- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 July 2014 17:49
- Hits: 2233
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA 78.99, NASDAQ +27.57, S&P +9.12, CAC +17.31 และ DAX +35.53 หลังเปิดเผยรายงานการประชุมล่าสุดของเฟด เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีความเห็นว่าการซื้อพันธบัตรรายเดือนจะสิ้นสุดลงในตค. นี้ โดยจะเป็นการปรับลดการซื้อพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันเป็นครั้งสุดท้าย วงเงิน 1.5 หมื่นล้านUSD นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการของอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสดใส โดยมีกำไรสุทธิ 18 เซนต์/หุ้น ดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 12 เซนต์/หุ้น
.....ยกเว้น FTSE -20.41 หลังฮาลิแฟกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษ – มิย. ลดลง 0.6% ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 4 นับแต่ธค.ปีที่ผ่านมา
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (Nymex) ส่งมอบ สค. -US$1.11 อยู่ที่ US$102.29 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 447,000 บาร์เรล สู่ระดับ 20.9 ล้านบาร์เรล
…..ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน สค. อยู่ที่ +US$7.8 อยู่ที่ US$1,324.3 ต่อออนซ์ จากการซื้อเก็งกำไรหลังราคาลดลงติดต่อกันในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนทราบรายงานการประชุมของเฟด ซึ่งมีขึ้นหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,938 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -34,214 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway Up? ทั้งตามทิศทางตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก และประเด็นในประเทศ ที่แม้เป็นปัจจัยเดิมแต่คาดภาพรวมยังเป็นบวก โดยเฉพาะ Fund Flow หลังต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 1,900 ล้านบาท และคาดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนดีขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งคาดจากโรดแมพของ คสช. ที่กำหนดทิศทางชัดเจน โดยคาด (1) ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว - กค. (2) ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - สค. (3) แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี - กย. (4) ตั้งสภาปฏิรูป - ตค. และ (5) จัดการเลือกตั้ง - ประมาณตค. ’58
.....รวมถึงความคาดหวังในเชิงบวกต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. รวมถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่อเนื่อง เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางด่วน และโครงการขยายสนามบิน ทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นต้น เบื้องต้นคาดใช้ระยะเวลา 8 ปี (ปี’58 – 65) วงเงินลงทุน 2.4 - 3.0 ล้านล้านบาท คาดมีความชัดเจนในโครงการและแหล่งเงินทุน ในเดือนกค. นี้
....ขณะที่ยังแนะให้ติดตาม (1) กลุ่มพลังงาน ภายใต้การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี และ (2) การเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/57 ที่จะเริ่มจากกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มแรกที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินงาน
.....อย่างไรก็ตามในวันนี้คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอาจได้รับปัจจัยกดดันบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 6 ราย โดย 4 รายอยู่ในตลาดฯ ได้แก่ ITD, CK, STEC และ UNIQ หลังล่าสุด รฟท. เลื่อนการเปิดประมูล (E-Auction) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย สัญญาที่ 1 วงเงิน 1.02 หมื่นล้านบาท ออกไปไม่มีกำหนด จากเดิมคาดเปิดราคาในวันที่ 15/7/57 (เลื่อนครั้งที่ 2 จาก 23/6/57) เนื่องจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ยังตรวจสอบโครงการไม่เสร็จสิ้น
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.55% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.33 อยู่ที่ 11.65
หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (10 – 11 กค.’57)
10/7/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - พค. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
11/7/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) งบประมาณของรัฐบาล - มิย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788