WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

UOB copyบล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : รีบาวด์

               ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับขึ้นลุ้นทดสอบแนวต้าน 1300 จุด หลังราคาน้ำมันรีบาวด์แรงซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มพลังงานในวันนี้ ประกอบกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มสูงขึ้นจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คงคำแนะนำทยอยขายทำกำไรเมื่อดัชนีขึ้นเหนือ 1300 จุด

  แนวรับ/แนวต้าน : 1275/1300   สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

  กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มสื่อสารไปก่อน

นักลงทุนระยะสั้น :  PS (34), CPF (27)

  PS (34) มี Townhouse ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทพร้อมโอนในมือค่อนข้างสูง ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการโอนและยอด presales ที่แข็งแกร่งด้วย บวกกับได้เน้นบ้านเดี่ยวและ segment ที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งไม่มีความเสี่ยงสูงและยังคงได้ประโยชน์จาก demand ที่แข็งแกร่งอยู่ ซื้อใกล้ๆ 25 เป้าหมาย 34 upside 36%

  CPF (27) ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาดีขึ้นในปี 59 เพราะ (1) ราคาเนื้อหมูและไก่ฟื้นตัว (2) ราคากากถั่วเหลือง

ซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง (3) ปัญหา EMS ในกุ้งคลี่คลายไปเยอะแล้วในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาและต้นทุนธุรกิจกุ้งลดลงจากการลดขนาดโรงงานแปรรูปกุ้ง ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มกลับมาเป็นกำไรปีนี้หลังจากขาดทุนไปเยอะเมื่อปีก่อน แนะนำหุ้น CPF สำหรับทั้งเล่นสั้นและถือยาว

นักลงทุนระยะยาว : EA (26), SCC (630)

  EA (26) ได้ปัจจัยบวกจากทั้งโครงการพลังงานลมใหม่คือหาดกังหัน 1-3 ที่จะพร้อมจ่ายไฟในปีนี้จำนวน 3 โครงการและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 90MW จังหวัดพิษณุโลกที่จะเริ่มจ่ายไฟได้เช่นกัน ช่วยทำให้กำไรโดยรวมโตไม่ต่ำกว่า 50% ในปีนี้ แนะนำซื้อใกล้ๆ20.50 ราคาเป้าหมาย 26 บาท

  SCC (630) ผลิตภัณฑ์ olefins ยังคงมี demand แข็งแกร่งทำให้มี spread สูงใกล้เคียง 700 ดอลล่าห์ต่อตันในปีนี้ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 400 ดอลล่าห์ต่อตันในปีที่แล้ว นอกจากนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นหลัง Chandra Asri Cracker ในอินโดนีเซียเสร็จสิ้นกระบวนการปรับปรุงระบบการผลิตในปีนี้ ประกอบกับเราคาด demand ปูนซีเมนต์จะเติบโต 3-4% yoy ปีนี้เทียบกับ 0% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐโดยตรง บวกกับโรงปูนใหม่ที่กัมพูชาและอินโดนีเซียจะช่วยดันยอดขายและกำไรให้โตไม่ต่ำ 17% ในปีนี้อีกด้วย

นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล , CFA    Email : [email protected]             Tel: 02 659 8154 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!