- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 January 2016 15:47
- Hits: 2802
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ซาอุปะทุ
คาดว่า SET จะปรับตัวลงวันนี้เนื่องจากสถานการณ์โลกที่ตึงตัวมีผลเหนือแง่ดีภายใน ในประเทศ มีการเสนอลดภาษีบุคคล การคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับการส่งออกน่าจะเป็นแรงส่งขาขึ้นให้แก่ SET อย่างไรก็ดีต่างประเทศมีความตึงเครียดที่มากขึ้นระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ซึ่งน่าจะหนุนราคาน้ำมันแต่เป็นเงามืดปกคลุมเสถียรภาพทางการเมืองระหว่างประเทศที่เปราะบางอยู่แล้วในภูมิภาคที่ทำให้ผู้ลงทุนน่าจะเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงเช่น ตราสารทุนจนกว่าผลจะชัดเจนขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ : UNIQ (22.00 บ.; NR; Bloomberg 59TP 24.00 บ.)
บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) น่าจะได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากการเร่งโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล ผลประกอบการไตรมาส 3/58 ของบริษัทยังได้สะท้อนความยืดหยุ่นแม้ว่าจะเป็นปีที่ชลอตัว โดยมีรายได้ก่อสร้างเติบโตได้ 8.8% และยังสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นในระดับสูงได้ที่ 17% อัตรากำไรสุทธิที่ 4.5% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 58 บริษัทยังมีกำไรสุทธิต่อหุ้นถึงเป้าหมายกำไรต่อหุ้นทั้งปี 2558 ของ SET consensus ที่ 0.76 บาท หรือเติบโต 29% แล้ว ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E 28.9 เท่า หรือ PEG อยู่ที่ 1 เท่าจากราคาเป้าหมาย Bloomberg consensus 24.00 บาท การเพิ่มขึ้นของโครงการรัฐและการเร่งตัวของโครงการต่างๆ ในไตรมาส 4/58 จะช่วยรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องไปในไตรมาส 1/59 ซึ่งหมายถึง P/E น่าจะซื้อขายในระดับที่สูงขึ้นอีกจากราคาที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุด บริษัทได้ชนะการประมูลรถไฟรางคู่สองสัญญาและการที่ญี่ปุ่นได้เข้าถือหุ้นหนึ่งในสามของโครงการทวายมีโอกาสที่บริษัทจะได้รับการว่าจ้างงานก่อสร้างที่ต่อเนื่องลงมา UNIQ ยังมีแผนโรดโชว์ในเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษในไตรมาส 1/58 อีกด้วย รูปแบบราคาของ UNIQ ที่เกิดการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในสัปดาห์สุดท้ายของปี 58 ส่งผลทำให้ Price Pattern ของ UNIQ ได้กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) รอบใหม่อีกครั้ง จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นการทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High รอบนี้อยู่ที่ 25.50 บาท โดยมีจุด Stop Loss อยู่ที่ 18.90 บาท (แนวต้าน : 22.40, 22.80, 23.70; แนวรับ21.60, 21.20, 20.30)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ปฏิรูปภาษีบุคคลครั้งใหญ่ จะมีการปฏิรูประบบภาษีบุคคลครั้งใหญ่ก่อนที่จะให้ ครม.เห็นชอบใน มี.ค. กรมสรรพากรได้เสนอการปรับแก้ 4 เรื่องให้ รมว.คลังพิจารณา ได้แก่ การลดอัตราสูงสุดซึ่งอาจเหลือ 28% เป็นการผสมระหว่างอัตราภาษีนิติบุคคลและภาษีหัก ณ ที่จ่าย (The Nation)
รมต.คาดส่งออกน่าจะกลับมาเติบโต รมว.พาณิชย์คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะเติบโต 5% ไปสู่ 2.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.12 ล้าน ลบ.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยคาดการเติบโตที่ 2% ขณะที่หอการค้าไทยคาดไว้ที่ 4% (The Nation)
นักวิชาการเตือนปัญหาภัยแล้งปี 59 นักวิชาการได้กล่าวถึงภัยธรรมชาติและปัญหาภันแล้งที่จะรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในปี 2559 ซึ่งชาวนารายเล็กจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ตามข้อมูลของกรมชลประทาน น้ำในเขื่อนหลักทั้งสี่แห่งตามแม่น้ำเจ้าพระยามีเพียง 21% จาก 37% ในปีที่ผ่านมา
KBANK (ปิด 150.50 บาท ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 205.00 บาท) ยังคงติดตามการเติบโตของดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) โดยได้ตั้งบริษัทลูกใหม่ Kasikorn Business Technology Group (KBTG) โดยมีประธานคือ คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ซึ่งบริษัทใหม่นี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อจับการเติบโตในอนาคตของกลุ่มบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต (Online Banking) สอดคล้องกับนโยบาย e-Payment ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากครม. เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. (Bangkok Post)
TRUE ADVANC (ปิด 152 บาท ราคาเป้าหมาย 245 บาท) และ DTAC (ปิด 30.25 บาท ราคาเป้าหมาย 47 บาท) รายงานว่ายอดใช้งานข้อมูลช่วงปีใหม่พุ่ง 600% 226% และ 200% ตามลำดับ (อินโฟเควส) ความเห็น: ข้อเท็จจริงนี้น่าจะช่วยยืนยันแนวโน้มขาขึ้นของบริการดาต้าว่ามีนัยสำคัญได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีการเติบโตของรายได้ก็ขึ้นว่าค่ายมือถือจะเก็บเกี่ยวการเติบโตนี้เป็นตัวเงินได้มากแค่ไหน
ต่างประเทศ
มีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลในปีนี้ว่าจะเหมือนกับปี 2015 อันได้แก่กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าที่เงียบเหงา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังคงอ่อนตัว การเติบโตของกำไรของบริษัทที่ไม่สูงมาก ซึ่งนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical) (Reuters)
