- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 February 2016 17:41
- Hits: 2105
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ผันผวน....ถือต่อถ้าไม่หลุด1290'
Stock Picks-Feb 2016 : Fundamental : INTUCH, KBANK, GFPT, PTT, TU และ Dark Horse เป็น SAMTEL
Fundamental Pick -Today: SCB(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, DCC, AP, LPN, QH, SPALI, MODERN, QTC, SNC, TCAP, TMT, BTSGIF, DIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : GUNKUL 13%, HMPRO 12%, GLOBAL 10%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ
Support Resistance Stop Loss
SET ซื้อบวก 1310-1320,1340 หุลด 1290
SET50 ซื้อบวก 830-840,850 หลุด 815
Technical Picks - Today KKP, WIIK, GLOW, AP, THRE, MINT, HFT, VIBHA
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้เล็กน้อย 0.78 จุดที่ 1304.74 หนุนโดยการรีบาวด์ของตลาดหุ้นยุโรปและดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส รวมถึงการเด้งขึ้นของราคาน้ำมันดิบด้วย แต่ต่างชาติยังคงขายสุทธิมากถึง 2.5 พันล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 979 ล้านบาท ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการลงทุนรอบสั้นๆมากกว่า ทั้งนี้เพราะปัจจัยในต่างประเทศยังผันผวนและไม่แน่นอนสูง
เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเกือบ 6% ภายในเวลาเพียง 9 วันทำการ ขณะที่ตลาดหุ้นร่วงลง 12% ใน 8 วันทำการ และความวิตกกับงบดุลและผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ทั่วโลกที่อ่อนแอและหลายแห่งมีโอกาสเพิ่มทุนยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด ถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ระบุถึงความกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสภาวะการเงินของภาคธุรกิจสหรัฐที่ตึงตัว เป็นสัญญาณว่าเฟดอาจยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.แต่ก็ทำให้มีความกังวลกับสภาวะของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
สำหรับปัจจัยในประเทศที่ติดตามเป็น รายงานกำไรปี 2015 และเงินปันผล, ผลประชุมสมาคมบลจ.เกี่ยวกับการปรับแผนลงทุนในหุ้นกลุ่มซีพี, การจ่ายค่าใบอนุญาต 4G ย่าน 900 MHz ของ JAS และ TRUE หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น SCB
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมเป็นบวกเล็กๆ (ปิดบวกเล็กน้อยและเหนือเส้น SMA10) แต่ยังควรระวังโครงการขาลงในระยะกลางยังกดดันให้มีการแกว่งถึงอ่อนตัวได้อีก แนวต้านระยะสั้น 1310-1320,1340 จุด ค่าลบดูไม่ค่อยดี ดัชนีต่ำกว่า 1290 จุด ควรลดพอร์ตตาม หรือตัดขายขาดทุน (Stop loss) เพราะมีโอกาสอ่อนลงอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับ SET50 มีแนวต้านระยะสั้น 830-840, 850 และ Stop loss ถ้าต่ำกว่า 815 จุด
การ SCAN หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสปรับขึ้นในระยะสั้น เราพบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น WIIK, GUNKUL, MINT, VIBHA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BBL, SUPER, MTLS, ASK, TTA, S11, SYNEX, TPIPL, APCS หุ้นหลุด List เป็น SF
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
สหรัฐ : ประธานเฟดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและสภาพคล่องการเงินสหรัฐที่ตึงตัว ในถ้อยแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรนางเยลเลนได้ระบุถึงความอ่อนแอในเศรษฐกิจโลก เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และภาวะอุปทานล้นตลาดของสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกน้ำมัน ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงของสินเชื่อระดับโลกที่มีมากขึ้น ทำให้สภาวะทางการเงินของภาคธุรกิจสหรัฐตึงตัวขึ้น
- จีน : สำรองเงินตราต่างประเทศม.ค.2016 ลดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เป็น 3.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง 99.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.16) ซึ่งการลดลงมาจากการขายดอลลาร์แล้วซื้อเงินหยวนเพื่อพยุงค่าเงินไม่ได้อ่อนลงเร็วและแรงเกินไปซึ่งจะนำไปสู่การไหลออกของเงินทุน นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าจีนจะยังขายดอลลาร์เพื่อซื้อหยวนต่ออีกในปีนี้ เพื่อไปชดเชยกับเงินไหลออกที่จะมีอีก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกฎเกณฑ์ที่ไม่แน่นอนและเศรษฐกิจเติบโตชะลอลง
ดอยช์แบงค์เตรียมซื้อคืนหุ้นกู้ ธนาคารรายใหญ่สุดของเยอรมนีกำลังเตรียมซื้อคืนหุ้นกู้ที่เคยออกไปทั้งหมด 5 หมื่นล้านยูโรอย่างเร่งด่วน (แต่ไม่เกี่ยวกับหุ้นกู้แบบโคโคส์) โดยหลังธนาคารรายงานผลขาดทุน 6.8 พันล้านยูโรในปี 2015 นักลงทุนก็เทขายหุ้นออกมาเพราะวิตกว่าธนาคารอาจมีการเพิ่มทุนหลังงบดุลและผลประกอบการอ่อนแอลง และความวิตกกังวลได้ลุกลามไปยังธนาคารอื่นๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเครดิตสวิส, บาร์เคลย์ส, ยูบีเอส, แบงค์ออฟอเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป, เวลล์ฟาร์โก เป็นต้น
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง ดัชนี DJIA ปิด -99.64 ที่ 15,914.74 จุด สะท้อนความกังวลของประธานเฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของราคาพลังงาน & สินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดประเมินว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนมี.ค.16 มีน้อยลง
- ราคาน้ำมันดิบยังอ่อนแอ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบมี.ค.ปิด -0.49 ดอลลาร์อยู่ที่ 27.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ปิด +0.52 ดอลลาร์อยู่ที่ 30.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ (ตัวเลข EIA) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 502 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน (ซึ่งลดลงเพียง 0.8 ล้านบาร์เรล) ขณะที่ยังผลิตระดับสูง 9.186 ล้านบาร์เรล
ประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังไม่มีนัดประชุมใหญ่เพื่อหาช่องทางพยุงราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการ แม้ว่าอิหร่านกล่าวว่าพร้อมเจรจากับซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียเสนอให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบช่วยกันลดการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อกำจัดส่วนที่ล้นเกิน แต่ก็ยังไม่มีการนัดประชุมใหญ่ร่วมกัน
- ราคาทองคำอ่อนตัว หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.ปิด -4 ดอลลาร์ มาที่ 1,194.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
JAS และ TRUE กำลังหาแบงค์การันตี ผู้บริหาร BBL กล่าวว่าการพิจารณาสินเชื่อ JAS ยังไม่คืบหน้าเพราะธนาคารรอให้บริษัทส่งแผนการเงินใหม่ เนื่องจากก่อนหน้าได้ขอวงเงินไว้ 4 หมื่นล้านบาทแต่ผลประมูลใบอนุญาต 4G ออกมาจริงสูงขึ้นเป็น 7.56 หมื่นล้านบาท สำหรับ TRUE แหล่งข่าวจากธ.พ.กล่าวว่าก็ยังหาแบงค์การันตีอยู่ แต่ทางผู้บริหาร SCB ระบุว่าธนาคารกับธนาคารอื่น 4-5 แห่งจะให้แบงค์การันตีสำหรับใบอนุญาต 4G ย่าน 900 MHz กับกลุ่ม TRUE
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : แนะนำ Switch จาก JAS และ TRUE ไปยัง ADVANC หรือ INTUCH หรือ DTAC ซึ่งมีการจ่ายปันผลที่ดีกว่าในแต่ละปี และความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุนก็น้อยกว่ามากเพราะบริษัทมีความสามารถในการกู้ยืมได้อีกมาก และด้วยความพร้อมเรื่องการเงินทำให้การลงทุนขยายโครงข่ายรองรับ 4G ทำได้อย่างรวดเร็ว ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปี 2016F ของ ADVANC & INTUCH ไว้ที่ 6.5% ส่วนของ DTAC เท่ากับ 5%
SCB (ราคาปิด 132 บาท) : หาโอกาสปล่อยสินเชื่อ M&A มากขึ้น โดยในส่วนของกลุ่ม TCC ที่เข้าซื้อกิจการ BIGC จากกลุ่มคาสิโน ฝรั่งเศส มูลค่าดีลประมาณ 1.2 แสนล้านบาทนั้น ทาง SCB กล่าวว่าธนาคารพร้อมให้สินเชื่อสำหรับดีลนี้หากต้องการเพราะกลุ่ม TCC เป็นลูกค้าของ SCB อยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งหากธนาคารปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ได้ดีก็จะทำให้การเติบโตของรายได้และกำไรมีโอกาสดีกว่าที่เราและตลาดประเมินไว้ แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 165 บาท
คาด 18 ก.พ.นี้ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศจะมีข้อสรุปเรื่องลงทุนใน CPALL นายกสมาคมบลจ.ยืนยันการประชุมของบริษัทสมาชิกร่วมกับกบข. บริษัทประกัน และสนง.ประกันสังคมวันที่ 18 ก.พ.นี้จะมีข้อสรุปการลงทุน CPALL อย่างแน่นอน ทั้งนี้ที่ประชุมบอร์ดบริษัท CPALL เมื่อ 5 ก.พ.2016 ยังให้ผู้บริหารระดับสูง 3 รายที่มีกรณีเปรียบเทียบปรับเรื่องอินไซด์เทรดดิ้งจากก.ล.ต.ปฎิบัติหน้าที่ต่อไป
เราเห็นว่าผลการตัดสินใจของที่ประชุมดังกล่าวข้างต้นจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น CPALL ในระยะสั้น ถึงแม้ว่าแนวโน้มยอดขายและกำไรของบริษัทจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่นักวิเคราะห์ประมาณการก็ตาม ผู้ที่มีหุ้น CPALL จึงต้องติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด
GL (ราคาปิด 20.80 บาท) : ตั้งเป้าปล่อยกู้ปี 2016 ที่ 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 100% จากปัจจุบันที่มีพอร์ตสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจในต่างประเทศ คือ กัมพูชา, ลาว และอินโดนีเซีย โดยตั้งเป้าหมายโครงสร้างสินเชื่อสิ้นปี 2016 เป็นสินเชื่อต่างประเทศ 1.4 หมื่นล้านบาท, ในประเทศ 5 พันล้านบาทและจากบริษัทย่อยธนบรรณ (สินเชื่อรถจักรยานยนต์มือสอง) 1 พันล้านบาท ทั้งนี้มองว่าตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ สินเชื่อแผงโซลาร์เซลล์ สินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตรในต่างประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุนมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทาง DBSV แนะนำซื้อ GL โดยให้ราคาเป้าหมายระยะยาว 12 เดือนไว้ที่ 28 บาท
นักกลยุทธ์ & วิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]