WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวต้าน 1,520
Technical : แนวรับ 1,500 /1,489 แนวต้าน 1,520 / 1,535
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTGC แนวรับ 66 / 65 แนวต้าน 68 / 71
หุ้นเด่นรายวัน : NYTAAV MJD

  วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดบวก 0.34 จุด สวนทางตลาดภูมิภาค ขานรับเงินทุนไหลเข้า-บาทแข็งค่า ดัชนี SET ปิดที่ 1,507.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 36,606.30 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,938.07 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,485-1,520 โดยการแกว่งตัวเริ่มมีแรงขายลดความเสี่ยงจากวันหยุดยาวติดต่อกันปลายสัปดาห์ การปรับตัวคาดจะเป็นการปรับเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆที่มีผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนคู่สร้างแนวต้าน 1,017-1,018 ระยะสั้นของการปรับตัวเน้นยืนแนวรับSMA5วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น 1,003 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,140-20,490 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 20,210-20,560
  กลยุทธ์ การปรับตัวเป็นการปรับลดความเสี่ยงวันหยุดยาว และตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อสัปดาห์หน้าในการประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคาร (ภายใน 21 ก.ค.หุ้นกลุ่มธนาคารจะรายงานผลการดำเนินงาน 2Q57) การปรับตัวจึงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อเล่นรอบ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ICHI MINT SAPPEซื้อเก็งกำไรเล่นรอบเมื่อลงแรง กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC IVL กลุ่มสื่อสาร DTAC ADVANC TRUE SAMART INTUCH กลุ่มอสังหาฯ GOLD RML SIRI หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT VGI TCJ ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTTGC (ปิด 67 ซื้อเป้าปี 57: 84) เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PTTGC ใน 2Q57 โดยคาดกำไรสุทธิ ใน 2Q57 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ปริมาณการผลิตของธุรกิจสายโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น หลังหน่วยผลิตที่หยุดซ่อมใน 1Q57 กลับมาดำเนินงานตามปกติ ประกอบกับโรงแยกก๊าซ 5 ของ PTT ที่หยุดซ่อมจากเหตุฟ้าฝ่าสามารถทำการผลิตได้เต็มที่ส่งผลบวกต่อความสามารถในการทำกำไรของ PTTGC ให้ปรับตัวสูงขึ้นเพราะสามารถรับ Gas จาก PTT ได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าหากเทียบกับใช้ Naphtha เป็นวัตถุดิบ

หุ้นเด่นรายวัน
  NYT (ปิด 18 บาท ซื้อเก็งกำไร) คาดผลประกอบการรายไตรมาสจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ทุกไตรมาส จากการเร่งส่งออกรถยนต์ของผู้ประกอบการเพื่อเป็นการทดแทนกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงจากปัญหาทางการเมือง โดย NYT เป็นท่าเทียบเรือรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มี Market Share สูงสุดที่ 80% สามารถจอดเรือขนาดใหญ่ได้ประมาณ 3-4 ลำ และส่งออกได้ 20-30 ประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผน เจรจาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมทุนเปิดท่าเทียบเรือแห่งใหม่ในอินโดฯช่วยเพิ่มฐานรายได้และกำไรในอนาคต (ที่มา : ทันหุ้น)
  AAV (ราคาปิด 4.52 ซื้อเก็งกำไร เป้า consensus 5) ผลประกอบการครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองเป็นไปในทางที่ดีขึ้นตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ผู้บริหารเชื่อว่ายอดขนส่งผู้โดยสารปีนี้จะทำได้ตามเป้า 12.6 ล้านคน พร้อมเตรียมรับมอบเครื่องบินใหม่เข้าฝูงอีก 5 ลำ หนุนผลประกอบการฟื้นตัวแข็งแกร่งตั้งแต่ 3Q57 (ที่มา : ทันหุ้น)
  MJD (ราคาปิด 3.04 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดรายได้ปี 57 ราว 7,000 ล้านบาท มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3,500 ล้านบาท หลังขายอาคารสำนักงาน Equinox ให้ WHA มูลค่า 2,050 ล้านบาท โดยคาดว่าจะบันทึกเป็นรายได้พิเศษภายในปีนี้ หนุนผลประกอบการในปีนี้จะพลิกเป็นกำไรจากปี 2556 ที่ขาดทุน 166.87 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BMCL / RPC              มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
* RASA                 มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV        มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC             มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF              มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE   มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57

***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 78.99 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 78.99 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรายงานการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ โดยหุ้นอัลโค อิงค์ เพิ่มขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/57 ที่ 138 ล้านดอลลาร์ หรือ 18 เซนต์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้นเพียง 12 เซนต์ต่อหุ้นทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 78.99 จุด หรือ +0.47% ปิดที่ 16,985.61จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,419.03 จุด เพิ่มขึ้น 27.57 จุด หรือ +0.63% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,972.83 จุด เพิ่มขึ้น 9.12 จุด หรือ +0.46%

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 1.11 ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ลดลง 1.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันตลาด NYMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 447,000 บาร์เรล สู่ระดับ 20.9 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพลังงานของลิเบียเปิดเผยว่า ท่าเรือเอส ซีเดอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย และท่าเรือราส ลานุฟ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีน้ำมันดิบในปริมาณ 7.5 ล้านบาร์เรลที่พร้อมจะส่งออกไปยังต่างประเทศ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.29 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 108.28 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!