นักลงทุนจับตามองแนวโน้มที่จะเกิด “January effect” หรือการซื้อหุ้นคืนในเดือนม.ค.หลังจากมีการเทขายหุ้นในเดือนธ.ค. ในช่วงสิ้นปีเพื่อจุดประสงค์ทางภาษี (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐปิดได้กำไรมากกว่า 9% ต่อปีเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นในตะกร้าเงินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ถึงแม้จะอ่อนค่าลงในเดือนธ.ค. ในปีก่อนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเกินกว่า 10% เทียบกับเงินยูโรและได้กำไรติดต่อกันเป็นปีที่สอง (Reuters)
ซาอุฯ ตัดสัมพันธ์ทางการฑูตกับอิหร่าน หลังจากที่ได้ประหารผู้นำทางศาสนานิกายชีอะห์จากเหตุการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดการประท้วงไปทั่งประเทศอิหร่านและนำไปสู่การโจมตีสถานฑูตซาอุฯ ในเมืองเตหะราน ขณะที่ทางสหรัฐฯ กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อเจรจากับทั้งสองประเทศเพื่อบรรเทาความขัดแย้งดังกล่าว (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในวันพุธซึ่งเป็นวันทำการวันสุดท้ายของปี 2015 โดยดัชนี S&P500 ปิดลดลงเนื่องจากมีการเทขายหุ้นอย่างหนัก ผลงานของหุ้นในตลาดในปีก่อนได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบซึ่งทำให้มูลค่าลดลงถึง 1 ใน 3 และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน เมื่อวันพฤหัส ดัชนี S&P500 ลดลง 0.94% อยู่ที่ 2,043.94 จุด เท่ากับขาดทุน 0.71% ในปีก่อน ส่วนดาวโจนส์ตลอดทั้งปีลดลง 2.23% เป็นการลดลงเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2008 มีเพียงแนสแดคที่ทั้งปีเพิ่มขึ้น 5.73% หลังจากอยู่เหนือระดับที่ไม่เห็นนับแต่ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ดอทคอมในปี 2000 (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปในปี 2015 ส่วนใหญ่ปิดเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนเริ่มต้น แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดหลังจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำถ่วงตลาดในไตรมาสสุดท้าย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางยุโรปได้ป้องกันไม่ให้ตลาดลดต่ำลงมากเกินไป โดยตลาดหุ้นเยอรมันและฝรั่งเศสต่างปรับตัวขึ้น 10% ในปี 2015 (Reuters)
เอเชีย :
ความเป็นไปได้ที่จะรวม Toshiba และ Sharp: Innovation Network Corp of Japan (INCJ) ซึ่งเป็นกองทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมที่จะปรับโครงสร้างของ Toshiba ด้วยการผูกหน่วยธุรกิจของ Toshiba รวมเข้ากับ Sharp และบริษัทอื่นๆ โดยเฉพาะการควบรวมหน่วยธุรกิจเครื่องใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ INCJ ยังให้ความช่วยเหลือ Toshiba ในการปรับโครงสร้างธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (Reuters)
คาด BOJ จะปรับลดเป้าเงินเฟ้อ สำหรับปีงบประมาณที่จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. ที่จะถึงนี้จากเดิม 1.4% ลงเหลือ 1% ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันอยู่จะทำให้ BOJ จำเป็นต้องเลื่อนกรอบเวลาสำหรับเป้าเงินเฟ้อ 2% ออกไป (Reuters)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ธ.ค. ฟื้นตัวตามคาด ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการบริการแข็งแกร่ง โดยจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตออกมาอยู่ที่ 49.7 ฟื้นตัวจากตัวเลขเมื่อเดือน พ.ย. ที่ 47.6 แม้จะต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ก็ตาม ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการบริการประกาศออกมาอยู่ที่ 54.4 สูงขึ้นจากเมื่อเดือน พ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 53.6 (Reuters)
คาดเศรษฐกิจจีนทั้งปี 2558 จะขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.9% จาก 7.3% ในปี 2557 อ้างอิงจากรายงานของธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งจะเป็นการขยายตัวที่น้อยที่สุดในรอบ 25 ปี ขณะที่คาดในปี 2559 การขยายตัวจะลดลงต่อเนื่องเหลือ 6.8% (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันบวกวันพฤหัส แต่ร่วงลงถึง 35% สำหรับปีหลังมีการผลิตจากตะวันออกกลางและผู้ขุดเจาะเชลออยสร้างอุปทานที่ล้นเกินซึ่งอาจจะมีตลอดปี 59 Brent ปิดขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 37.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เด้งจากจุดเกือบต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 36.10 ดอลลาร์ รายเดือนติดลบ 16% และรายปีติดลบ 35% WTI ปิดบวก 44 เซนต์หรือปิดที่ 37.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รายเดือนเป็นลบ 11% และรายปีลบ 46% (Reuters)
ราคาทองคงตัววันพฤหัส รายปีติดลบ 10% เป็นการลดลงปีที่ 3 ท่ามกลางแนวโน้มว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยและดอลลาร์แข็งค่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำที่ซื้อขายมากสุดส่งมอบ ก.พ. ปิดที่ 1,060.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์วันพฤหัส คงที่รายวันและปิดที่จุดต่ำสุดรอบ 6 ปีที่ 1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนหน้านี้ใน ธ.ค. ราคาทองคำตลาดจรปรับลง 0.2% อยู่ที่ 1,061.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331