- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 January 2016 16:51
- Hits: 1849
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
อยู่ในช่วงรอให้เลือดหยุดไหล
เมื่อวานดัชนีฯ ยังรีบาวด์ไม่พ้นจุดเสี่ยงทางเทคนิค คงต้องระวังฝางเส้นสุดท้าย 1,250 จุด ต่อไป (เลี่ยงหุ้นฝรั่งกับกองทุนไปก่อนช่วงนี้) เราแนะนำ กระชับพอร์ตไปเมื่อวานก่อน และ วันนี้ยังคงต้องรอประเมินแรงซื้อสู้แถวแนวรับต่ออีกวัน
คาดดัชนีฯวันนี้ Sideways รับ Sentiment บวก ทางการจีนสั่งแทรกแซงตลาดหุ้นจีน, พยุงค่าเงินหยวน, อัดฉีดสภาพคล่องสถาบันการเงินอีก 1.3 แสนล้านหยวน (จีนเริ่มห้ามเลือด), คืนนี้รอดูถ้อยแถลงเฟด คาดแสดงความเป็นห่วงต่อภาวะตลาดเงินโลกผันผวน อาจส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสยบความผันผวนตลาด
เดือน มค. คาดผันผวนในกรอบ 1,250-1,320 จุด แนะเลือกเล่นสั้นรายตัว (วาง Stop loss 3-5%) กลุ่มเด่นรอบนี้ ค้าปลีก (เลือกตัวเดียว COM7), โรงกลั่น+หุ้นได้ประโยชน์ปิโตรเลียมขาลง (เลือก IRPC EPG), กลุ่มพลังงานทดแทน กกพ.ยืนยันจับฉลากโซลาร์หน่วยงานฯ ปลายเดือน มค.
หุ้นแนะนำวันนี้ GFPT แนวรับ 9.7 บ. ต้าน 10.10 บ. (ดักราคาไก่พุ่งขึ้นช่วงตรุษจีน และคาดขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ดันกำไรปีนี้ 1.26 พันล้านบาท โต+24% พลิกจากปีก่อนโตติดลบ -43%), IFEC แนวรับ 5.85 บ. ต้าน 6.6 บ. (Call visit ผู้บริหาร: ระบุขายที่ดินโรงแรมดาราเทวีจบภายในเดือนนี้ เตรียมจ่ายเงินปันผลพิเศษ / เราคาดกำไรพิเศษจากการขายที่ดินราว 600 ล้านบาท และคาดปันผลพิเศษราว 0.30 บาท ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q15 (Prelim.) คาดขั้นต่ำ 200 ล้านบาท ขณะที่ยอดพักโรงแรมดาราเทวี Booking เต็มจากทัวร์จีนลงช่วง High season ตรุษจีน
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(-) KBANK เราปรับราคาเป้าหมายลง 23% เหลือ 165 บาท หลังพบผู้บริหารเมื่อวาน คาดกำไร 4Q15 ที่ 6.5 พันล้านบาท -35% y-y, -36% q-q จากมีตั้งค่าเผื่อด้อยมูลค่าของสินทรัพย์ IT ตามโครงการ K-Transformation ราว 2.4 พันล้านบาท, ส่วน NPL ปี 2015 คาด 2.7% และเพิ่มขึ้นในปีนี้เป็น 3.5-3.6% ส่งผลให้ตั้งสำรองยังต้องเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ เราจึงปรับลดกำไรปีนี้ลง 6.5% เหลือ 4.3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ Upside น้อยเรา Downgrade คำแนะนำ ลงเป็น Trading Buy จาก Buy
(*) กลุ่มโรงพยาบาล คาดว่าจะ Outperform ดัชนีฯ โดยอิงความผันผวนของตลาดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโรงพยาบาลจะขึ้นได้ดีกว่าตลาดตลอด เพราะ ความเสี่ยงผลการดำเนินงานที่จะโตผิดคาดนั้นน้อยมาก เราคาดกำไร 2016 BH โต 17% BDMS โต 16% และ CHG โต 25% ดีกว่า SET ที่ 9%น / เราแนะ Switch ออกจาก CHG เข้า BH หรือ BDMS แทน เพราะ CHG PE 44เท่า แพงกว่า BH ที่ 38 เท่า และ BDMS ที่ 39 เท่า
