- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 January 2016 16:04
- Hits: 934
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ว่ายังทรงตัวได้ไม่ดีนัก แต่คาดกรอบลบจำกัด ก่อนลุ้นดีด!!!
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET จะปรับพักตัวอยู่ในกรอบค่อนข้างจำกัด และยังมีโอกาสลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีมีรอบรีบาวด์ขึ้นได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วงลบแล้ว แนะนำให้เน้นถือเพื่อรอหาจังหวะขายในรอบรีบาวด์ต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CPALL, LPH, SAWAD(buy back)
แนวโน้ม : แม้ว่า SET จะยังมีแรงขายกดดันตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ หลังดัชนีเปิดบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศขึ้นไปได้ แต่ก็ยืนด้านบวกได้ไม่นาน ก่อนที่จะกลับมาแกว่งทรงตัวด้านลบอีกครั้งในช่วงที่เหลือของวัน และในภาคบ่ายเรายังเห็นแรงขายออกมากดดันต่อเนื่องในหุ้นหลายตัว จนทำให้ SET ยืนได้ไม่ดีในช่วงก่อนปิดทำการ ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียก็ถือว่าไม่ได้สดใสนัก เพราะหลายแห่งยังเปิดทำการในด้านลบ หลังดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะแม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่าราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่ระบบการเงินภายในประเทศ ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการปรับตัวลงแรงของตลาดหุ้นจีนได้บ้าง แต่ก็ยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกรอบการปรับตัวลงของตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ถือว่าไม่รุนแรงเท่าใด รวมทั้งบางแห่งยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้แกว่งบวกได้ด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET น่าจะมีกรอบลบค่อนข้างจำกัดในระยะนี้ และมีลุ้นโอกาสพลิกกลับไปแกว่งบวกขึ้นได้ตามคาดเดิมอยู่ ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นซื้อช่วงลบได้ แล้วเน้นถือเพื่อรอขายช่วงบวกต่อไป
แนวรับ 1252-1250 , 1247-1240 จุด
แนวต้าน 1258-1260 , 1263-1270 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$362ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$153.5ล้าน และไต้หวัน US$105.8 ล้าน รวมถึงไทย US$100.6ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซียประเทศเดียว US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและตลาดคาดว่ายังมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก 10-15% กดดันค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าตาม ซึ่งเป็นผลลบต่อกระแสเงินทุนในภูมิภาค
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ค่าเงินหยวนอ่อนอาจฉุดกระแสเงินไหลออกจากเอเชียรอบใหม่ จีนประกาศค่ากลางของค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าทุกวัน เช้านี้ออยู่ที่ 6.5315 หยวน/ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ส่งผลให้ค่าเงินบาทและค่าเงินในเอเชียอ่อนค่าตาม เมื่อวานจีนออกหลายมาตรการเพื่อสกัดเงินไหลออกและเสริมสภาพคล่องในระบบ โดยธนาคารกลาง (PBOC) อัดฉีดเงิน 1.3 แสนล้านหยวน หรือ US$2 หมื่นล้าน มากที่สุดตั้งแต่ ก.ย. ที่ผ่านมา เชื่อว่ามาตรการต่างๆจะยังมีออกมาต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิด Hard landing กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน แนะนำ SVI (ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท) และ DELTA (ราคาเป้าหมาย 86 บาท)
(-) ราคาน้ำมันดิบร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี เพราะตลาดมองว่าความขัดแย้งระหว่างซาอุฯและอิหร่านอาจทำให้ความคิดที่สองประเทศนี้จะร่วมมือกันจำกัดปริมาณการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมัน เป็นไปได้ยากขึ้น และทำให้มีน้ำมันออกสู่ตลาดมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอีก 0.5% ก็เป็นตัวซ้ำเติมราคาน้ำมัน หุ้นกลุ่มพลังงานที่แม้จะซื้อขายที่ PE เพียง 8-10 เท่า ยังเป็นตัวฉุดตลาดในระยะนี้
(+) ADVANC เราคาดกำไรปกติ 4Q15 +17.3% Q-Q, +2.7% Y-Y เป็น 1.0 หมื่นล้านบาท มีตัวช่วยคือต้นทุนค่า Regulatory และค่าเสื่อมฯของ 2G ที่หายไป ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2015 โต 4% Y-Y สำหรับปี 2016 เราปรับกำไรปกติลงอีก 11% เหลือ 3.52 หมื่นล้านบาท -7% Y-Y บนสมมติฐานว่าบริษัทรักษาฐานลูกค้า 2G ได้ครึ่งเดียว ทำให้ราคาเป้าหมายลดจากเดิม 230 บาทเหลือ 195 บาท แต่ถ้าบริษัทสูญเสียลูกค้า 2G ที่มีอยู่ทั้งหมด 12 ล้านราย (รายได้หายไป 2 หมื่นล้านบาท) เป้าหมายจะเหลือ 150 บาท ยังสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งคิดเป็น PE 11 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่อยู่ที่ 18-20 เท่า และคิดเป็น Dividend yield เฉพาะงวด 2H15 ถึง 4.6% (คาดจ่าย 6 บาท/หุ้น) จึงคงคำแนะนำซื้อ
(0) KBANK เราคาดกำไรสุทธิ 4Q15 ลดลงถึง 43.4% Q-Q และ 42.5% Y-Y เหลือ 5.7 พันล้านบาท เพราะการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ด้านไอที ไม่เซอร์ไพรส์เราแต่อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนเพราะเป็นกำไรที่ต่ำสุดตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2015-16 ที่ 4 หมื่นล้านบาท -13% Y-Y และ 4.06 หมื่นล้านบาท +2% Y-Y แม้ NPL ที่ก่อตัวใหม่เริ่มมีแนวโน้มชะลอลงซึ่งถือเป็นข่าวดีและน่าจะเห็นจุดสูงสุดใน 2Q-3Q16 แต่การจัดการและควบคุมคุณภาพหนี้ยังเป็นงานหลักในปีนี้ เราคงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายที่ 210 บาท
(+) TVT เราคาดกำไรปกติ 4Q15 ฟื้น +122% Q-Q เป็น 20 ล้านบาทเป็นระดับสูงสุดของปี จากการรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิตละครและรายได้ Event เพิ่ม รวมทั้งมี Gross margin ดีขึ้น ทำให้เราปรับกำไรปกติปี 2015 ขึ้น 7% เป็นเติบโตถึง 67% Y-Y และคาดกำไรปี 2016 โตต่อเนื่อง 58% Y-Y เป็น 71 ล้านบาทจากจำนวนรายการออกอากาศที่เพิ่มขึ้นอีก 6 รายการ สำหรับดีลซื้อกิจการ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับ 1-2 ราย คาดสรุปได้ก่อนสิ้น 1Q16 ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเป็นโอกาสในการซื้อ โดยปรับเป้าหมายลงเล็กน้อยจาก 2.50 บาทเป็น 2.22 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนปิดทรงตัวแม้จะมีข่าวว่า PBOC จะอัดฉีดเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ แต่ยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อ
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนรีบาวด์กลับขึ้นมาได้หลังร่วงแรงในวันก่อนหน้ารับข้อมูลภาคแรงงานของสเปนและเยอรมนีที่ออกมาดีเกินคาด
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดในกรอบแคบๆโดยยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลต่อทิศทางการเติบโตของจีน
(0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 36.05-36.15 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 0.79 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 35.97 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนเริ่มมองข้ามประเด็นความขัดแย้งระหว่างซาอุฯกับอิหร่าน และกลับมาให้น้ำหนักกับค่าเงินดอลลาร์ที่อยู่ในแนวโน้มแข็งค่า รวมถึงสต๊อกน้ำมันดิบที่คาดว่ายังเพิ่มขึ้น
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1078.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนรวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6-ม.ค. - จีน: Caixin China PMI Composite (ธ.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ธ.ค.), คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ธ.ค.)
7-ม.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (ธ.ค.)
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC ของวันที่ 15-16 ธ.ค.
8 ม.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.)
- สิงคโปร์: 4Q15 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (ธ.ค.)
10-ม.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อรายเดือน (ธ.ค.)
11-ม.ค. - ไทย: TISCO ประกาศผลประกอบการปี 2015
13 ม.ค. - จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
14-ม.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: รายงาน Beige Book
15-ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
19-22 ม.ค. -ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการปี 2015
19 ม.ค. - จีน: 4Q15 GDP, Industrial Production (ธ.ค.), ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch