WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

คาด SET กำลังแกว่งขึ้นต่อจึงเน้นถือ...แต่จะซื้อยังน่ารออ่อน!
  กลยุทธ์ : SET เริ่มสัปดาห์นี้ด้วยการรีบาวด์ หลังสัปดาห์ก่อนตลาดปรับพักตัวลงพอควรแล้ว ซึ่ง FSS คาดว่า SET จะอยู่ในช่วงบวกขึ้นต่อเนื่องได้ โดยเรายังคาดหมายว่าดัชนีมีสิทธิขยับขึ้นไปใกล้เคียง 1350 จุดได้ในช่วงถัดไป แต่ยังมีโอกาสแกว่งผันผวนเป็นระยะ ดังนั้นจึงรอซื้อลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอขายสูง

  หุ้นเด่นทางเทคนิค : TISCO, RCI, EARTH(short)
  แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นมาแกว่งด้านบวกได้บ้าง หลังจากสัปดาห์ที่แล้วดัชนีปรับตัวลงเกือบทั้งสัปดาห์ด้วยระยะทางพอควร ตามความอ่อนแอของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ก่อนที่ช่วง 2 วันนี้ราคาน้ำมันดิบจะมีจังหวะฟื้นตัวขึ้นค่อนข้างแรง จึงทำให้ SET ดีดกลับขึ้นมาวานนี้ ขณะที่เช้านี้แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยชี้นำจากตลาดหุ้นสหรัฐเนื่องจากติดวันหยุดเมื่อคืน แต่การปิดเป็นบวกในระดับ 2-3% ของตลาดหุ้นยุโรป เพื่อขานรับการที่ประธาน ECB ยังส่งสัญญาณว่ามีความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนหน้า(10 มี.ค.) ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ายังขยับบวกได้ดี และหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวในด้านบวกได้ แม้ว่าจะแกว่งตัวผันผวนบ้างในช่วงเปิด นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวสูงกว่า 30 ดอลลาร์/บาร์เรลให้เห็น จึงทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET น่าจะมีจังหวะขยับบวกต่อได้ตามคาดเดิม เพียงแต่ในระหว่างขยับขึ้น ก็ยังมีสิทธิแกว่งตัวผันผวนและอ่อนตัวเป็นระยะๆ ได้ เพราะปัจจัยที่เข้ามาหนุนตลาดถือว่ายังไม่ได้มีความชัดเจนมากนัก

  แนวรับ 1286-1282 , 1280-1276 จุด
  แนวต้าน 1292-1294 , 1300-1307 จุด

       Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$193 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ และไต้หวัน US$110.2 ล้าน และ US$101.8ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ไหลเข้า TIP ทุกประเทศรวมกัน US$22 ล้าน นำโดยอินโดนีเซีย US$10.9 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้มีทิศทางไหลกลับภูมิภาคหลังจากประธาน ECB ส่งสัญญาณใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม (ประชุม 10 มี.ค.)

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) เศรษฐกิจไทยปี 2015 โต 2.8% ตามคาด แต่อาจพักฐานใน 1Q16 GDP 4Q15 +2.8% Y-Y, +0.8% Q-Q จากหลายมาตรการของภาครัฐทั้งเร่งรัดเบิกจ่ายการลงทุนขนาดเล็ก การเร่งให้ซื้อรถก่อนขึ้นภาษีสรรพสามิตต้นปีนี้ กระตุ้นการจับจ่ายโดยลดหย่อนภาษีได้ 1.5 หมื่นบาท แต่มาตรการระยะสั้นที่ไม่ต่อเนื่องทำให้แนวโน้ม 1Q16 ชะลอเพราะส่งออกยังไม่มีสัญญาณฟื้น การลงทุนภาคเอกชนยังชะลอ การจับจ่ายบางส่วนถูกดึงไปอยู่ใน 4Q15 แม้สภาพัฒน์จะปรับลด GDP ปีนี้ลงเป็น 2.8-3.8% จาก 3-4% แต่คาดการณ์ของเราที่ 3.3% น่าจะยังเป็นไปได้ นำโดยการลงทุนภาครัฐและการบริโภคของผู้มีรายได้กลาง-สูงซึ่งจะเห็นชัดเจนใน 2H16 หุ้นที่น่าลงทุนยังเป็นการแพทย์ ท่องเที่ยว ไฟแนนซ์ใน 1H16 และเพิ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง และแบงก์ใน 2H16

