่งออก 69%) ทั้งปีคาดโตก้าวกระโดด 102% Y-Y จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับขึ้นไปสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 30% แต่รายได้กลับทรงตัวทั้งที่เงินบาทอ่อนค่าถึง 10% แม้ราคาเศษไม้ยางในปีนี้จะอยู่ในระดับต่ำ เอื้อต่อต้นทุนแต่ก็มีผลกดดันราคาขาย พร้อมๆกับการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น เราคิดว่า VNG ผ่านปีที่ดีที่สุดไปแล้วในปี 2015 เราปรับกำไรปีนี้ลง 10% กลายเป็นกำไรหดตัว 5% Y-Y ราคาพื้นฐานปรับลงเหลือ 12 บาทจากเดิม 17 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นกว่า 1% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นแรง ขณะที่ประธาน FED สาขาชิคาโกระบุว่ากิจกรรมการผลิตทั่วประเทศดีดตัวขึ้นในเดือน ม.ค.
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวกค่อนข้างแรงเช่นกันตามตลาดหุ้นเอเชียจากราคาสินค้า Commodity ที่รีบาวด์ขึ้น
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังปรับตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องนำโดยกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างหลังจากอ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.69-35.77 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 31.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA คาดการณ์ว่าการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯจะลดลงทั้งในปีนี้และปีหน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 20.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,210.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23-ก.พ. - สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.), ยอดขายบ้านเก่า (ม.ค.), ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller Index (ธ.ค.)
24-ก.พ. - ฮ่องกง: 2015 GDP
- สิงคโปร์: 4Q15 (ตลาดคาด +1.8% Y-Y ชะลอจากปีก่อนที่โต 2.5%)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
25-ก.พ. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ วันปฎิวัตประชาชน Edsa People Power
- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
26-ก.พ. - สหรัฐ: 4Q15 GDP (ตลาดคาด +0.5% Q-Q ชะลอจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +0.7% Q-Q)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
29-ก.พ. - ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการ
- ไทย: วันสุดท้ายส่งงบการเงินปี 2015, ธปท.รายงานเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
- สหรัฐ: Pending home sales (ม.ค.)
1-มี.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
- จีน: Manufacturing PMI (ก.พ.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch