- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 February 2016 18:55
- Hits: 637
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( อดิศักดิ์ คำมูล เลขทะเบียนฯ: 026889)
ขายทำกำไรสั้น
KGI ประเมินตลาดราคาสูงจูงใจรับรู้ผลกำไรสั้น ราคาน้ำมัน Brent ลดลง -3.6% มายืนที่ 32.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อาจส่งผลเชิงลบทางจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน ขณะที่เราได้เห็นแรงซื้อต่างชาตินนั้นทยอยกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งอาจส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นพื้นฐานใหญ่ที่ต่างชาตินิยม นักวิเคราะห์กราฟของเราได้ให้คำแนะนำว่า หากวันนี้ SET ดีดขึ้นยืนเหนือต้านทันที 1,291 จุดได้นั้น ตลาดอาจผลักขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,303 จุด แต่หากวันนี้ SET ไม่ยืนเหนือต้าน 1,291 จุดนั้น ตลาดอาจลดลงมาทดสอบแนวรับ 1,280 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสม BJCHI*, ASK, IFEC
BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 4/58 = 558 ล้านบาท (+60% YoY และ 32% QoQ) และคาดปันผลที่จะประกาศช่วงปลาย ก.พ. นี้ = 0.55 บาท/หุ้น Dividend yield สูง 8.5% 2) Backlog ตอนนี้ = 3.2 พันล้านบาท + บริษัทฯเตรียมประมูลงานมูลค่า 6.5 พันล้านบาท ซึ่งมีโอกาสได้สูงเพราะเป็นงานต่อเนื่อง (คาดประมูล 1H59 ราว 5 พันล้านบาท ที่เหลืออีก 1.5 พันล้านบาทคาดประมูลใน 2H59) 3) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 6.50 บาท หากไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ยังคงประเมินว่าเป็นการขยับกรอบ แนวรับ – แนวต้านขึ้นเป็น 6.50 – 7.15 บาท
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 ชะลอตัวลง (-5% YoY และ -5% QoQ) เพราะมีการตั้งสำรองฯมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังเพียงพอที่ทำให้กำไรทั้งปีทำนิวไฮที่ 684 ล้านบาท และปันผลยังสูง 1.36 บาท/หุ้น (Dividend yield 6.7%) คาดประกาศสัปดาห์หน้า 2) แนะนำ “สะสม” แนวรับ ±20 บาท แนวต้าน ±21 บาท ... วันนี้มีบทวิเคราะห์ Alert
IFEC (เป้า Consensus 16.2 บาท) 1) คาดไตรมาส 4/58 กำไรราว 200 – 400 ล้านบาท จาก 9M58 ที่กำไรเพียง 88.8 ล้านบาท (กำไรไตรมาส 4/58 ขึ้นอยู่กับการตีมูลค่ายุติธรรม รร ดาราเทวี โดย IFA) ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจพลังงานทดแทนคาดพ้นจุด Break-even แล้ว 2) จากการ Conference call ผู้บริหาร ยังเดินหน้าพลังงานทดแทนตามแผนเดิม i) คาดโอนหุ้นพลังงานลม เกาะเจจู เกาหลีใต้ เสร็จเดือน มี.ค., ii) เข้าซื้อ PPA พลังงานลมที่เวียดนามแล้วเสร็จ ภายในเดือน มี.ค., iii) โซลาร์ฟาร์มที่กัมพูชา คาด COD ภายในเดือน มี.ค.) และรอการสรุปโครงการโซลาร์ส่วนราชการในไทย ซึ่งเราประเมินเป็นเพียง Upside risk 3) คาดมีโอกาสเข้าประมูลโครงการ Smart grid ของทาง กฟผ คาดเปิดร่าง TOR (โครงการนำร่องที่ จ.แม่ฮ่องสอน) ใน 1 – 2 เดือนนี้ โดย IFEC ร่วมมือกับทาง LG ประเทศเกาหลีใต้ (เป็นผู้ทำระบบ Smart grid ที่เกาะ เจจู เกาหลีใต้)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่ม ไมโครไฟแนนซ์ (LIT, GL*, ASK) ราคาหุ้นกลุ่มนี้ Outperform ตลาดฯ ในช่วงที่ผ่านมา และเราประเมินผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มนี้ ยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่องในปี 2559 (ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดสินเชื่อ) โดยหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ “ซื้อ” LIT, GL*, และ ASK
กลุ่มพลังงาน (PTT*, PTTEP*) วานนี้ที่ประชุมกลุ่มโอเปกและรัสเซีย บรรลุข้อตกลงไม่เพิ่มระดับการผลิตน้ำมัน สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไร PTT* และ PTTEP* ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า อาจพิจารณา “ขายทำกำไร”
กลุ่มสื่อสาร (ADVANC*, DIF) ประเด็นข่าว JAS* อาจถูกยึดใบอนุญาตประกอบธุรกิจหากไม่จ่ายเงินประมูล 4G ตามกำหนดเวลา (ล่าสุดข่าว BBL* ยังไม่อนุมัติสินเชื่อ) นั้นทำให้ ADVANC* และ DIF เป็นหุ้นเด่นที่มีโอกาส Outperform โดย ADVANC* ได้อานิสงส์ในเรื่องการที่จะยังไม่มีคู่แข่งใหม่มาแย่งส่วนแบ่งตลาดฯ ส่วน DIF ที่เด่นในเรื่องปันผลสูง เป็นกองทุน Infrastructure fund ที่นักลงทุนอาจปรับพอร์ต Switching มาแทน JASIF