(+) GL การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เป็นบวก กำไร 4Q15 ที่ดีเกินคาดมาจากรายได้อื่นซึ่งเป็นรายได้จาธุรกิจใหม่ ซึ่งนำไปสู่การปรับ Business Model สู่การเป็นผู้ให้สินเชื่อครบวงจร ทั้งผู้ประกอบการและการให้สินเชื่อรายย่อยที่มีความต้องการและมีศักยภาพเติบโตสูงในระดับอาเซียน เราปรับกำไรปี 2016 ขึ้น 6% เป็นเติบโตถึง 70%Y-Y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 25 บาท จาก 22.30 บาท ยังคงแนะนำซื้อ

(+) EPG กำไรชะลอชั่วคราว กำไร 3Q16 (ต.ค.-ธ.ค.15) -16.7% Q-Q และต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เป็นการชะลอชั่วคราว ไตรมาสถัดไปจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังผ่าน Low season และค่าใช้จ่ายพนักงานกลับมาเป็นปกติ เรายังคงคาดกำไรปี 2016 (สิ้นสุด มี.ค.16) โต 133% Y-Y และโตต่อเนื่อง 14% Y-Y ในปี 2017 (สิ้นสุด มี.ค.17) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในระยะสั้นมีผลจำกัดเพราะราคาเม็ดพลาสติกยังอยู่ในระดับต่ำ หุ้นอาจหมดเสน่ห์หลังประกาศผลประกอบการ แต่เรายังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15 บาท

(+) PTTGC กำไร 4Q15 ตามคาด +289% Q-Q และพลิกจากขาดทุนใน 4Q14 เป็น 4.69 พันล้านบาท หนุนโดยธุรกิจโรงกลั่นและอะโรเมติกส์ และกำไรจาก Hedging ช่วยลดผลกระทบจาก Stock loss และ Impairment ของบริษัทย่อย ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี +33% Y-Y เรายังคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 25% Y-Y จาก Margin ของธุรกิจหลักที่ทรงตัวในระดับสูง ธุรกิจอะโรเมติกส์ไม่มีหยุดซ่อมบำรุงเหมือนปีก่อนและยังมีกำลังการเพิ่มจากการ Debottleneck ราคาหุ้นปัจจุบันมี PBV เพียง 1.0 เท่า และอยู่ในระยะเวลาซื้อคืนหุ้น (สิ้นสุด 7 มี.ค. นี้) ที่ผ่านมาซื้อคืนไปแล้ว 54% ของวงเงินที่ราคาเฉลี่ย 50.14 บาท/หุ้น เรายังคงราคาพื้นฐาน 60 บาท คงคำแนะนำซื้อ

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อที่ผ่านมาปิดบวกแรงต่อเนื่องหลังประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนหน้า รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มธนาคารและ Commodity
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังปรับตัวค่อนมาในแดนบวกได้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 35.55-35.70 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

16-ก.พ. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม

- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.พ.)
17-ก.พ. - ไต้หวัน: 4Q15 GDP

- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม

- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (ม.ค.), Fed Minutes จากการประชุม 26-27 ม.ค.
18 ก.พ. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)

- สหรัฐ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
19-ก.พ. - สิงคโปร์: 2015 GDP

- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
20-ก.พ. - ไทย: ยอดขายรถ (ม.ค.)
22-ก.พ. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
23-ก.พ. - สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.), ยอดขายบ้านเก่า (ม.ค.), ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller Index (ธ.ค.)
24-ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.)

- ฮ่องกง: 2015 GDP (ตลาดคาด +2.3% ชะลอจากปีก่อนที่โต 2.5%)

Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!