- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 February 2016 16:20
- Hits: 619
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1300 และ 1330
SET Index: 1297.03 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1300 จุด หลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ 1270 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1300 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 1325-1330 จุด ในขณะราคาน้ำมัน Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 34.50 เหรียญต่อบารเรลขึ้นมาได้แล้ว ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 44 เหรียญ
แนวต้าน : 1300 และ 1308
แนวรับ : 1295 และ 1290
TASCO = 22.00 / 23.50, AOT = 370 / 382, PTTGC = 53.50 / 55.00, KBANK = 165 / 167, TOP = 60.00 / 61.00
PTT Exploration & Production (PTTEP TB; THB 61.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 63.00 และ 65.00 / เป้าหมาย 70.00
แนวรับ : 61.00 และ 60.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 59.00 ขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสเกิดรูปแบบ Reverse Head and Shoulders
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PTTEP โดยมีแนวรับที่ 61.00 และ 60.50 และมีแนวต้านที่ 63.00 และ 65.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 59.00 อาจลงต่อไปทดสอบ 56.00
PTT (PTT TB; THB 241.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 254 และ 260
แนวรับ : 240 และ 237
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นที่บริเวณ 240-244 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ PTT โดยมีแนวรับที่ 240 และ 237 และมีแนวต้านที่ 254 และ 260 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 230 ลงไป
SET50 Index Futures
S50H16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 814-815 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 795-800 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 820 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 840
แนวต้าน : 820 และ 825
แนวรับ : 814 และ 812
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50H16 ต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 812-814 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 820 ไปทดสอบ 840
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50H16 ปรับตัวลดลงหลุด 807 ลงไป
IRPCH16
ฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.17-4.18 หลังจากลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.00 แล้วฟื้นตัวกลับขึ้นมาในระยะสั้น แต่เรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 3.90-3.80 ตามกรอบแนวโน้มขาลง และมีแนวต้านสำคัญที่ 4.20
แนวต้าน : 4.18 และ 4.20
แนวรับ : 4.08 และ 4.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCH16 ที่แนวต้าน 4.18-4.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 4.00 และ 3.90
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCH16 ปรับตัวขึ้นทะลุ 4.24 กลับขึ้นไป
THAIH16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวต้านที่ 10.00 ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง โดยมีต้านสำคัญที่ 10.70-10.80 ที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างแรงในระยะสั้น ทำให้มีโอกาสอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับที่ 9.50 และ 9.20
แนวต้าน : 10.00 และ 10.20
แนวรับ : 9.50 และ 9.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Long ใน THAIH16 ที่แนวรับ 9.20 หรือ 9.00 เมื่ออ่อนตัวลงมา โดยมีแนวต้านที่ 10.80 เป็นจังหวะ Open Short
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า THAIH16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 11.00 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังผันผวนได้ทุกขณะ
ดัชนีตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand U$) ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังสามารถยืนในแดนบวกได้ที่ 1.8% ถือว่าทำได้ดีกว่าตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกคือยัง Outperform ในบรรดาตลาดหุ้นเกิดใหม่ 21 ประเทศทั่วโลกเป็นรองแค่ เปรูและอินโดนีเชีย จากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก แม้จะสามารถยืนในแดนบวกได้ แต่เรามองว่าความผันผวนยังไม่หายไป จนกว่าจะถึงการประชุม ECB ในเดือน มี.ค.โดยประเด็นที่ยังต้องติดตามคือ แนวโน้มค่าเงินหยวน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หุ้นกลุ่มธนาคารของกลุ่มยุโรปและทิศทางราคาน้ำมัน
