- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 February 2016 17:44
- Hits: 804
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดยังมีโอกาสลดลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด หลังตลาดลงแรงวานนี้ โดยที่ยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ แต่ยังให้น้ำหนักไปที่ประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะจากถ้อยแถลงวันที่ 2 ของประธานเฟดที่ส่งสัญญาณชะลอขี้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า แต่คาดอยู่ในความคาดหมายของตลาด อย่างไนก็ตามคาดไม่สามารถชดเชยประเด็นความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน? ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งคาดกดดันผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานต่อไป
นอกจากนี้ยังมีประเด็นความไม่แน่นอนของปัญหาเศรษฐกิจจีน แม้ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยดังกล่าวเท่าที่ควร
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ โดยยังอยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงปลายก.พ. ส่วนทางด้าน Fund Flow มีความผันผวน แรงซื้อขายสุทธิสลับกันไป ล่าสุดซื้อสุทธิเข้ามา 193 ล้านบาท และยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 35.24 – 35.26 บาท อ่อนค่าเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ 35.23 บาท อย่างไรก็ตามคาดยังมีแนวโน้มแข็งค่า หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน นอกเหนือจากการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ที่คาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -254.56, NASDAQ -16.76, S&P -22.78, FTSE -135.33, CAC -164.49 และ DAX -264.42
ภายใต้ถ้อยแถลงของประธานเฟด ย้ำในวันที่ 2 ว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยหรือไม่? และยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ล่าสุดตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ลดลง 16,000 ราย อยู่ที่ 269,000 ราย ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 281,000 ราย
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากกลุ่มธนาคาร หลังโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส เปิดเผยกำไรสุทธิ 4Q/58 656 ล้านยูโร (741 ล้านUSD) ดีขึ้นจาก 549 ล้านยูโร เมื่อ 4Q/57 แต่ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ประมาณ 944 ล้านยูโร และริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ระดับโลก ที่กำไรสุทธิในปี’58 ลดลง 51% อยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$1.24 อยู่ที่ US$ 26.21 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 65 ล้านบาร์เรล และประเด็นที่ อิหร่านประกาศตั้งราคาขายน้ำมันให้แก่ลูกค้าในเอเชีย เพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค.ต่ำกว่าน้ำมันดิบอาหรับมีเดียมของซาอุดิอาระเบีย 10 เซนต์/บาร์เรล ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอิหร่านพร้อมที่จะตัดราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่หายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.24 1.72 3.37
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 45,363.34
สถาบัน +480.97
บัญชีหลักทรัพย์ -2,315.19
ต่างประเทศ +193.20
ในประเทศ +1,641.02
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. +US$53.2 อยู่ที่ US$ 1,247.8 ต่อออนซ์ สูงสุดในรอบ 1 ปี จากการเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +193 ล้านบาท สะสม YTD -13,592 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 12 ก.พ. 2559
12/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค.
ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TPIPL เป็นต้น โดยเฉพาะใน 2H/59 ที่คาดความต้องการดีกว่า 1H/59
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
(6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59 ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 1.64% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.85 อยู่ที่ 28.14
หุ้นแนะนำ : SUTHA
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788