- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 January 2016 16:52
- Hits: 1634
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สร้างฐาน: เน้นกลุ่ม Bottom Play (BR, TCAP) ผสานกลุ่มค้าปลีก (ROBINS) รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: วันนี้จับตาความคืบหน้ามาตรการลดหย่อนภาษีการท่องเที่ยวไทย
(+) Int Factor: ครม. อนุมัติโครงการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ราว 2 หมื่นล้านบาท
(+) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F เพียง 12.49 เท่า ต่ำกว่าLT Avg PER 14 เท่า
(+) TFEX: สถานะสะสมของต่างชาติใน TFEX ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันสูงถึง 50,419 สัญญา
(*/+) Int Factor: การรายงานกำไรกลุ่ม BANK 4Q15 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 933 ลบ., Short Future 681, ขาย Bond 1085 ลบ.
(*) Ex Factor: ConsคาดกำไรDowJones 4Q15ที่8.64 หมื่นล้านเหรียญ+15%q-q,-3%y-y
(*) OIL: ราคาน้ำมันดิบ WTI -3.5% สู่ $28.37/bbl / Brent +0.7% สู่ $28.67/bbl
SET PER 16F: CNS 12.53x (EPS 101) vs Cons.12.49x (LT-Avg 14.5x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 101, PER15x)
Nomura Daily Top Picks: BR, TCAP, ROBINS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway ในกรอบแนวต้าน 1279/1286 จุด และแนวรับ 1258/1251 จุด แนวโน้มระยะสั้นของราคาน้ำมันดิบโลกที่คาดว่าจะเริ่มมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ราคาปรับตัวลงแรงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา (ลดลงกว่า 40% ในรอบ 2 เดือนครึ่ง) ซึ่งคาดราคาดังกล่าวตอบรับความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว รวมถึงภาวะอุปทานส่วนเกินจากการที่ชาติมหาอำนาจยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่านไปค่อนข้างมากแล้ว โดยคาดว่าภาวะอุปทานส่วนเกินดังกล่าวน่าจะถูกชดเชยด้วย ปริมาณการผลิตจากกลุ่ม Non-OPEC ที่คาดจะปรับลดลงราว 6 แสนบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ช่วยลดแรงกดดันดังกล่าว นอกจากนี้จากภาพราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจจะทำให้ Forward Guidance ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของ FED ที่คาดดอกเบี้ยจะขึ้นทุกไตรมาส ไตรมาสละ 0.25% อาจจะเลื่อนออกไปได้ โดยในมุมมองของ Nomura คาดดอกเบี้ยสหรัฐจะขึ้นเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในเดือน มิยและธค 2016 ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวในช่วงถัดไป
ส่วนปัจจัยในประเทศ เข้าสู่ช่วงการทยอยประกาศกำไร 4Q15 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่ง กลุ่ม BANK ที่รายงานออกมากลุ่มแรก พบว่าค่อนข้างสอดคล้องกับมุมมองของ Consensus ที่ประเมินไว้ ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่ม BANK ตอบรับความเสี่ยงไปในช่วงที่ผ่านมาไปมากแล้ว จึงอาจมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ เพิ่ม sentiment บวกต่อ SET ผสานกับความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ยังเป็นปัจจัยที่จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นเป็นแรงผลักดันต่อการลงทุนเพิ่มเติมในสินทรัพย์เสียง โดยวานนี้ ครม.มีการอนุมัติเพิ่มงบกลางปี 2016 วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท เพื่อลงทุนขยายโครงข่ายอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ (2 หมื่นล้าน) และใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจคาดฟื้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนมากยิ่งขึ้น ส่วนวันนี้แนะติดตามการหารือมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 85% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 7.5%
