- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 December 2015 16:34
- Hits: 1120
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ต่อ แรงซื้อฝั่งกองทุนยังช่วยจำกัดความเสี่ยง
KGI คาด SET วันอังคารแกว่งตัวต่อ (วานนี้ไซด์เวย์ ตามคาด) ดัชนีฯ อาจถูกกดดันจากหุ้นน้ำมันบ้าง ตามราคาน้ำมันที่ปรับฐานค่อนข้างแรง เนื่องจากตลาดเพิ่มความกังวลต่ออุปทานน้ำมันจากอิหร่านที่น่าจะเข้ามาในปี 59 อย่างไรก็ดีคาดแรงขายไม่มากเพราะต่างชาติหยุดช่วงปีใหม่แล้ว ขณะที่แรงซื้อปิดงวดปี 58 ผนวกเงิน LTF โค้งสุดท้ายยังค้ำ SET (คงมุมมอง 2 วันที่เหลือมีโอกาสที่ SET จะขึ้นใกล้ 1,300) ด้านภาพเศรษฐกิจภายในดีขึ้น วานนี้ สศค. ชี้มาตรการภาษีปลายปีหนุน GDP 58 โต 3.0% ซึ่งเป็นไปตามนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด ก่อนเร่งตัวเป็น 3.8% ในปี 59 (KGI ประเมินอย่างระมัดระวัง คาดปีหน้าโต 3.4%) แม้ภาคส่งออกไม่ดี (อ่านเพิ่มเติมในข่าววันนี้) ภาพรวม SET แกว่งขึ้นช่วงสิ้นปี แนะเก็งกำไรเร็ว
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ANAN*, EPG
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) รูปแบบราคาเตรียม Breakout แนวต้านเทรนไลน์ขาลงที่ 4 บาท โดยเราประเมินหากวันนี้ราคาหุ้นยืนเหนือ 4 บาทได้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?4.3 บาท แนวรับ 3.9 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรไตรมาส 4/58 โตเด่น +26% YoY เป็น 814 ล้านบาท จาก Backlog ที่พร้อมโอนในไตรมาส 4/58 ที่สูงถึง 5 พันล้านบาท + ค่าใช้จ่ายการตลาดฯ ในไตรมาสนี้ก็คาดว่าจะไม่มาก เนื่องจาก Presale ทำได้ตามเป้าหมายแล้ว
EPG (เป้า Consensus 13.5 บาท) 1) เราประเมินราคาน้ำมันในระดับที่ต่ำตอนนี้ (<40 ดอลลาร์สหรัฐฯบาร์เรล) ส่งผลบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไรใน 2 ไตรมาสข้างหน้าเป็นอย่างน้อย และคาด Consensus มีโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น (Consensus คาดกำไรปีนี้ที่ 1.3 พันล้านบาท เราประเมินเบื้องต้นหากกำไรอีก 2 ไตรมาสยืนได้ในระดับใกล้เคียงกับ 2Q58/59 ที่ >400 ล้านบาท/ไตรมาส จะทำให้กำไรปีนี้ทะลุ 1.5 พันล้านบาท) เพราะราคาน้ำมันตอนนี้ต่ำกว่าสมมติฐานที่ Consensus ใช้ (คาดใช้สมมติฐานเฉลี่ยที่ 45 - 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) 2) รูปแบบราคาหากไม่หลุดแนวรับหลัก 12 บาท จะเป็นการรักษาโมเมนตั้มขาขึ้นต่อเนื่อง ประเมินแนวรับ 12.5 บาท และแนวต้านใกล้ที่ 13.2 บาท (ทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?14 บาท)
… ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 214 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นเริ่มสร้างฐาน ประเมินแนวรับ 153 บาท (Stop loss 151 บาท) แนวต้านใกล้ 157 บาท (หากทะลุผ่านได้ ประเมินแนวต้านถัดไป 166 บาท เป็นจุดขายทำกำไร) 2) ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯ ประเมินปันผลสำหรับ 2H58 ที่เหลืออีก 6.3 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 4% (ครึ่งปีจ่ายไปแล้ว 6.5 บาท/หุ้น) และปีหน้าประเมินไว้ที่ 11.5 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 7.4% 3) ในเชิง Pair Trading อาจพิจารณา "Long" ADVANC* และ "Short" INTUCH* หลังอัตราส่วนราคา ADVANC*/INTUCH* ปรับลงสู่กรอบล่างของ Bollinger Band (หากอัตราส่วนราคากลับสู่ค่ากลาง ตามทฤษฎี คาดหวังผลตอบแทนราว 4% จากข้อมูลในอดีตมักใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์) ... สำหรับกลุ่มสื่อสาร หากนักลงทุนต้องการกองทุน Infrastructure fund ที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 7-8% ต่อปี และมีความเสี่ยงด้านราคาต่ำ แนะนำ "สะสม" DIF (มี Catalyst เรื่องความต้องการเสาโทรคมนาคมเพิ่ม)
… COM7 (เป้า Consensus 5.75) 1) ราคาหุ้นวานนี้เปิดแก๊บเหนือ Bollinger Band (Overbought) ทำให้ลงมาพักที่แนวรับ 5.2 - 5.3 บาท ตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" แนวรับ หากราคาหุ้นไม่ต่ำกว่า 5.1 บาท ประเมินยังมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ?5.8 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานเราประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 จะเติบโตเด่น (เบื้องต้นคาดกำไรในกรอบ 80 - 100 ล้านบาท หรือเติบโต > 160% QoQ) เป็นผลจาก i) High season ii) iPhone 6s ที่เปิดตัวปลายปี iii) มาตรการกระตุ้นการบริโภคช่วงปลายปีของรัฐบาล (ซื้อสินค้า 1.5 หมื่นบาท เพื่อลดหย่อนภาษี ตรงกับกลุ่มลูกค้าของ COM7)
… IFEC (เป้า Consensus 13 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรตามจังหวะที่ทะลุผ่าน 6.5 บาท แนะนำ "Let profit run / ซื้อเก็งกำไรตาม" ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 8 บาท แนวรับ 6.75 บาท 2) ในส่วนของพื้นฐาน ยังเดินหน้าโครงการพลังงานทดแทนต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ (อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการพลังงานลมที่เวียดนามเฟสแรก 28MW (PPA ทั้งหมด 210MW) และในไทย 14MW รวมทั้งโซลาร์ฟาร์มที่กัมพูชาขนาด 5MW)
… หุ้นอื่นๆที่แนะนำก่อนหน้า 1) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินแนวรับ 5.20 บาท (Stop loss 5.1 บาท) แนวต้านใกล้ 5.45 บาท หากทะลุผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 6 บาท เป็นจุดขายทำกำไร ปันผลปี 2558 ตอนนี้สูงถึง 10.3% 2) SMPC (เป้าพื้นฐาน 7.7 บาท) แนะนำ "เก็งกำไร" ยังคงประเมินแนวต้านที่บริเวณ 6.9 บาท เป็นจุดขายทำกำไร (Stop loss ถ้าหลุด 6 บาท) แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 คาดจะโตเด่น QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 85 - 90% (จาก 76% ในไตรมาส 3/58) 3) ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) รูปแบบราคา Sideway up ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 6.15 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, IFEC, ASEFA
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ADVANC* ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 214 บาท ฝ่ายวิจัยฯทำการสำรวจตลาดฯ การเปลี่ยน 2G เป็น 3G/4G ของลูกค้า ADVANC* ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตลาดฯกังวล เนื่องจากอาจทำให้สูญเสียฐานลูกค้าที่สำคัญ ทั้งนี้จากการสำรวจร้านค้า AIS ในพื้นที่ กทม (เช่น สยามพารากอน, จามจุรีสแควร์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, Mega บางนา เป็นต้น) พบว่าเจ้าหน้าที่มีการเตรียมพร้อมอย่างดี และน่าจะทำได้ตามที่เราประเมินไว้ (คาดการย้ายลูกค้า 2G เป็น 3G/4G จะสำเร็จราว 80%)