หุ้นมีข่าว
(*) CHG กระแสข่าวซื้อกิจการโรงพยาบาล (เราคาดว่าจะเป็นโรงพยาบาลในระยอง) ซึ่งถ้าเป็นดีลนี้จริง คาดบวกต่อกำไรฯไม่มากคิดเป็นตัวเลขเปอร์เซนต์หลักเดียวต่ำๆ Single low digit ตอนนี้ Valuation ปี 2016 อยู่ที่ 44 เท่า เรามองว่าราคาหุ้นแพงเกินไปแล้ว แนะ เปลี่ยน CHG มาเข้า BH หรือ BDMS แทน
(+) หุ้นโรดโชว์ต่างประเทศช่วงนี้ EPG (นัดประชุมผู้จัดการกองทุน+นักวิเคราะห์ศุกร์ 15 มค.) UNIQ CK STEC BTS
(+) กลุ่มบ้านมีโอกาสรายงานกำไร 4Q15 ดีกว่าตลาดคาด กรมที่ดินเผยกระตุ้น อสังหาฯ-ราคาประเมินใหม่ ดันยอดโอนบ้านโค้งสุดท้ายเพิ่ม 5-6 เท่า
(-) SST พับแผนเปิด คาเฟ่ อาร์มานี่ เหตุเศรษฐกิจในประเทศไม่เอื้อ (ประชาชาติธุรกิจ)
(+) กลุ่มโรงแรม โรงแรมเชียงใหม่สร้างสถิติยอดพักปีใหม่ 95% เผยทัวร์จีนลงช่วงตรุษจีน ดันยอดจองล่วงหน้า 100%
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ทางการจีนแทรกแซงตลาดหุ้น คาดหนุนหุ้นจีน รีบาวด์ ส่งผลต่อ Sentiment บวกหุ้นไทย (1) มาตรการห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่(ที่ถือหุ้นเกิน 5%) ขายหุ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุ 8 มค. นี้ ล่าสุดทางการจีน สั่งห้ามขายหุ้นแล้ว จนกว่าจะมีมาตรการใหม่ออกมารองรับ (2) แบงก์ชาติจีนประกาศ จะเริ่มแทรกแซงค่าเงินหยวนให้มี เสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาดว่าจะไม่มีการปล่อยกรอบเคลื่อนไหวค่าเงิน ให้อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องตามที่ตลาดวิตก หลังวานก่อน ทางการจีนประกาศขยับกรอบค่าเงิน 0.15% ส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่า
(+) เมื่อวันจันทร์ PMI ยุโรป +53.2 ในเดือน ธค. จาก พย. 52.8 / PMI อิตาลี เดือน ธค. 55.6 เพิ่มขึ้นจาก 54.9 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี / ฝรั่งเศส 51.4 จาก 50.6 / เยอรมนี 53.2 จาก 52.9
(+) คาดแรงขายกอง LTF ที่ครบอายุ มีไม่เยอะ เพราะ (1) หุ้นไทยให้ผลตอบแทนลดลงเทียบ 1-2 ปีก่อน (มองว่าคนไม่อยากขาย) (2) โค้งสุดท้าย ธค.15 กองทุนซื้อสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท ลดลงจาก ธค.14 ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท (มองว่าแรงขายต้นปี เพื่อเอาเงินไปโปะกองที่ซื้อเมื่อปลายปีน่าจะลดลงตาม)
(-) จีนรายงาน PMI official ธค. 49.7 ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย 49.8 (จากเดือน พย. 49.6) ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์คาด ตัวเลข Industrial production ที่จะประกาศ 19 มค.นี้ ลดลงเหลือ 5.9% y-y จากเดือน พย. 6.2%
(-) เมื่อวันจันทร์ US ISM ธค. 48.2 แย่กว่าคาดที่ 49 และ ลดลงจาก 48.6
(*) พุธ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ, ดัชนี PMI ยุโรป
(-) พฤหัส มาเลเซีย รายงานส่งออก พย.คาด +14.2% จาก 16.7% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค