- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 July 2014 14:51
- Hits: 2328
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET วิ่งขึ้นได้ดีแต่ก็มีลุ้นแกว่งผันผวนและปรับพัก จึงยังรอซื้อลบดีกว่า..
กลยุทธ์ : SET ยังขยับบวกขึ้นได้ดี ทำให้ยังมีลุ้นแกว่งขึ้นหา 1520 จุดได้ตามคาด ดังนั้นส่วนที่แนะนำให้ถือลงทุนมา จึงยังสามารถถือรอต่อเนื่องได้ แต่ระยะสั้นยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนและมีแนวโน้มที่จะปรับพักตัวลงก่อนได้ ส่วนที่ต้องการเทรดดิ้งตามรอบ จึงแนะนำให้รอซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวลงก่อนดีกว่า ขณะที่ถ้าเข้าเทรดดิ้งช่วงบวกต้องใช้ความระมัดระวังสูงและเน้นทำกำไรไวไว้ก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SOLAR, AKP, TICON(buy back)
แนวโน้ม : แม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะยังขยับบวกต่อได้ดี แต่ก็มีแรงขายออกมากดดันพอควรโดยเฉพาะในช่วงท้ายชั่วโมง ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศก็ถือว่าไม่ค่อยสดใสนัก หลังตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาเปิดทำการอีกครั้งด้วยการเคลื่อนไหวในด้านลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อน จากความไม่มั่นใจว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหรือไม่ ทำให้นักลงทุนบางส่วนยังรอดูรายงานการประชุมของเฟดที่จะประกาศในคืนวันพุธที่ 9 ก.ค. นี้อีกครั้ง รวมทั้งยังรอติดตามรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่กำลังจะเริ่มทยอยประกาศในเร็วๆ นี้ด้วย ขณะที่ช่วงที่ผ่านมา SET ก็ขยับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วโดยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและมีสิทธิปรับพักฐานลงก่อนได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงตลาดปรับตัวลงก่อนจะเหมาะสมกว่า
แนวรับ 1500-1498 , 1495-1490 จุด แนวต้าน 1505-1508 , 1510-1512 จุด
Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคทุกตลาดในปริมาณที่หนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$180.5 ล้าน ไต้หวัน US$131.8 ล้าน อินโดนีเซีย US$64.1 ล้าน ไทย US$53 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$20.7 ล้าน และเวียดนาม US$1.7 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ล่าสุดนักวิเคราะห์ปรับ EPS ของตลาดขึ้นเล็กน้อย อิงจากตัวเลข Bloomberg consensus พบว่านักวิเคราะห์เริ่มมีการปรับ EPS ขึ้น ตรงข้ามกับในช่วง 6 เดือนแรกที่ปรับลดลงมาโดยตลอด โดยล่าสุดคาดการณ์ EPS ปีนี้ที่ 102.15 บาทและปี 2015 ที่ 117.24 บาท คิดเป็น PE 14.7 เท่าในปีนี้ และ 12.8 เท่าในปีหน้า การลงทุนสำหรับปีนี้ถือว่าค่อนข้างแพง แต่หากคาดหวังผลตอบแทนในระยะ 12 เดือนขึ้นไป ถือว่ายังสามารถเลือกหุ้นลงทุนได้ เพราะ PE เฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11 เท่า และเมื่อคำนึงถึงสภาพคล่องที่มีอยู่สูงทั้งจาก QE ของสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป น่าจะทำให้ PE ของตลาดไทยในปีหน้าซื้อขายที่ 13 – 14 เท่าได้
(+) SCB และ TMB น่าจะมีกำไรเด่นสุดใน 2Q14 เราคาดกำไรกลุ่มแบงก์ทั้ง 9 แห่งทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y ใน 2Q14 แม้จะมีกำไรจากการขายเงินลงทุน SCSMG ของ SCB เข้ามาช่วยแล้วก็ตาม หากไม่รวมกำไรพิเศษดังกล่าว กำไรของกลุ่มจะลดลง 3-4% ทั้ง Q-Q และ Y-Y ธนาคารที่มีกำไรโดดเด่นสุดได้แก่ SCB และ TMB แนวโน้มผลประกอบการใน 2H14 จะดีขึ้น เราคาดสินเชื่อในครึ่งหลังจะเร่งตัวขึ้น 5-6% จากครึ่งปีแรก และทั้งปีน่าจะโต 7% และคาดปีหน้าสินเชื่อโต 8-9% ทำให้กำไรสุทธิในปี 2015 เติบโตได้ 9% Y-Y ดีขึ้นมากจากปีนี้ที่โตเพียง 2% Y-Y เราปรับเพิ่มน้ำหนักของกลุ่มเป็น Overweight จากเดิม Neutral และ Top pick ยังคงเป็น KBANK (ราคาเป้าหมาย 255 บาท)
