- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 February 2016 22:11
- Hits: 1256
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : รีบาวด์
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับขึ้นลุ้นทดสอบแนวต้าน 1300 จุด หลังราคาน้ำมันรีบาวด์แรงซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มพลังงานในวันนี้ ประกอบกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มสูงขึ้นจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คงคำแนะนำทยอยขายทำกำไรเมื่อดัชนีขึ้นเหนือ 1300 จุด
แนวรับ/แนวต้าน : 1275/1300 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มสื่อสารไปก่อน
นักลงทุนระยะสั้น : PS (34), CPF (27)
PS (34) มี Townhouse ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทพร้อมโอนในมือค่อนข้างสูง ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการโอนและยอด presales ที่แข็งแกร่งด้วย บวกกับได้เน้นบ้านเดี่ยวและ segment ที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งไม่มีความเสี่ยงสูงและยังคงได้ประโยชน์จาก demand ที่แข็งแกร่งอยู่ ซื้อใกล้ๆ 25 เป้าหมาย 34 upside 36%
CPF (27) ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาดีขึ้นในปี 59 เพราะ (1) ราคาเนื้อหมูและไก่ฟื้นตัว (2) ราคากากถั่วเหลือง
ซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง (3) ปัญหา EMS ในกุ้งคลี่คลายไปเยอะแล้วในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาและต้นทุนธุรกิจกุ้งลดลงจากการลดขนาดโรงงานแปรรูปกุ้ง ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มกลับมาเป็นกำไรปีนี้หลังจากขาดทุนไปเยอะเมื่อปีก่อน แนะนำหุ้น CPF สำหรับทั้งเล่นสั้นและถือยาว
นักลงทุนระยะยาว : EA (26), SCC (630)
EA (26) ได้ปัจจัยบวกจากทั้งโครงการพลังงานลมใหม่คือหาดกังหัน 1-3 ที่จะพร้อมจ่ายไฟในปีนี้จำนวน 3 โครงการและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 90MW จังหวัดพิษณุโลกที่จะเริ่มจ่ายไฟได้เช่นกัน ช่วยทำให้กำไรโดยรวมโตไม่ต่ำกว่า 50% ในปีนี้ แนะนำซื้อใกล้ๆ20.50 ราคาเป้าหมาย 26 บาท
SCC (630) ผลิตภัณฑ์ olefins ยังคงมี demand แข็งแกร่งทำให้มี spread สูงใกล้เคียง 700 ดอลล่าห์ต่อตันในปีนี้ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 400 ดอลล่าห์ต่อตันในปีที่แล้ว นอกจากนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นหลัง Chandra Asri Cracker ในอินโดนีเซียเสร็จสิ้นกระบวนการปรับปรุงระบบการผลิตในปีนี้ ประกอบกับเราคาด demand ปูนซีเมนต์จะเติบโต 3-4% yoy ปีนี้เทียบกับ 0% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐโดยตรง บวกกับโรงปูนใหม่ที่กัมพูชาและอินโดนีเซียจะช่วยดันยอดขายและกำไรให้โตไม่ต่ำ 17% ในปีนี้อีกด้วย
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล , CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154