- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 February 2016 21:52
- Hits: 656
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (อดิศักดิ์ คำมูล เลขทะเบียนฯ: 026889)
ซื้อเก็งกำไร
KGI ประเมินจิตวิทยาการเก็งกำไรเชิงบวก โดยมีนัยคือวานนี้กลุ่มพลังงานปิดบวก 1.4% กอปรกับนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากถึง 2.9 พันล้านบาท คาดหวังทุนต่างชาติจะไหลเข้าสู่ตลาดทุนไทยต่อเนื่อง ชี้ว่าหุ้นพื้นฐานใหญ่อาจอยู่ภายใต้แรงผลักทางขึ้นจากเม็ดเงินที่เข้าสู่ตลาด เชิงวิเคราะห์กราฟ วันนี้เราให้ความสำคัญ SET ที่ระดับ 1,290 จุด ในความหมายที่ว่าหาก SET ปรับขึ้นยืนเหนือระดับราคา 1,290 จุดได้นั้น ประเมินแรงผลักทางขึ้นที่ +25 จุด สู่ระดับแนวต้าน 1,315 จุด แนะนำเลือกหุ้นซื้อเก็งกำไร
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ASEFA / สะสม VGI*, IFEC
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) ราคาหุ้น Oversold + ทำรูปแบบ Bullish Reversal มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นทดสอบแนวต้าน 5.9 บาท (กำหนด Stop loss 5.2 บาท) 2) ยังคงมุมมองเดิมต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ว่าจะโตตาม Mega trend ของอุตสาหกรรมฯงานระบบไฟ (รถไฟฟ้า, 4G + Data Center, พลังงานทดแทน, โรงงานอุตสาหกรรมฯ)
VGI* (เป้า Consensus 3.92 บาท) 1) ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงตามภาวะตลาดฯ แต่รีบาวด์กลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.2 บาทได้ แนะนำ "สะสม" แนวรับ 4.2 บาท แนวต้าน 4.56 บาท (กำหนด Stop loss 4.1 บาท) 2) ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด ปีนี้จะได้สื่อโฆษณาในธุรกิจสายการบินที่กำลังเป็นขาขึ้นมาช่วยหนุน (ชดเชยการขายหายไปของรายได้สื่อใน Modern trade) 3) ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน Consensus ส่วนใหญ่เริ่มปรับคำแนะนำจากส่วนใหญ่แนะนำ "ขาย" เป็น "ถือ" (Momentum ดีขึ้น) ... นักลงทุนอาจพิจารณา "เก็งกำไร" MACO (VGI * ถือหุ้น 24.96%) โดยประเมินแนวรับ 1.09 บาท (กำหนด Stop loss 1.05 บาท) แนวต้าน 1.15 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ ?1.4 บาท
IFEC (เป้า Consensus 16.2 บาท) 1) คาดไตรมาส 4/58 กำไรราว 200 - 400 ล้านบาท จาก 9M58 ที่กำไรเพียง 88.8 ล้านบาท (กำไรไตรมาส 4/58 ขึ้นอยู่กับการตีมูลค่ายุติธรรม รร ดาราเทวี โดย IFA) ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจพลังงานทดแทนคาดพ้นจุด Break-even แล้ว 2) จากการ Conference call ผู้บริหาร ยังเดินหน้าพลังงานทดแทนตามแผนเดิม คาดโครงการในต่างประเทศ (เกาหลีใต้ + กัมพูชา) จะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน มี.ค. และรอการสรุปโครงการโซลาร์ส่วนราชการในไทย (กพช ประชุมเดือน มี.ค.) 3) คาดมีโอกาสเข้าประมูลโครงการ Smart grid ของทาง กฟผ คาดเปิดร่าง TOR (โครงการนำร่องที่ จ.แม่ฮ่องสอน) ใน 1 - 2 เดือนนี้ โดย IFEC ร่วมมือกับทาง LG ประเทศเกาหลีใต้ (เป็นผู้ทำระบบ Smart grid ที่เกาะ เจจู เกาหลีใต้) 4) ประเมินแนวรับ 6 บาท หากผ่านแนวต้านใกล้ที่ 6.35 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?7 บาท
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*) ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงแรง คาดเป็นผลจากความกังวลเรื่อง การประมูลงานโครงการภาครัฐฯ ที่ยังล่าช้าในขณะนี้ อย่างไรก็ดีเรายังคงประเมินว่า งานประมูลโครงการภาครัฐฯ จะเริ่มทยอยออกมาตามแผนในปีนี้ (คาดเร่งตัวในช่วง 2H59) รวมทั้งงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ต่างๆที่ล่าช้าในปีที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มงบฯไตรมาส 4/59 ดังนั้นนักลงทุนอาจ Wait&see รอประกาศงบไตรมาส 4/58 จึงเริ่มทยอยสะสม / สำหรับนักเก็งกำไรสั้น อาจพิจารณารอจังหวะการสร้างฐานราคา 1 - 2 วัน (หากหยุดทำนิวโลว์ได้ แนะนำ "เก็งกำไร") ในเชิงพื้นฐานเลือก CK* เป็นหุ้นเด่น
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และโรงพยาบาล จากนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของภาครัฐฯ ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น Outperform ตลาดฯวานนี้ อย่างไรก็ดีวันนี้ราคาน้ำมันรีบาวด์แรง อาจทำให้ Sentiment ต่อกลุ่มสายการบินเป็นลบ แนะนำ "Switching" เปลี่ยนตัวเล่นมาที่กลุ่ม โรงแรม (ERW*, MINT*, CENTEL*, CI) และ โรงพยาบาล (VIBHA, BDMS*, BH*)
กลุ่มพลังงาน (PTT*, PTTEP*) ราคาน้ำมันรีบาวด์แรงต่อ (WTI +5.6%) ล่าสุดยืนเหนือ ?31 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เป็นผลจากข่าวว่าทางประเทศอิหร่านจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก (ASTV ผู้จัดการออนไลน์) นักลงทุน อาจพิจารณา "เก็งกำไร" PTT* และ PTTEP* โดยกำหนดจุด Stop loss หากขาดทุน 3 - 5%