(+) INTUCH แนวโน้มกำไร 2Q14 จะลดลงตามบริษัทลูก แต่ยังแนะนำซื้อเพราะเงินปันผล แม้ว่า THCOM จะกำไรดีขึ้นแต่ชดเชยไม่ได้กับกำไรของ ADVANC ที่ลดลง ทำให้คาดกำไรสุทธิของ INTUCH -6% Q-Q, -2% Y-Y นอกจากนี้ เราปรับกำไรปกติในปีนี้ลง 5% ตามกำไรของ ADVANC ที่ปรับลงไปก่อนหน้านี้ และปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเป็น 100 บาทจากเดิม 102 บาท ตามเป้าหมายของ ADVANC ที่ปรับลงเป็น 248 บาทจากเดิม 253 บาท แต่ยังแนะนำซื้อ INTUCH เพราะคาดเงินปันผลตอบแทน 6-7% ต่อปี โดยคาดว่าจะจ่ายระหว่างกาล (งวดเม.ย. – ส.ค.) 2.30 บาท/หุ้น (yield 3.2%)
(+) TKS กำไร 2Q14 คาดเติบโตสูงถึง 59% Y-Y เพราะได้อานิสงส์จากงานพิมพ์ไปรษณียบัตรทายผลบอลโลก แต่ลดลง 27% Q-Q เพราะใน 1Q14 ได้งานพิมพ์ประเภท Advance & Security ของทางราชการค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ขณะที่งานดังกล่าวใน 2Q14 กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 15% เป็น 330 ล้านบาท +41% Y-Y จากทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มดีกว่าคาด และคาดกำไรในปี 2015 โต 15% Y-Y เราปรับเป้าหมายปีนี้ขึ้นเป็น 12 บาทจากเดิม 9 บาท ยังคงแนะนำซื้อ เรามอง TKS เป็นทั้งหุ้นเติบโตสูงและจ่ายปันผลสูง
(0) SIRI ยอด Presales ใน 2Q14 ฟื้นตัว 899% จากไตรมาสแรกที่มีการยกเลิกการจองคอนโดหลายโครงการ แต่ยังลดลง 50% Y-Y ทำให้ยอดจองในครึ่งปีแรกทำได้เพียง 32% ของเป้าทั้งปี แต่เราเชื่อว่ากำไรปกติในปีนี้น่าจะเติบโต 25% Y-Y ฟื้นจากปีก่อนที่หดตัวถึง 33% เพราะมี Backlog รองรับแล้วกว่า 80% และโตต่อเนื่อง 14% Y-Y ในปีหน้า เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.30 บาท ราคาหุ้นมี upside ที่จำกัดจึงคงคำแนะนำถือ สำหรับ 2Q14 น่าจะกลับมาเป็นกำไรหลังขาดทุน 42 ล้านบาทใน 1Q14
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านปรับตัวลดลงหลังจากทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจระยะหลังออกมาค่อนข้างดี
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันหลังตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีศึกเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปออกมาอ่อนแอ
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นโดยบรรยากาศการลงทุนถูกกดดันจากคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจเกิดขึ้นเร็วที่คาด
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยล่าสุดแกว่งอยู่ในกรอบ 32.34-32.44 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 0.53 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปิดที่ 103.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากลิเบียจะส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 3.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,317.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในอนาคตซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดและจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 ก.ค. - ไทย: PPF เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
9 ก.ค. - ไทย: MPG กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดฯ
- อินโดนีเซีย: การเลือกตั้งประธานาธิบดี
10 ก.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
- จีน: ดุลการค้า (มิ.ย.), สินเชื่อ (มิ.ย.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- สิงคโปร์: 2Q14 GDP
- สหรัฐ Fed Minutes รายงานการประชุมของวันที่ 17-18 มิ.ย.
14 ก.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการ
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ค.)
15 ก.ค. - ไทย: รฟท.จัดประมูลรถไฟรางคู่สัญญา 1 วงเงิน 1.02 หมื่นล้านบาท
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
16 ก.ค. - จีน: 2Q14 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
