- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 January 2016 15:58
- Hits: 1480
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์แต่ยังผันผวนต่อ
KGI คาด SET วันอังคารรีบาวด์ก่อนผันผวนต่อ (วานนี้ร่วงหนักกว่าคาดมาก) มองว่าระดับการร่วงวานนี้หนักเกินกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไปมาก ดัชนี PMI ธ.ค. ของจีน (ตัวเลขทางการ) ที่จริงแล้วเพิ่มขึ้นสู่ 49.7 จาก 49.6 แม้ PMI ของ บ.ไฉ่ซินจะออกมาลดลง (ของไฉ่ซินนี้เน้นสำรวจบริษัทขนาดเล็ก และกลุ่มตัวอย่างไม่ใหญ่นัก) ส่วนการปรับค่าเงินหยวนลง 0.15% นั้นถือว่าเซอร์ไพรส์แต่ก็รับรู้ในตลาดการเงินเอเชียไปแล้ว ด้านฝั่งสหรัฐฯ ตัวเลข ISM ภาคการผลิต ธ.ค. อยู่ที่ 48.2 ต่ำคาดเช่นกันแต่เดือน ธ.ค. สหรัฐฯ มีวันหยุดมากจึงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปก่อน ขณะที่ฝั่งยุโรปรายงาน PMI สูงขึ้นต่อ เราจึงมองตลาดจะฟื้นตัวได้ ด้านปัจจัยภายใน ครม.เตรียมลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมเพิ่มค่าลดหย่อน (มีผลบังคับใช้ปีภาษี 2560 ยื่นปี 2561) เป็นบวกต่อแนวโน้มการบริโภคในระยะยาว แนะนำทยอยสะสมหุ้น/เก็งกำไรในช่วงตลาดผันผวน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อ GFPT, IRPC* / กลัวเสี่ยงหาหุ้นปันผล BJCHI*, ASK
GFPT (เป้าพื้นฐาน 13.1 บาท) 1) ราคาเนื้อไก่ในประเทศ (กรมการค้าภายใน) เฉลี่ยเดือน ธ.ค.58 อยู่ที่ 36.5 บาท/กก เพิ่มขึ้น 6.5% จากราคาเฉลี่ยในเดือน พ.ย.58 และล่าสุดสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรรายงานราคาเนื้อไก่วันที่ 4 ม.ค.59 ปรับขึ้นเล็กน้อยราว 0.5 – 1.0 บาท/กก จากเดือน ธ.ค.58 ฝ่ายวิจัยฯประเมินภาวะอุปสงค์ - อุปทานเนื้อไก่จะเริ่มเข้าสู่จุดสมดุลภายใน 1H59 (พ้นจุดที่แย่ที่สุดแล้ว) 2) ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ กากถั่วเหลืองยังอยู่ในระดับต่ำ (เป็นบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไร) 3) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบวกต่อการส่งออกเนื้อไก่ และจะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานทั้งในด้านของการระบายอุปทานเนื้อไก่ และการส่งออกโดยตรงของ GFPT 4) ราคาหุ้นวานนี้ไม่สามารถ Breakout แนวต้านที่ 9.9 บาทได้ (ลงตามภาวะตลาดฯ) แต่ยังอยู่ในกรอบแนวรับ 9.6 บาท คาด Sideway ในกรอบราคา 9.6 – 9.9 บาท รอสัญญาณการ Breakout แนวต้าน 9.9 บาท (แนวต้านถัดไป ±10.8 บาท) ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์พื้นฐาน
IRPC* (เป้า Consensus 5 บาท) 1) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 จะดีขึ้น QoQ และ YoY จาก i) ผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่คาดจะลดลง ii) ค่าการกลั่นที่ดีขึ้นมาก (1H59 จะดีกว่ากลุ่มฯ เพราะมีการปรับปรุงคุณภาพหอกลั่นไปเมื่อปลายปี) iii) คาดอาจมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือกรณีเลวร้ายไม่มีผลขาดทุนฯ (3Q58 และ 4Q57 มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเพราะบาทอ่อน) 2) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ (ประเทศจีน) ประเมินราคาน้ำมันพ้นจุดต่ำสุดในปี 2558 และจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2559 จากอุปสงค์ – อุปทานที่จะกลับสู่สมดุล (ไม่เกินกลางปี 2559) ทำให้ปัจจัยถ่วงเรื่องการขาดทุนสต๊อกน้ำมันจะหมดลง 3) รูปแบบราคา Sideway up ประเมินแกว่งตัวในกรอบ 4.2 – 4.5 บาท (Stop loss 4.06 บาท)
หุ้นปันผล (BJCHI*, ASK) หุ้นใน Coverage ของฝ่ายวิจัยฯที่ให้ปันผลสูง >7% (จ่ายครั้งเดียวหลังปิดงบปี) ที่น่าสนใจคือ BJCHI* (คาดจ่ายปันผล 0.55 บาท/หุ้น Yield 10%) และ ASK (คาดจ่ายปันผล 1.53 บาท/หุ้น Yield 7.8%)
หุ้นในกระแส
BEM* (เป้าพื้นฐาน เบื้องต้น 6 บาท) วันนี้เข้าเทรดวันแรก ฝ่ายวิจัยฯประเมินราคาเหมาะสมแบบเบื้องต้นไว้ที่ 6 บาท (คำนวณจากราคาปิด BECL และ BMCL จะได้ราคาปิด BEM* ก่อน SP ±5.2 บาท)
EPG (เป้า Consensus 13.5 บาท) สัปดาห์นี้ผู้บริหารโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ และวันที่ 15 ม.ค. จัดเยี่ยมชมโรงงานที่ จ. ระยอง (คาดมีการ Update ผลการดำเนินงาน 3Q58/59 ปิดงบ ธ.ค. โดยคาดว่าจะออกมาดี)
COM7 (เป้า Consensus 5.1 บาท) แจ้งยอดขายช่วงวันที่ 25 – 31 ธ.ค.58 (ช่วงมาตรการภาษีช้อปปิ้ง) ยอดขาย COM7 โต 25% YoY
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*) ฝ่ายวิจัยฯประเมินภาครัฐฯจะเริ่มต้นการประมูลโครงการต่างๆ อาทิ รถไฟทางคู่ + มอเตอร์เวย์ ในไตรมาสแรก และสุวรรณภูมิเฟส 2 + รถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มประมูลในกลางปีนี้ เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ ในเชิงพื้นฐานเลือก CK* และ STEC* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, GUNKUL*, SUPER) การจับสลากโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯภายในเดือน ม.ค. นี้ (เลื่อนมาจากเดือน ธ.ค.58) คาดปลดล๊อกวงการพลังงานทดแทนไทย แนะนำ “ซื้อ” IFEC, GUNKUL* (สำหรับ SUPER นักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อย แนะนำ Wait&See รอการประกาศให้เลื่อน COD โครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อที่ COD ไม่ทันในเดือน ธ.ค.58 อย่างเป็นทางการก่อน)
