- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 February 2016 16:41
- Hits: 2007
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดภาพรวมยังมีโอกาสปรับลง แต่คาดอยู่ในกรอบแคบ โดยคาด
ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟด ต่อสภาคองเกรสในวันพุธ – พฤหัสฯ นี้ ว่าจะส่งสัญญาณการชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.? หลังตลาดทุนโลกมีความผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง และอยู่ในระดับต่ำกว่า 28USD ภายใต้ภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง และการหารือในการปรับลดปริมาณผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน มีแนวโน้มไม่สำเร็จ และคาดกดดันผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานต่อไป
ขณะที่คาดยังมีความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจีน แม้ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยดังกล่าวเท่าที่ควร
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงปลายก.พ. แต่คาดได้รับปัจจัยลบจากแรงชายสุทธิของต่างชาติ ที่ล่าสุดสูงกว่า 2,500 ล้านบาท โดยยังคงแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหว 35.38 – 35.40 บาท ใกล้เคียงวันก่อนหน้าที่ 35.38 บาท อย่างไรก็ตามคาดบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าส่วนหนึ่งจากคาดการณ์ว่าเฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไป อาจได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากความเป็นไปได้ที่รัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มท่องเที่ยวทั้งกลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน นอกเหนือจากการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ที่คาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
ยังแนะจับตา (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดหลังจากนี้มีการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วงเงิน 110,116 ล้านบาท ที่คาดสามารถเปิดประมูลได้ในช่วง 1Q/59 และรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงิน ประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดส่งผลดีต่อ CK และ UNIQ
(2) กลุ่มการบิน ที่คาดราคามีโอกาสฟื้นตัว หลังสายการบินของไทยผ่านการประเมินของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสามารถบินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และช่วง High Season ของการท่องเที่ยว คาดส่งผลดีต่อ BA, AAV
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -12.67, NASDAQ -14.99, S&P -1.23, FTSE -57.17, CAC -68.77 และ DAX -99.96
ยังคงได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ต่ำกว่าระดับ 28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยังไม่สามารถทำข้อตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม – ม.ค. อยู่ที่ 93.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ก.พ.’57 และอยู่ระหว่างติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด ต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ และต่อวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ ว่าจะส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยกดดันเพิ่ม จากหุ้นกลุ่มธนาคาร ภายใต้ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งหุ้นดอยช์แบงก์ ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้ธนาคารออกมายืนยันว่ามีเม็ดเงินสดเพียงพอที่จะชำระหนี้ก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$1.75 อยู่ที่ US$ 27.94ต่อบาร์เรล หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI เฉลี่ย 37.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 38.54 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์ เฉลี่ย 37.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 40.15 ดอลลาร์/บาร์เรล พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปี’59 คาดอยู่ที่ 1.17 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 1.6 ล้านบาร์เรล ในปี’58
รวมถึงคาดภาวะน้ำมันล้นตลาดจะยังคงอยู่ต่อไปในปีนี้ ขณะที่โอเปก ไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.93 1.76 3.29
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 28,393.62
สถาบัน -1,308.65
บัญชีหลักทรัพย์ +867.43
ต่างประเทศ -2,542.64
ในประเทศ +2,983.86
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. +US$0.7 อยู่ที่ US$ 1,198.6
ต่อออนซ์ จากการเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง และยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,543 ล้านบาท สะสม YTD -11,280 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 10 - 12 ก.พ. 2559
10/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกน้ำมัน
งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.
11/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
12/2/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค.
ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
(3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, TOP และ SPRC จะได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q/58-1Q/59 แต่คาดผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 4Q/58 เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TPIPL เป็นต้น โดยเฉพาะใน 2H/59 ที่คาดความต้องการดีกว่า 1H/59
(5) หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, CENTEL) และ AOT จากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วง High season ใน 4Q/58 – 1Q/59
(6) เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน คาดอาจมีแรงเก็งกำไร จนถึงปลายเดือน ก.พ.’59 ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 1.73% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.54 อยู่ที่ 26.54
หุ้นแนะนำ : SIRI
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788