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(0) พาณิชย์ เผยส่งออกพ.ย.หดตัวตามศก.โลก,คาดปีนี้ติดลบใกล้เคียง 5.5% ตัวเลขการส่งออกของไทย ในเดือนพ.ย.มีมูลค่า 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 7.42% YoY เป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ตามเศรษฐกิจโลกที่ไม่ฟื้นตัว ราคาน้ำมันดิบชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับลงมาก มูลค่าส่งออกช่วง 11 เดือนแรกหดตัว 5.51% YoY มูลค่านำเข้าในเดือนพ.ย.มีมูลค่า 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 9.53% YoY ไทยเกินดุลการค้า 299 ล้านดอลลาร์ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ขยายตัว 5% ในปีหน้า (Bisnews) เรามีความเห็นว่าเป้าการขยายตัวของมูลค่าส่งออก 5% เป็นไปได้ยากมาก คาดว่าปริมาณส่งออกของไทยในปี 59 จะขยายตัวเพียง 1% เนื่องจากการขยายตัวการค้าโลกยังอยู่ในภาะซบเซาเศรษฐกิจโลกขยายตัวเพียง 3.2% เหมือนปี 58 มูลค่าส่งออกในรูปของค่าเงินดอลลาร์ฯ ปี 59 มีแนวโน้มหดตัวลง 2.0% เทียบกับที่หดตัว 5.2% ในปี 58 แต่มูลค่าส่งออกในรูปของค่าเงินบาทอาจจะขยายตัว 6.6% ตามการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาทเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ 8.7% จากที่ระดับเฉลี่ย 34.3 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในปี 58 เป็น 37.3 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในปี 59 มูลค่านำเข้ามีแนวโน้มหดตัวลง 5.5% ในปี 59 เป็นผลเนื่องจากราคาน้ำมันที่ยังลดลงต่อเนื่อง ดุลการค้ามีแนวโน้มเกินดุลสูงถึง 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ และ ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุล 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ หรือ คิดเป็น 13% ของ GDP ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง คาดว่าจะลงมาต่ำสุดที่ 25 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้มูลค่าส่งออกน้ำมันกลั่นสำเร็จรูป มูลค่าสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันลดลง
ยอดขายในกลุ่มผู้ค้าปลีกปรับตัวขึ้นสอดรับมาตรการจูงใจทางภาษี 15,000 บาท (เนชั่น) โดยช่วงที่ 2-3 วันที่ผ่านมา ยอดขายของกลุ่มผู้ค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น 5-20% ประกอบกับการออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ส่งผลให้มีการตอบรับที่ดีและคาดจะทำให้การเติบโตของยอดขายเดิมในไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ ดังนั้น ภาพรวมของกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวดีขึ้นชัดเจน ทำให้เรายังคงน้ำหนักที่ "มากกว่าตลาด" และเลือก HMPRO* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มราคาเป้าหมาย 10.10 บาท
(+) SUPER เสือนอนกิน บุ๊กจ่ายไฟล็อตใหญ่ ซด 158.55 เมกะวัตต์ (ทันหุ้น) SUPER เตรียมขายไฟฟ้า (COD) ล็อตใหม่ อีก 113.7 เมกะวัตต์ ภายในเดือนธ.ค. นี้ให้แก่ กฟภ.พร้อมอยู่ในขั้นตอนทดสอบระบบอีก 75 เม
กะวัตต์ หนุนยอดรวมขายไฟปี 2558 นี้แตะระดับ 158.55 เมกะวัตต์ จาก 22 โครงการ ส่วนโครงการที่เหลือก่อสร้างครบเกือบ 100%
(+) IFEC ปีหน้าโตสดใส บุ๊กพลังงานลมเต็มสูบ (ทันหุ้น) IFEC ปีหน้าสดใส จ่อรับรู้โครงการพลังงานลมเต็มสูบ ดันให้รายได้-กำไร เติบโตก้าวกระโดด ขณะที่โครงการในต่างประเทศยังเดินหน้าต่อส่วนปี 2558 คาดมีกำไรไม่ต่ำกว่า 340 ล้านบาท
(+) GL ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นดอดร่วมทุน ผนึกกำลังลุยตลาดอินโดนีเซีย (ทันหุ้น) GL รุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบหลังได้ J TRUST ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้น ยืนยันกำไรต่อหุ้นได้ลดลงแม้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นหลังการแปลงสภาพหุ้นกู้ของกลุ่ม J TRUST พร้อมเตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนที่ประเทศอินโดนีเซียเบนเข็มขยายธุรกิจเชิงรุกในตลาดอาเซียนชดเชยธุรกิจในไทยที่ยังซบเซา
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]