หุ้นปันผล i) PS* (เป้าพื้นฐาน 32.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผลที่เหลือของปี 2558 ที่จะประกาศจ่ายหลังปิดงบปี ±0.8 บาท/หุ้น ii) KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.3 บาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 0.78 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. – ต้น มี.ค.) iii) ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปันผล 1.36 บาท/หุ้น (ประกาศช่วงปลาย ก.พ. – ต้น มี.ค.) iv) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) ประเมินปันผล 0.55 บาท/หุ้น
หุ้นมีข่าว
(+ THAI*, ERW*, CENTEL*, CI) บินไทยฟื้นไฟลต์มอสโก เพิ่มความถี่เป็น 70 เที่ยว (โพสต์ทูเดย์) การบินไทยฟื้นเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มอสโก ครม.ไฟเขียวเพิ่มความถี่เป็น 70 เที่ยว/สัปดาห์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายงานผลเจรจาการบินระหว่างไทย-รัสเซีย ซึ่งได้เจรจากันมาตั้งแต่ปี 2557 โดยไทยและรัสเซียตกลงที่จะเพิ่มความถี่เที่ยวบินระหว่างกัน ได้แก่ เพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มอสโก เป็น 70 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากเดิม 42 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เพิ่มเที่ยวบินภูเก็ต-เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็น 28 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากเดิม 14 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ... คาดเป็น Sentiment บวกต่อ THAI* (เที่ยวบินเพิ่ม) และหุ้นที่มีโรงแรมในพื้นที่ พัทยา ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวรัสเซีย เช่น ERW*, CENTEL*, CI
(0) ฐากร ก่ายหน้าผาก แก้ปัญหาทีวีดิจิตอลไม่คืบ (ผู้จัดการออนไลน์) จากสิบวาระการประชุมที่จะต้องพิจารณาในคณะกรรมการ กสทช. เมื่อวานนี้ เช่น การเลื่อนการชำระเงินใบอนุญาตงวดที่สาม การขอคืนใบอนุญาต การขอเงินทุนทำเรทติ้งใหม่ ค่าใช้จ่ายมัสแครี่ มีเพียงเรื่องการแจกคูปองเพิ่มเติมจำนวน 11.6 ล้านใบที่ได้ข้อยุติแล้ว ขณะที่วาระอื่นๆ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 29 ก.พ. หรือต้นเดือน มี.ค. 59 สำหรับเรื่องของการปรับค่าธรรมเนียม USO จาก 2% เหลือ 0.1-1% ของรายได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 5 เดือน ข่าวนี้ไม่ถือเป็นลบกับผู้ประกอบการที่สามารถทำให้กำไรได้อยู่แล้ว ซึ่งเรายังคงชอบ WORK* และคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 51.00 บาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ราคาหุ้นปรับลงแรงหลังหลุดจุด stop loss 5.7 บาทที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า สำหรับนักลงทุนที่ Stop loss ไปแล้ว แนะนำ “รอจังหวะเก็งกำไร” มีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ 5.2 บาท โดยประเมินว่าพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง
LIT (เป้า Consensus 12.6 บาท) แนะนำ “ซื้อ” แนวรับ 8.35 บาท (Stop loss 8 บาท) แนวต้าน ±9.75 บาท เป็นจุดขายทำกำไร คาด Earnings momentumทำนิวไฮต่ออีก 3 ไตรมาสติดเป็นอย่างต่ำ
UBIS (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 7.1 – 8.9 บาท) แนะนำ “ซื้อ” ประเมินแนวรับ 6.15 บาท (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) แนวต้าน 7 บาท ... คาดกำไรไตรมาส 4/58 ±45 ล้านบาท (+64% YoY และ +28% QoQ)
VGI* (เป้า Consensus 3.92 บาท) แนะนำ “ซื้อ” ประเมินแนวรับ ±4.3 บาท แนวต้าน ±4.9 บาท เป็นจุดขายทำกำไรสั้น ...ประเมินในเชิงพื้นฐานพ้นจุดต่ำสุด รอข่าวบวก (การฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน + การซื้อกิจการ)
SF (เป้า Consensus 8.05 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 6.0 บาท แนวต้าน ±6.5 บาท ... คาดไตรมาส 4/58 บันทึกกำไรพิเศษ
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GLOBAL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/58 = 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% YoY เนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่สามแห่ง + คาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยเก้าวัน 1291 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือค่าเฉลี่ยเก้าวันที่ต้าน 1291 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นสู่ต้าน 1308 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1291 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลงสู่แนวรับ 1276 จุด
แนวรับวันนี้: 1285/1276 แนวต้านวันนี้: 1291/1301/1308
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]