- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 February 2016 19:13
- Hits: 1419
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
น้ำมันจะกลับมาแกว่งตัวระยะสั้น คาดกลุ่ม BANK จะสลับมาน้ำตลาดแทน แนะ BBL(The Laggard) ผสานหุ้นกำไร 4Q15 เด่น (TVT, PS)
Nomura : Key Factors
(+) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 275 ลบ., Long Future 431, ซื้อ Bond 2990 ลบ.
(+) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F เพียง 13.22 เท่า ต่ำกว่าLT Avg PER 14.7 เท่า
(+) TFEX: สถานะสะสมของต่างชาติใน TFEX ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันสูงถึง 91,288 สัญญา
(*/-) Ex Factor: ซาอุ-รัสเซีย-เวเนฯ-กาตาร์ คงกำลังการผลิตน้ำมันระดับเดียวกับ เดือน มค.
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.35% สู่ $29.04/bbl / Brent -3.62% สู่ $32.18/bbl
(-) EU Econ: ดัชนี Zew Survey เยอรมนี เดือน ก.พ. ที่ 52.3 ลงจาก 59.7 และต่ำคาดที่ 55
(-) US Econ: ดัชนี Empire Manu สหรัฐฯ เดือน ก.พ. ที่ -16.64 แย่กว่าคาดที่ -10
SET PER 16F: CNS 12.76x (EPS 101) vs Cons.13.22x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 101, PER15x)
Nomura Daily Top Picks: BBL, TVT, PS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway ในกรอบแนวต้าน 1298/1301จุด และแนวรับ 1279/1274จุด ผลการประชุมระหว่าง 4 ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่วานนี้ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย, รัสเซีย, เวเนซุเอล่าร์ และกาตาร์ มีมติจะคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับกำลังการผลิตในเดือน มค. 2016 เป็นจุดเริ่มต้นเชิงบวกที่อาจมีการหารือข้อตกลงร่วมกันต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆอีก และเป็นผลบวกต่อราคาน้ำมันระยะกลาง-ยาว แต่อย่างไรก็ตามในระยะสั้นราคาน้ำมันตอบรับเชิงลบจากความคาดหวังต่อการลดกำลังการผลิตมากกว่า จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ วานนี้ย่อตัวหลุดระดับ 30 เหรียญต่อบาร์เรลอีกครั้ง ปิดที่ระดับ 29.04 เหรียญต่อบาร์เรล (-1.35%) เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ลดลง -3.62% สู่ระดับ 32.18 เหรียญต่อบาร์เรล จะเป็นแรงกดดันให้มีแรงขายทำกำไรในหุ้นในกลุ่มน้ำมันระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลัก 2-3สัปดาห์ข้างหน้า ตลาดยังคงให้น้ำหนักต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกในช่วงเดือนหน้า โดยมุมมอง Nomura คาด 10 มี.ค. ECB มีโอกาสปรับเพิ่มวงเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม รวมถึงให้นำหนักการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก ลงอีก -10 bps สู่ระดับ -0.4% รวมถึงมุมมองต่อการประชุม BOJ Meeting ในวันที่ 14-15 มี.ค. ซึ่ง Nomura คาดจะมีโอกาสเพิ่มวงเงินการซื้อสินทรัพย์ ETF สู่ระดับ 5 ล้านล้านเยน จาก 3 ล้านล้านเยน และคาดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก -20bps สู่ระดับ -0.3% เป็นปัจจัยพยุงตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Short-Term Strategy : SET ยังสร้างฐานเหนือระดับ 1286 จุด ซึ่งเป็นภาพเชิงบวกต่อการฟื้นตัว แต่กรณีเกิดเหตุผิดคาด SET หลุดระดับ 1270 จุด แนะนำนักลงทุนลดนำหนักการลงทุนหุ้นลง 10-15% โดยระยะสั้นหุ้นกลุ่ม ENERG(PTT, PTTGC, PTTEP, IRPC แนะนำขายทำกำไรในท้ายตลาดวานนี้) น่าจะถูกแรงขายทำกำไรต่อ หลังราคาน้ำมันจะกลับมาแกว่งตัวพักฐานหลังผิดหวังไม่มีการลดกำลังการผลิต แต่ภาพราคาน้ำมันระยะกลาง-ยาวยังเป็น Bottom Out และอยู่ในช่วงฟื้นตัว จึงคาดว่าเม็ดเงิจจะสลับจากกลุ่ม ENERG Switch มาสะสมหุ้นกลุ่ม BANK ที่ใกล้ช่วงปันผลและได้ Sentiment บวกจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของ ธพ ในยุโรปผ่อนคลายลง เน้น BBL, KTB, SCB ผสานหุ้นคาดกำไร 4Q15 แกร่ง (BWG, PS, TVT, ERW, CI, KAMART, TPCH, SAWAD, MTLS, SC, BCH) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง แนะสะสมหุ้นหุ้น FEB16 Top Picks : BBL, BCH, SAWAD, PS, CI, ERW สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: BBL, TVT, PS*
Mid-Long Term Strategy : คาด เดือน ก.พ. จะมีแรงหนุนของหุ้น Big Cap จากนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางโลก สู่แนวต้าน 1337/1360จุด โดยสัปดาห์แรกของเดือน แนะนำทยอยขายทำกำไรเล่นรอบกลุ่ม ICT(ADVANC รายงานงบ 4 ก.พ. 2016 นี้, INTUCH) เนื่องจากราคา Rebound มาตอบรับปันผลเชิงบวกไปแล้ว ขณะที่ช่วงถัดเสี่ยงที่จะเข้าสู่การแข่งขันของธุรกิจ 4G ที่ดุเดือด ยกเว้นผู้ที่ต้องการถือลงทุนนานกว่า 1ปี ยังแนะนำถือหรือย่อซื้อลงทุนได้ โดยกลุ่มที่คาดว่าจะสลับมานำตลาดคือ BANK(BBL + KTB เด่นในฐานะ Laggard, ผสาน SCB, KBANK, TCAP) & ENERG(PTT, PTTEP, PTTGC) รับแนวโน้มราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่อง ผสานหุ้นเด่นรับตรุษจีน BR, GFPT หรือเลือกต่อยอดหุ้นที่คาดกำไร 4Q15 เด่น (CI, QTC, KAMART, TPCH, SAWAD, MTLS, BCH) ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ ICT( TRUE, JAS) และระมัดระวังหุ้นTASCO กรณีน้ำมันฟื้นตัวอาจถูกขายทำกำไร สำหรับ Portfolio Top picks FEB 16 BBL, BCH, SAWAD, PS, CI, ERW
Investment Theme:
. 2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
. 1Q16 Top Picks : ERW, BBL, ROBINS, BRR, LH, CPF
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BBL (TP186*): Support 150/147 Resistance 155/160
Theme: Dividend play
Earning outlook: คาดกำไร 1Q16F ฟื้นตัว q-q จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง และ NIM ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเงินฝากที่ต้นทุนสูงจะทยอยหมดอายุ
Valuation: ราคาปัจจุบันที่ซื้อขายต่ำกว่า BV ที่ 0.78x (ระดับ –1SD) เลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม มี Upside 22%
Catalyst: ในภาวะตลาดผันผวน แนะนำแบ่งสัดส่วนในหุ้นปันผล คาดปี 2016F BBL จะจ่ายปันผลที่ 6.33 บาทต่อหุ้น หรือคำนวณ Dividend yield ได้ราว 4.16%
TVT (TP3.44*): Support 1.85/1.8 Resistance 2.0/2.12
Theme: Earning Play
Earning Outlook : คาดกำไรปี 16F เติบโตก้าวกระโดดสู่ระดับ 92 ลบ. (+118%y-y) จากการได้รายการใหม่เพิ่มขึ้น 7-8 รายการ หนุนฐานรายได้โต 40% y-y สู่ระดับ 683 ลบ.
Valuation ปัจจุบันซื้อ-ขายที่ระดับ PER 17.2x ต่ำกว่ากลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Digital TV ที่ 30-40x (Upside 81%)
Catalyst : คาดกำไร 4Q15F ดีกว่าคาดเดิม 44% สู่ระดับ 26 ลบ. (185%q-q,56%y-y) จากการบริหารต้นทุนได้ดีกว่าคาด พร้อมคาดปิดดีล M&A 1ดีล ภายใน 1Q16F
PS (TP32.5*): Support 25.0/24.5 Resistance 26.5/28.0
Theme: Dividend Play
Earning Outlook : คาดแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2016F ลดลงที่ 7.2 พันลบ. (-5% y-y) เนื่องจาก Backlog ที่รอโอนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Low-end มีกำไรขั้นต้นต่ำกว่าปกติ
Valuation : ปัจจุบัน ซื้อขายที่เพียง PER16F 7.9x เท่า ต่ำกว่าระดับ Average 8 ปี ของ PS ที่ 9.3x
Catalyst : เปลี่ยนแปลงนโยบายจ่ายเงินปันผล จากเดิมร้อยละ 30 ขึ้นสู่ ร้อยละ 50 โดยเราคาดเงินปันผล 2H15 ที่ราว 1.20 บาทต่อหุ้นหรือสูงถึง 4.7% ณ ราคาปัจจุบัน
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)