Short-Term Strategy : ราคาน้ำมันน่าจะใกล้จุดต่ำสุด 28-25เหรียญฯ แนะนำหาจังหวะเก็งกำไรหุ้น PTT, PTTEP จังหวะย่อตัววันนี้ ส่วนหุ้นลงทุนยังเน้นกลุ่ม High Yield (KTB, INTUCH, ADVANC, SIRI, BJCHI, SC, QTC, TISCO) ผสานกลุ่ม Bottom Play (BR, TCAP, SAMART) รวมถึงหุ้นที่คาดได้อานิสงค์การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เช่น ท่องเที่ยว (ERW, AOT, MINT), ค้าปลีก (ROBINS), สื่อสารวางโครงข่าย (SAMTEL) และวัสดุก่อสร้าง (DCC) ผสานกลุ่ม Mid-Small Caps ที่คาดจะรายงานกำไร 4Q15 เด่น (GFPT, MTSL, SAWAD, COM7, CI, ERW, KAMART, PLANB, TPCH) ที่คาดจะต้านทานสภาวะตลาดผันผวนสั้นได้ดี สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: BR, TCAP, ROBINS*
Mid-Long Term Strategy : แนวโน้มตลาดเดือน ม.ค. 2016 SET มีโอกาสเกิด January effect หนุนปรับตัวขึ้น สู่ต้าน 1336/1360จุด โดยคาดกลุ่มนำตลาดในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มได้ประโยชน์จากการบริโภคและการท่องเที่ยว(ROBINS, GLOBAL, MINT, ERW, KAMART) ผสานกลุ่มโรงกลั่นที่ได้อานิสงค์ค่าการกลั่นสูงและคาดราคาน้ำมันดิบต้นปีฟื้นตัว(TOP, IRPC) อสังหาฯ (SCC, DCC, CI, SC, PS) และกลุ่มปันผลสูง(TCAP, INTUCH, ADVANC, SPALI, LH, SC, SCC, KTB) ผสาน Mid-small Cap ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว PLANB, AMATA, BRR, COM7 ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้ COAL(BANPU), MEDIA(BEC), Airline(THAI), ICT( TRUE) โดย Portfolio Top picks JAN 16 TCAP, ROBINS, CI, KAMART, BRR, ERW หรือ สะสม หุ้น Theme: 2016 AEC Connectivity (ERW, KAMART, BCH, BDMS, BBL, CK, AMATA. DCC, ROBINS, CI, LH, TCAP, SCC, KSL, BRR, NYT)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BR (TP11.0): Support 6.25/6.0 Resistance 7.0/7.4
Theme: Chinese New Year 2016
Earning Outlook : คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q15 และจะเริ่มฟื้นตัว 4Q15F สู่ระดับ 140.8 ลบ. (+27%q-q) ต่อเนื่องไปจนถึง 1H16 โดยรวมคาดกำไร 2016F ที่ 635 ลบ. (+11.6% y-y)
Valuation : Upside เปิดกว้างถึง 66.6% อิงมูลค่าเหมาะสม (Consensus) 11.0 บาท/หุ้น
Catalyst : Consensus คาดแนวโน้มกำไร 4Q15F ฟื้นตัว +27%q-q สู่ระดับ 140.8 ลบ. ต่อเนื่องถึง 1H16 รับเทศกาลตรุษจีน
TCAP (TP44*): Support 37.0/36.0 Resistance 38.5/40.0
Theme: Dividend Play
Earning Outlook : คาดแนวโน้มกำไร 16F ฟื้นตัวขึ้นจากการลดลงของ NPL Ratio และการฟื้นตัวของสินเชื่อรถยนต์ หนุนกำไร 16F โต 11.23%y-y ที่ระดับ 6.05 พันลบ.
Valuation : เลือก TCAP เป็น Top pick ราคาปัจจุบันมี Upside 17% พร้อม Dividend Yield สูง 5.3% (รอบ 2H15 ขึ้น XD ช่วงเดือน เม.ย.)
Catalyst : กำไร 4Q15 ที่ระดับ 1.35 พันลบ. เป็นไปตามตลาดคาดทรงตัว q-q, y-y ผสานคาดคุณภาพสินทรัพย์กลุ่ม HP ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ปี 2016F กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 11% y-y
ROBINS (TP57*): Support 40/39 Resistance 43.0/44.5
Theme: The Laggard
Earning outlook : คาดกำไร 4Q15F ที่ 654 ลบ. +64% q-q ,+10% y-y จาก SG&A ที่ลดลงและรายได้จากสาขาใหม่ที่ศรีมาน+แม่สอด ผสานยอดขายจากมาตรการลดหย่อนภาษีปลายปี
Valuation : ดึงดูดจาก Valuation ที่ยังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มฯ (24.8x) โดยราคาเป้าหมายอิง PER16F ที่ระดับ ต่ำเพียง 17x
Catalyst : คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q15F ขยายตัว +64% q-q รับอานิสงส์มาตรการ Shopping ประหยัดภาษี 25-31 ธ.ค.15 ที่ผ่านมาหนุนยอดขายเติบโตโดดเด่น
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)