- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 January 2016 16:50
- Hits: 829
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET จะผันผวน แต่ปรับลงยังน่าเลือกหุ้นทยอยซื้อเพื่อถือ!
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังผันผวน แต่ก็มีลุ้นแกว่งทรงตัวและลุ้นรอบรีบาวด์ขึ้นได้ต่อ ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ ในขณะที่สามารถเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นลบด้วย แต่เน้นเป็นซื้อเพื่อถือลงทุน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : LIT, RP, TU(short)
แนวโน้ม : ช่วงท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว SET เริ่มมีจังหวะแกว่งบวกให้เห็น หลังจากก่อนหน้านั้นดัชนีกลับมาปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดต่อเนื่องอีก โดยเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนในหุ้นกลุ่ม ICT และแบงก์ ที่ก่อนหน้านี้มีแรงขายกดดันพอควร จากผลประมูลคลื่นที่มีการแข่งขันรุนแรงมากเกินคาด ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อสถานะทางการเงินของหุ้นกลุ่มนี้ รวมถึงแบงก์ที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากราคาหุ้นหลักหลายตัวปรับลงต่ำมากแล้ว จึงทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาหนุนได้บ้าง อย่างไรก็ตามเช้านี้ SET น่าจะถูกกดดันอีกครั้งจากการปรับตัวลงค่อนข้างแรงในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปท้ายสัปดาห์ก่อน เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่ FSS ยังคาดว่ากรอบลบของ SET อาจจะยังจำกัดอยู่ หลังดัชนีปรับตัวลงมาลึกมากแล้ว และช่วงนี้ยังพอที่จะมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังดูดีอยู่ ซึ่งล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐก็ยังสูงเกินคาด รวมทั้งจีนได้มีการปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนขึ้นบ้าง ช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชีย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ดูเหมือนจะทรงตัวได้บ้างแล้ว ทำให้ FSS ยังคงคาดว่า SET จะมีกรอบลบจำกัด และยังมีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ตามคาดเดิมอยู่
แนวรับ 1242-1238 , 1235-1230 จุด
แนวต้าน 1248-1250 , 1252-1255 , 1258-1263 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$316ล้าน นำโดยไต้หวัน US$132.9ล้าน และเกาหลีใต้ US$104.9ล้าน รวมสัปดาห์แรกของปี เงินทุนได้ไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นราว US$2 พันลบ. แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคตามความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีนและท่าทีต่อการกำกับดูแลความผันผวนของตลาดทุนจีน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) การจ้างงานสหรัฐดีเกินคาด หนุนค่าเงินโลกผันผวน กดดันหุ้นโลก การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 292,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดที่ 210,000 ตำแหน่ง และมีการ revised ตัวเลขเดือน ต.ค. และ พ.ย. เพิ่มขึ้น สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า (กดดันค่าเงินหยวน) ซึ่งซ้ำเติมราคา Commodity ทุกประเภทยกเว้นทองคำที่ถูกมองเป็น Safe haven
(0) กลุ่มแบงก์เริ่มประกาศผลประกอบการปี 2015 เริ่มด้วย TISCO เย็นนี้ ภาพรวม 4Q15 ไม่ใช่ไตรมาสที่ดี เฉพาะ 4 แบงก์ที่เราประเมิน (BBL, KBANK, KTB, TISCO) คาดกำไรสุทธิ -22% Q-Q, -30% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี -12% Y-Y ส่วนแบงก์อื่นก็อยู่ในทิศทางเดียวกัน สิ่งที่กดดันกำไรใน 4Q15 นอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงตามฤดูกาลแล้ว การตั้งสำรองยังคงสูง ขณะที่คาดว่าสินเชื่อขยายตัวเพียง 1% Q-Q ผลตอบแทนของสินเชื่อลดลงจากไตรมาสก่อนตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยและ NPL ที่สูงขึ้น (เป็นเฉลี่ย 4%) ส่วน NIM แตกต่างกันตามต้นทุนการระดมเงินของแต่ละแบงก์ แนวโน้ม 1H16 ยังไม่สดใสและ NPL น่าจะเพิ่มต่อ แต่สัญญาณที่ดีขึ้นคืออัตราการเพิ่มของ NPL เริ่มชะลอตั้งแต่ 3Q15 ประเด็นการลงทุนในกลุ่มแบงก์คือ Valuations ปัจจุบันมี PBV 1.0 เท่าต่ำกว่า -1.5sd ที่ 1.26 เท่าและค่าเฉลี่ย 6 ปีที่ผ่านมาที่ 1.75 เท่าและ discount จากกลุ่ม Finance ใน MSCI ex Japan 16% มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 6% เรายังเลือก KBANK (ราคาพื้นฐาน 210 บาท) เป็น Top pick ชอบรองลงมาคือ TMB (ราคาพื้นฐาน 3.04 บาท) TCAP (ราคาพื้นฐาน 43 บาท)
(+) มุมมองกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและขนส่งในปี 2016 เราให้น้ำหนัก Overweight กับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มขนส่ง โดยเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีสีสันมากสำหรับกลุ่มนี้หลังจากการประมูลโครงการขนาดใหญ่หายไปในช่วงกว่า 5 ปีที่ผานมา ทั้งนี้ ภาครัฐตั้งเป้าโครงการที่จะประมูลในปีนี้มีมูลค่าสูงถึง 1.66 ล้านล้านบาท หรือ 55% ของมูลค่าการพัฒนาด้านคมนาคมทั้งหมดในระยะ 8 ปี (ปี 2015-22) ครอบคลุมระบบถนน ราง อากาศ และน้ำ เราประเมินว่าอย่างน้อย 30% หรือ 5 แสนล้านบาทมีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งได้แก่มอเตอร์เวย์ระหว่างจังหวัด สุวรรณภูมิเฟส2 (คาดประมูล ก.พ.-มี.ค.) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (คาดประมูล เม.ย.) สีชมพู (คาดประมูล เม.ย.) และสีเหลือง (คาดประมูลปลายปี) Top picks ของเราคือ CK (ราคาพื้นฐาน 40 บาท) จากความพร้อมทั้งเงินทุนและความเชี่ยวชาญ เราคาดกำไรปกติโตถึง 246% Y-Y และ BEM (ราคาฟื้นฐาน 6 บาท) โดยคาดกำไรปกติโตแข็งแกร่ง 42% Y-Y
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังปรับตัวลดลงอีกราว 1% โดยปรับตัวลดลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ก็ปิดในแดนลบแรงพอสมควรเช่นกันทั้งจากประเด็นความกังวลในฝั่งจีนรวมถึงราคาน้ำมันที่ยังลดลงต่อเนื่อง
(-) ส่วงผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังปรับตัวในแดนลบค่อนข้างแรงต่อเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังเป็นลบ
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งออกข้างค่อนมาในทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.38 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 0.11 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 33.16 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อในวันนี้จาก Sentiment ที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 9.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1097.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนหลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 ม.ค. - ไทย: TISCO ประกาศผลประกอบการปี 2015 (เราคาดกำไรทั้งปี -10.5% Y-Y)
- ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ
13 ม.ค. - จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
- สหรัฐ: รายงาน Beige Book
14 ม.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
15 ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
18 ม.ค. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Martin L. King
19-22 ม.ค. -ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการปี 2015
19 ม.ค. - จีน: 4Q15 GDP, Industrial Production (ธ.ค.), ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
20 ม.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Building permits, Housing starts (ธ.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
21 ม.ค. - ยูโรโซน: ECB ประชุม, อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
22 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ม.ค.)
25 ม.ค. - มาเลเซีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Thaipusam Day
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch