- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 December 2015 16:09
- Hits: 895
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
สวัสดีปีใหม่ 2559 ขอให้ลูกค้า ASPS ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง และประสบความสำเร็จในการลงทุน ... ปี 2558 แม้ SET ติดลบ 14.3% แต่ท่านที่ปรับกลยุทธ์ตามคำแนะนำใน Market Talk ก็ยังได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ แนะหุ้นที่จะได้แรงหนุนจากแรงซื้อของสถาบันในประเทศ เลือก SCC(FV@B595) เป็น Top pick
หวังว่า ปี 2559 น่าจะดีกว่าปี 2558 ที่ SET ติดลบ 14.3%
วันนี้เป็นวันทำการสุดท้ายของปี 2558 ขออำนวยอวยพรให้ลูกค้าของ ASPS ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ ร่ำรวยความสุข รวยหุ้นกันถ้วนหน้าในปี 2559 แม้อาจจะเป็นปีที่ยากลำบากอีกปีหนึ่งก็ตาม แต่หากพิจารณาปัจจัยรอบด้านเชื่อว่าไม่น่าจะแย่ไปกว่าปี 2558 เริ่มจาก
1) เศรษฐกิจในปี 2558 รัฐบาลได้เดินหน้ากระตุ้นไปทุกกลุ่มฯ มากบ้าง น้อยบ้าง ดังที่ทราบๆ กัน โดยทีมเศรษฐกิจของ ASPS ประเมินว่าปี 2559 GDP Growth น่าจะเติบโตได้ 3.8% เทียบกับปี 2558 ที่เติบโตราว 2.7% โดยประเมินว่างวด 4Q58 จะเติบโต 2.3%
2) กำไรตลาด หรือ EPS ซึ่งประเมินไว้ที่หุ้นละ 94.5 บาท เทียบกับปี 2558 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 75.4 บาท เติบโต 25.19 % แต่เนื่องจากปี 2558 มีรายการพิเศษ เช่น ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และขาดทุนจาก FX ซึ่งเกิดขึ้นมากในงวด 3Q58 (แต่หากตัดรายการเหล่านี้ออก Norm EPS ในปี 2558 จะอยู่ที่ 93 บาท ทำให้ EPS ปี 2559 จะเติบโตเพียง 1.7%) เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ไทยยังคงมี EPS ที่นำกลุ่มอยู่ โดยในกลุ่ม TIP อาทิ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ พบว่า EPS Growth ปี 59 จะอยู่ที่ 15% และ 13.5%
3) Expected PER ปี 2559 ของตลาดหุ้นไทยจะอยู่ที่ 13.5 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าตลาดประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค อาทิ ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้จีน 13.9 เท่า, อินเดีย 14.9 เท่า มาเลเซีย 15.3 เท่า, อินโดนีเซีย 15.4 เท่า และฟิลิปปินส์มี Expected PER แพงสุด 16.8 เท่า
อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของตลาดหุ้นไทยในปี 2559 ยังขึ้นอยู่กับ 2-3 ประเด็นก็คือ
ประเด็นแรก การขึ้นดอกเบี้ยฯ ของสหรัฐ ที่ค่าเฉลี่ยของคณะกรรมการ Fed จะอยู่ที่ 1.375% จากปัจจุบันที่ 0.5% นั่นหมายความว่าจะมีการปรับขึ้น 0.875% ซึ่งอาจจะกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง ภายใต้สมมติฐานที่ กนง. จะยืนดอกเบี้ยฯ ที่ 1.5% ตลอดระยะ 6 เดือนแรกของปี 2559 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว และต้องรอความชัดเจนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้อัดฉีดเงินลงไปตั้งแต่ ก.ย. 2558
ประเด็นที่สอง ราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดที่ระดับ 31 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (ราคาน้ำมันดิบดูไบ) ตามสมมติฐานแล้วหรือไม่ เพราะในปี 2559 ทางนักวิเคราะห์ได้กำหนดสมมติฐานน้ำมันไว้ที่ 45 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันที่สูง หรือต่ำกว่าสมมติฐาน หมายถึง stock gain หรือ stock loss ที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับหุ้นน้ำมัน อย่าง PTTEP, PTT และโรงกลั่นน้ำมันทุกแห่งไม่ว่าจะเป็น PTTGC, TOP, BCP, IRPC เป็นต้น
และสุดท้าย ประเด็นทางการเมือง ในปี 2559 หัวใจสำคัญอยู่ที่การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค. 2559 และคาดว่าจะทำประชามติในราวเดือน ก.ค.2559 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญโดยหากผ่านความเห็นชอบในการทำประชามติ ก็น่าจะนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งทั่วไปช่วงกลางปี 2560 แต่หากผลออกมาในทางตรงข้าม ก็จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสำหรับการลงทุน
ผลตอบแทนของพอร์ตกระดาษที่ทีมวิจัย ASPS บริหารสูงถึง 23.9%
นับจากต้นปีจนถึงก่อนวันทำการสุดท้ายของปี 2558 แม้ SET จะให้ผลตอบแทนเป็นลบ 14.3% ดังกล่าวข้างต้น แต่พบว่าพอร์ตกระดาษที่บริหารโดยทีมวิจัย ให้ผลตอบแทนสุทธิเป็นบวกถึง 9.6% และมี Alpha หรือผลตอบแทนที่ชนะดัชนีตลาดสูงถึง 23.9% นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนของกองทุนประเภทตราสารทุนที่ลงทุนภายในประเทศ พบว่า พอร์ตกระดาษของ ASPS มีผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของกองทุนประเภทตราสารทุนที่ลงทุนภายในประเทศทั้งหมด 242 กองทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธ.ค. 2558 ดังภาพด้านล่างนี้) ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงและเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
นักวิเคราะห์ : ภรณี ทองเย็น, CISA เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ : ภราดร เตียรณปราโมทย์