หุ้นมีข่าว
(+) กลุ่มค้าปลีก; เตรียมปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีผลบังคับใช้ปี 2560 (กรุงเทพธุรกิจ) โดยการเปลี่ยนแปลงหลักคือการปรับลดอัตราเสียภาษีสูงสุดเป็น 30% จาก 35% และยกเว้นภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/เดือน จากเดิมที่ 2 หมื่นบาท/เดือน ประเด็นดังกล่าวคาดจะส่งบวกต่อกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้มีรายได้ปานกลางลงมาเข้ามาใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะบังคับใช้ปี 2560 ดังนั้น อานิสงค์บวกจากประเด็นดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะยาวมากกว่าในปีนี้
(+) SUPER เฮ!ลั่น ดีเดย์จ่ายไฟกฟภ. ล้างขาดทุนสะสม (ทันหุ้น) SUPER แจ้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังผลิตรวม 46.90 MW ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว ด้านบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ" ระบุลุยเพิ่ม COD เป็น 1000 เมกะวัตต์ในปี 2559 พร้อมการันตีปี 2559 ล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 920 ล้านบาทหมดเกลี้ยง
(+) SENA จ่อลุยพลังงานญี่ปุ่น ปลื้มขายไฟ46.5MWตามนัด (ทันหุ้น) SENA ซุ่มศึกษาพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่น คาดสรุปได้ปีนี้ (2559) ขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานเพิ่ม หวังสร้างผลตอบแทนระยะยาว "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" ปลื้มขายไฟ 46.5 เมกะวัตต์ ตามนัด บุ๊กรายได้ ทันทีม.ค.นี้ ซดกำไร 40-50 ล้านบาทต่อปี
(- กลุ่มยานยนต์) ค่ายฮอนด้าเปิดราคารถตามภาษีใหม่ (คมชัดลึก) ฮอนด้าทยอยปรับราคาตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ กลุ่มซีอาร์-วี และเอชอาร์-วีขยับ 4-5 หมื่นบาทต่อคัน ส่วนซิตี้ ซีเอ็นซี ปรับขึ้นอีก 2 หมื่นบาท ... คาดยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วงไตรมาสแรก มีโอกาสชะลอตัวลง QoQ ได้รับผลกระทบจากราคาขายที่ปรับขึ้นตามโครงสร้างภาษีใหม่
ติดตามหุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) วานนี้ถูกแรงขายตามภาวะตลาดฯ ล้างสัญญาณซื้อที่มีก่อนหน้า ประเมินแนวรับ 4 บาท (Stop loss 3.9 บาท) หากไม่หลุด 4 บาท ยังประเมินรูปแบบราคา Sideway Up ในกรอบ 4.0 – 4.2 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับแนวต้าน
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GFPT แนะนำ “ซื้อ” (Initiate Coverage) เป้าพื้นฐาน 13.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินราคาเนื้อไก่ในประเทศจะฟื้นตัวในปีนี้ จากการส่งออกเนื้อไก่ไปยังยุโรปและญี่ปุ่น + การลดลงของอุปทานไก่ในประเทศ (ปีที่แล้วล้น)
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(0) พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ ธ.ค.ลบต่อเนื่อง,อาจยังไม่กลับเป็นบวกใน Q1/59 กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ในเดือนธ.ค. ลดลง -0.85% YoY เป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานในธ.ค. เพิ่มขึ้น +0.68% YoY ทั้งปี 58 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ลดลง -0.90% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น +1.05% จากปีก่อนหน้า (Bisnews) อัตราเงินเฟ้อทั้งปีติดลบมากกว่าที่เราคาดการณ์เล็กน้อยที่ -0.87% ในปี 2559 เรายังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยยังติดลบอยู่ -0.3% ราคาน้ำมันที่ลดลงงยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ ส่วนภัยแล้งที่จะดันให้ราคาอาหารสดเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-ต้นพฤษภาคมจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อติดลบน้อยลงเท่านั้น เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะขึ้นไปเข้าใกล้ 40 ดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายปี จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559 มีโอกาสกลับขึ้นมาเป็นบวกได้ อัตราเงินเฟ้อที่ยังหดตัวในปีนี้จะไม่มีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งเน้นไปที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหมือนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1261 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1261 จุด อาจสะสมแรงกดลงอีก -27 จุด ลงสู่รับ 1234 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1261 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบขึ้น 1261-1288 จุด
แนวรับวันนี้: 1261/1251/1234 แนวต้านวันนี้: 1270/1280
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]