- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 January 2016 16:15
- Hits: 729
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดย่อตัวลงทดสอบแนวรับ 1,230 จุด กดดันด้วย PTT / PTTEP / SCC จากผลของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่หลุดแนว US$30/barrel แต่ท้ายที่สุดหุ้นกลุ่ม Domestic Play ฟื้นตัว รวมถึง PTT / PTTEP ที่เกิด Technical Rebound ส่งผลให้ SET INDEX ฟื้นตัวขึ้นมาปิดที่ 1,245.05 จุด ลดลงเป็นวันที่ 4 เพียง 0.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35,586 ล้านบาท
ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,152 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 8,129 สัญญา และคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ในตลาดตราสารหนี้ 1,966 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตาม GDP ใน 4Q58 ของจีน Bloomberg consensus คาดขยายตัว 6.9% yoy
ติดตามการประชุม กทค.วันนี้ อาจพิจารณา Remedy period สำหรับคลื่น 900MHz
และการประชุม ครม. อาจมีการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
มุมมองต่อตลาด
เราคาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบ ระหว่าง 1,235-1,250/55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 4.5 หมื่นล้านบาท โดยตัวแปรสำคัญต่อภาวะการลงทุนทั่วโลกคือ ตัวเลข GDP ของจีนในช่วงสายๆ วันนี้
หากออกมาขยายตัวเท่ากับหรือดีกว่า 6.9% yoy เราคาดว่า SET INDEX และตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวเด่น รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันดิบที่จะเกิด Technical Rebound ได้ต่อเนื่อง
แต่หากออกมาต่ำกว่า 6.9% yoy เราคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะยังได้รับแรงกดดันเชิงลบ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยแนวรับ 1,220-1,230 จุด จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่ปัจจัยสำคัญในประเทศ เราให้น้ำหนักต่อการประชุม กทค.วันนี้ หากมีความชัดเจนต่อช่วงเวลา Remedy period ย่อมมีผลต่อทิศทางราคา ADVANC / INTUCH ขณะที่แรงเก็งกำไรในกลุ่ม ICT เริ่มมีมากขึ้น หลัง JAS และ TRUE ยังไม่ชำระเงินงวดแรก พร้อมกับ Bank Guarantee ซึ่งวันสุดท้ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดคือ 15 มี.ค.นี้
พร้อมติดตามการประกาศงบ 4Q58 ของ SCB / TMB ในวันนี้ และธนาคารที่เหลือในวันที่ 20-21 ม.ค. หากออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ เชื่อว่า Sector Rotation จะเกิดขึ้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น คือ กลุ่มน้ำมันอย่าง PTT / PTTEP ยังคงมี Downside risk แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจมีการฟื้นตัว แต่ก็เป็นการทรงตัวอยู่ในระดับต่ำเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายต่อเนื่อง เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อ SET INDEX ฟื้นตัวสู่แนว 1,250-1,270 จุดในรอบนี้"
Accumulative Buy: TPIPL
Speculative Buy: SCB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. TPIPL : ราคาปิด 2.02 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) MBKET คาดว่างบ 4Q58 จะพลิกกลับเป็นกำไร 391 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 509 ล้านบาท ใน 3Q58 และ 237 ล้านบาท ใน 4Q57
b) คาดว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าจะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท ใน 4Q58 จากการับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้าขยะอีก 55 MW ส่งผลให้ TPIPL มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 113 MW ได้แก่ โรงไฟฟ้าความร้อนทิ้ง 40MW และโรงไฟฟ้าขยะ 73MW
c) ขณะที่ธุรกิจที่เหลือ คาดว่าธุรกิจปูนซีเมนต์จะมีกำไรสุทธิราว 150 ล้านบาท แต่ถูกหักลบจากธุรกิจปิโตรเคมีที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนราว150 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม TPIPL จะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 191 ล้านบาทใน 4Q58 จากค่าบาทที่แข็งค่าขึ้นราว 1.47 บาทต่อยูโร เนื่องจาก TPIPL มีหนี้สินในรูปสกุลยูโรราว 163 ล้านบาท
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2559 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตถึง +1,041.9% เป็น 2,879 ล้านบาท
e) ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ระดับ PBV2559 เพียง 0.67 เท่า ต่ำกว่า SCC ที่ 2.08 เท่า และ SCCC ที่ 2.68 เท่า
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. SCB : ราคาปิด 114.00 บาท ราคาเหมาะสม 160.00 บาท
a) SCB จะรายงานผลประกอบการ 4Q58 ในวันนี้ โดยคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 1.09 หมื่นล้านบาท กลับมาเติบโต +21.8% qoq จากฐานที่ต่ำใน 3Q58 เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญของ SSI ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.1% ใน 4Q58 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.06%
b) ด้วยมุมมองที่ค่อนข้างระวังของ Consensus ต่อประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มธนาคาร ดังนั้น จึงคาดว่ามีโอกาสที่งบจะออกมาดีกว่าคาดและเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นได้เช่นกัน
c) ราคาหุ้น SCB ที่ปรับตัวลงถึง -37% ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา เชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบทั้งจากการตั้งสำรองหนี้เสียของ SSI และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไปมากแล้ว
d) ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2559 คาดว่า GDP จะกลับมาขยายตัว +3% yoy จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มธนาคารมี Downside Risk ที่จำกัด และฟื้นตัวได้ในปี 2559
e) คาดการณ์เงินปันผล 2H58 หุ้นละ 3.60 บาทคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3.1%
f) ซื้อขายที่ระดับ PER2559 ที่ 7.3 เท่า และ PBV2559 ที่ 1.1 เท่า เทียบกับ ROE ปี 2559 ที่ 15.3% มีความน่าสนใจในแง่ Valuation ที่ค่อนข้างถูกแล้ว
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิวันที่ 3 ติดต่อกัน US$406 จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ US$506 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,152 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 3,919 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 11,859 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 8,129 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 11,257 สัญญา แต่เราคาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เพราะยอดสุทธิสะสม QTD จนถึงวานนี้ ยังคงเป็น Long สุทธิ 50,965 สัญญา อีกทั้ง S50H16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index ยังคงกว้างถึง 13.51 จุด แม้ว่าจะแคบกว่าวันก่อนหน้า Discount มากถึง 14.46 จุดก็ตาม
และต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 2 อีก 1,966 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 2,002 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,682 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยดีดตัวขึ้นแรงเป็นวันที่ 4 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมากถึง 4.33bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.74bps ปิดที่ 2.466%
Short-Selling วานนี้
ยังคงหนาแน่น 1,098 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,458 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ กลับมาเน้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ โดยเน้นการลดน้ำหนักใน KBANK / SCC อีกครั้ง เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,444 ล้านบาท สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 469 ล้านบาท เร่งขึ้นจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 76 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 238 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 62 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 86 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 157 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 267 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 130 ล้านบาท กลุ่มขนส่งซื้อสุทธิ 102 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ธนาคารกลางจีนให้ธนาคารพาณิชย์สำรองเงินสกุลหยวน: ธนาคารกลางจีนเตรียมกำหนดอัตราส่วน Reserve-Requirement Ratio (RRR) ในเงินฝากสกุลเงินหยวนในต่างประเทศ ของธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ณ ปัจจุบันอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 17.5% ของธนาคารพาณิชย์จีนหลักๆ
ราคาบ้านในจีนขยับขึ้นในหลายเมือง: ราคาบ้านในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 39 ใน 70 เมืองหลัก เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ที่ 33 เมือง ส่วน 26 เมืองราคาบ้านปรับตัวลง เทียบกับเดือนพ.ย.ที่ 27 เมือง และ 5 เมืองราคาบ้านไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณใหม่ที่ยังไม่ได้มีการขายเพิ่มขึ้น 12% yoy ณ สิ้นเดือนพ.ย. เป็น 441 ล้านตร.เมตร
เอเชียแปซิฟิก
อิหร่านเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อส่งออก: ด้วยกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรล/วัน หลัง UN ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับทางอิหร่าน ทั้งนี้อิหร่านประเมินว่า หากอิหร่านไม่เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อการส่งออก ผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ ก็จะเพิ่มกำลังการผลิตใน 6-12 เดือนข้างหน้าเช่นกัน
ดัชนี Tertiary Industry ของญี่ปุ่นหดตัว: เดือน พ.ย. ลดลง 0.77% mom เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.68% mom แต่ใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.7% mom ทั้งนี้ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกหดตัว 0.4% และ 0.18% mom ตามลำดับ ขณะที่ภาคบริการขยายตัว 0.21% mom
ยอดส่งออกอินเดียหดตัวต่อเนื่อง: หดตัว 14.7% yoy ในเดือน ธ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 24.4% yoy ด้านยอดนำเข้าลดลง 3.9% yoy ทำให้ดุลการค้าขาดดุลอยู่ที่ระดับ US$1.17 หมื่นล้าน
ไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนธ.ค.58 อยู่ที่ 87.5 เพิ่มขึ้นจาก 85.8 ในเดือนพ.ย. จากผลของมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชนในช่วงปีใหม่ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.7 ลดลงจาก 104.4 ในเดือนพ.ย. จากความกังวลต่อการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ใน 1Q59 เนื่องจากมีการเร่งใช้จ่ายไปค่อนข้างมากในช่วงปลายปี 2558 นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังกังวลกับปัญหาภัยแล้ง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และภัยก่อการร้ายในหลายประเทศ
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530