หุ้นปันผล i) PS* (เป้าพื้นฐาน 32.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผลที่เหลือของปี 2558 ที่จะประกาศจ่ายหลังปิดงบปี ?0.8 บาท/หุ้น ii) KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 0.78 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. - ต้น มี.ค.) iii) ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 1.36 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. - ต้น มี.ค.) iv) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) ประเมินปันผล 0.55 บาท/หุ้น
หุ้นมีข่าว
(0) มีประเด็นข่าวเรื่อง รัฐบาลลาวเตรียมขอให้บริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ ลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการไซยะบุรีเพิ่มเติม โดยมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท (โพสต์ ทูเดย์) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันถึงเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าว แต่คาดจะไม่กระทบต่อ CK* เนื่องจากบริษัทจะเป็นผู้ได้รับงานก่อสร้างเพิ่มเติม อีกทั้ง สภาพคล่องทางการเงินที่ดียังทำให้บริษัทไม่มีปัญหาในกรณี หาก CKP ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ ต้องการเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติม ดังนั้น เรายังคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 36.50
(+) การให้แฟรนไชส์ในธุรกิจมินิ บิ๊กซี ช่วยหนุนการเติบโต (เนชั่น) โดยการให้แฟรนไชส์ในธุรกิจมินิ บิ๊กซี ถือเป็นครั้งแรกของ BIGC* ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายสาขาในรูปแบบมินิ บิ๊กซีที่ 75 สาขาได้ แม้ภาพของธุรกิจโดยรวมจะดูดีขึ้น โดยคาดกำไรปี 2559 จะพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 7.5 พันล้านบาท จาก 6.9 พันล้านบาทในปี 2558 แต่ส่วนต่างที่จำกัดระหว่างราคาเป้าหมายที่ 255 บาทและราคาหุ้นปัจจุบัน ทำให้เรายังคงคำแนะนำ "ถือ"
(+) UREKA-LIT ผนึกกำลัง เซ็น MOU ปล่อยสินเชื่อ (ทันหุ้น) UREKA ผนึกกำลัง LIT จับมือลงนาม MOU เพื่อสนับสนุนสินเชื่อ Supplier Finance ให้กับซัพพลายเออร์ของ "ยูเรกาดีไซน์" งานนี้บิ๊กบอส UREKA มั่นใจ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับคู่ค้า ขณะที่เอ็มดี LIT ระบุคู่ค้าของ UREKA ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่อ โดยได้รับเงินทันทีภายหลังจากส่งสินค้า
(+กลุ่มท่องเที่ยว) สั่งททท.หนุนแอร์ไลน์เปิดบินเพื่อนบ้าน (กรุงเทพธุรกิจ) "สมคิด" เร่งดันท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ สั่งททท.ถกสายการบิน เปิดเส้นทางบินเชื่อมเพื่อนบ้าน ระบุคลังเตรียมต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีหนุนท่องเที่ยว ขณะททท.คาดกลางปีเปิดเส้นทางใหม่ "อาเซียนคอนเน็ค"
(- กลุ่มยานยนต์) ตลาดรถขาลง 2 ปี มกราฯ ขายวูบ 13% (กรุงเทพธุรกิจ) ส.อ.ท. ระบุ ยอดผลิตรถยนต์ม.ค. ร่วง 11% ยอดขายในประเทศลด 13% ส่วนส่งออกโตเพิ่ม 1.3% ยังมั่นใจถึงเป้าทั้งปี 2 ล้านคัน ด้าน "สรรพสามิต" เกาะติดยอดขายรถยนต์หลังเดือนก.พ.ส่อเค้าชะลอตัวด้านผู้จำหน่ายชี้ ตลาดรถไทยอยู่ในช่วงขาลงยาว 2 ปี
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนะนำ "สะสม" แนวรับ 6.40 บาท หากวันนี้กลับไปยืนเหนือ 6.50 บาทได้ ประเมินกรอบ แนวรับ - แนวต้านขยับขึ้นเป็น 6.50 - 7.15 บาท คาด Dividend yield 8.5%
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนะนำ "สะสม" แนวรับ ?20 บาท แนวต้าน ?21 บาท คาด Dividend yield 6.7%
LIT (เป้า Consensus 12.6 บาท) แนะนำ "ซื้อ" แนวรับ 8.1 บาท (Stop loss 8 บาท) แนวต้าน ?9.75 บาท เป็นจุดขายทำกำไร คาด Earnings momentumทำนิวไฮต่ออีก 3 ไตรมาสติดเป็นอย่างต่ำ
UBIS (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 7.1 - 8.9 บาท) แนะนำ "ซื้อ" ประเมินแนวรับ 6.10 บาท (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) แนวต้าน 7 บาท ... คาดกำไรไตรมาส 4/58 ?45 ล้านบาท (+64% YoY และ +28%QoQ)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BDMS* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 23.9 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 = 1.9 พันล้านบาท (+1% YoY; -9% QoQ) และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 จะกลับมาโตตามปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2558 - 59 ขึ้น 3.8 - 3.9%
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]