แม้ทิศทางตลาดในช่วงเดือน ก.พ จะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น แต่มองทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ (S&P500) หลังไม่หลุด 1812 จุด น่าจะรีบาวน์ได้ต่อ แต่ไม่ไกล โดยอาจกลับมาผันผวนได้อีกในช่วงปลายสัปดาห์ หากตัวเลข CPI ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนความผันผวนของหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรป ก็ไม่ได้จางหายไป เพียงแต่ตอนนี้ หุ้นที่มีปัญหาอย่าง Deutsche bank ได้ออกมายืนยันที่จะซื้อพันธบัตรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินกองทุน โดยปัจจัยที่มองแล้วยังอันตราย คือ ผลตอบแทนจากพันธบัตรทั้งรัฐบาลและเอกชนต่างค่อยๆ ลงมาติดลบ สะท้อนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ
กลยุทธ์ในช่วงนี้ยังคงเป็นการขึ้นขายลงซื้อ และเล่นสั้นๆ หรือถือเงินสด จนกว่าจะเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนกว่านี้ โดยหุ้นที่น่าจะสามารถเล่นในลักษณะอย่างนี้ได้ คงเป็นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากกว่าจะเห็นความชัดเจนการเจรจาเรื่องลดกำลังการผลิตอาจกินเวลาไปถึงเดือนหน้าหรือในเดือน มิ.ย.(การประชุมใหญ่ของกลุ่ม OPEC) แต่หากเห็นความชัดเจนไม่ว่าจะบรรลุหรือไม่บรรลุข้อตกลง การเล่นกลุ่มนี้จะเริ่มหยุดหรือทรงๆ อย่างหากลดกำลังการผลิตซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไร ราคาน้ำมันก็คงแกว่งได้สูงสุดในกรอบ 35-40 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หรือหากไม่บรรลุข้อตกลง ราคาน้ำมันอาจจะลงไปที่กรอบ 25-20 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
ในช่วงที่หุ้นน้ำมันยังพอแกว่งตัวและมีช่องให้เล่น หุ้นในกลุ่มอื่นๆ เริ่มเข้าไปเล่นยาก เนื่องจากไม่มีกรอบให้เล่นมากนักและไม่มีปัจจัยหนุนอุตสาหกรรม หลังผลการดำเนินงาน Q4/15 ทยอยประกาศหมด ตรงนี้เองที่ทำให้เรามองว่า ดัชนียังผันผวน อย่างไรก็ตามเรากลับมองว่าการลงแรงๆ ของดัชนีในรอบนี้ ยังมีโอกาสน้อย หลังแรงขายของต่างชาติน้อยลงมากๆ ยกเว้นจะเกิดการสั่นของตลาดทั่วโลกเกิดขึ้นมาอีก
ภาพการลงทุนในตอนนี้ ต้องจับตาตลาดหลักอย่างเดียวโดยเฉพาะ ตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะเป็นตลาดเดียวที่อัตราการลงยังต่ำกว่าตลาดหลักๆทั่วโลกนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หากเริ่มคลายตัว ตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวขึ้นและตรงข้าม หากแย่ลงไปอีก ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะลงต่อ ในวันนี้คาดว่าตลาดจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังเมื่อคืนนี้ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวต่อสภายุโรปว่า ECB พร้อมจะทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค. นี้ (คาดว่าจะเป็นการเพิ่มวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรจากปัจจุบันที่ 60,000 ล้านยูโร/เดือน) โดยคาดว่าหุ้น AOT ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 (ต.ค.-ธ.ค. 58) เมื่อวานนี้ออกมาดีและหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน (PTT PTTEP) จะเป็นหุ้นนำตลาดในวันนี้ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1280-1285 และแนวต้านที่ 1295-1300 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
เรียบเรียง โดย นายศักดิ์ชาย งอกงาม
อีเมล์. [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,297.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.63 จุด (+0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 18,444.04 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกแคบๆ ตามตลาดภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากการปรับของตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ หลัง ECB ส่งสัญญาณจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ตัวเลขลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนม.ค.ของจีนปรับตัวขึ้น
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ลุ้นทะลุ 1300 จุด ภาพใหญ่ยังเป็นสัญญาณบวก หลังนักลงทุนลดความกังวลในปัญหาสถาบันการเงินของยุโรปลงไป ประกอบกับทิศทางตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น พร้อมกับราคาน้ำมันที่เริ่มดีดตัวกลับ ช่วยหนุนให้ SET Index ฟื้นตัวต่อเนื่อง มองหุ้นกลุ่มที่ยังขึ้นช้ากว่าตลาดยังสามารถซื้อตามได้ เราชอบ BBL KTB CPALL BA IRPC น่าจะเป็นตัวสอดแทรกขึ้นมาในช่วงนี้ มองแนวต้านที่ 1300 จุด และ 1314 จุด แนวรับ 1290 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
PTT Exploration & Production (PTTEP TB; THB 61.50) - ซื้อ
PTT (PTT TB; THB 241.00) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]