- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 December 2015 16:32
- Hits: 1115
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1290
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,280-1,290 จุด หุ้นหลักในกลุ่ม ICT ยังคงเผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง แม้ว่าจะเบาบางลงจากสัปดาห์ก่อนแล้วก็ตาม ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มไฟแนนซ์กลับขึ้นได้เด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเล็กน้อย 2.94 จุด มาอยู่ที่ 1,285.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,841 ล้านบาท ทั้งนี้มี Big Lot หุ้น SSC มูลค่า 5,742 ล้านบาท
ทั้งนี้เม็ดเงินทุนต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่อง แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 16 เพียง 321 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 16 วันทำการ 374 สัญญา แต่ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 718 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขส่งออก - นำเข้า เดือนพ.ย.ของไทย ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนพ.ย. วันพรุ่งนี้
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับฐานลงแรงกว่า 3% คืนวานนี้ จากความกังวลต่อปริมาณอุปทานส่วนเกิน
มูลค่าการซื้อขายเบาบาง
มุมมองต่อตลาด
เราประเมินภาพ SET INDEX วันนี้ ยังคงแกว่งแคบระหว่าง 1,280-1,290 จุด พร้อมลุ้น SET INDEX สามารถปิดยืนเหนือ 1,290 จุดในวันนี้ แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางต่อเนื่องก็ตาม เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการทำ Window dressing และแรงขายจากต่างชาติที่ชะลอตัวต่อเนื่อง อาจช่วยให้ SET INDEX สามารถปิดยืนเหนือ 1,300 จุดได้ ณ สิ้นปีนี้
แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย.ของไทยจะหดตัวลงเป็นเดือนที่ 11 ของปีนี้ก็ตาม แต่เรากลับให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการบริโภคที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวมาตั้งแต่เดือนต.ค. หากเดือนพ.ย.มีพัฒนาการต่อเนื่อง เราค่อนข้างมั่นใจว่าเดือนธ.ค.จะเห็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน และเป็นตัวแปรผลักดันเศรษฐกิจใน 4Q58 จะเติบโตได้ราว 2.7-2.8% ตามที่รองนายกฯ ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะยังเติบโตเด่นต่อเนื่องจนถึง 1Q59 ด้วยผลของฤดูกาล และความีเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย เราเชื่อว่ากลุ่มท่องเที่ยว / สายการบิน / สนามบิน จะยังคงแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของ SET INDEX โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AOT ซึ่งจะเป็นอีกตัวแปรที่จะผลักดัน SET INDEX ต่อเนื่องถึงเดือนม.ค. 2559
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจหาจังหวะเข้าเก็งกำไรในหุ้นเป้าหมาย หากราคามีการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพื่อรอจังหวะขายทำกำไรบริเวณ 1,300 จุด +/-"
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Speculative Buy: AAV
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. AAV : ราคาปิด 5.00 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลงแรงกว่า 3% คืนวานนี้ และยังไม่ผ่าน US$40/barrel ภายในสิ้นปีนี้ ย่อมเป็นบวกต่อต้นทุนหลักของการดำเนินธุรกิจสายการบิน ซึ่งแทบทุกสายการบิน ณ ปัจจุบัน ไม่มีการซื้อสัญญาล่วงหน้าน้ำมัน เพื่อเปิดรับประโยชน์อย่างเต็มที่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง
เราประเมินว่าผลการดำเนินงานของ AAV ใน 4Q58 เติบโต yoy และ qoq อย่างโดดเด่น จากผลของฤดูกาล และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ลดลง 51.8% QTD
การเปิดอาคาร 2 ของสนามบินดอนเมือง ย่อมเป็นบวกต่อธุรกิจโลว์คอร์สแอร์ไลน์ อย่าง AAV จะสามารถเพิ่มปริมาณการรองรับเที่ยวบิน และ จำนวนผู้โดยสารได้มากขึ้น ทำให้แนวโน้มผลประกอบการปี 2559 เติบโตเด่น นอกเหนือจากอานิสงค์ของต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นบวกต่อรายได้การให้บริการเส้นทางบินในประเทศ และส่งผลให้ Passenger Yield ปรับตัวขึ้น ดังนั้น คาดว่ากำไรปกติปี 2559 จะเติบโต +29.7% yoy เป็น 2,244.6 ล้านบาทในปี 2559
แม้ว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นมาปิดด่านสำคัญ 5.00 บาทวานนี้ แต่หากประเมินจาก Valuation ในแง่ของ PER16 เพียง 10.74x เทียบกับ BA ที่ 20.26x ส่วน NOK / THAI แม้ว่าจะมี valuation ที่ถูกกว่า AAV แต่ในแง่ของภาพธุรกิจขาดทิศทางที่ชัดเจน ส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจยังเป็นสิ่งที่เรากังวล
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$75 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$68 ล้าน
แต่ยังคงขายตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
Foreign Investors Action วานนี้
แรงขายต่างชาติชะลอตัวมากขึ้น
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 16 เพียง 321 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า รวม 16 วันทำการขายสุทธิ 34,731 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 1.5 แสนล้านบาท เป็น 157,065 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 374 สัญญา เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 17,993 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 33,058 สัญญา เนื่องจาก S50H16 ปิดต่ำกว่า 800 จุดอีกครั้ง และยังคง Discount ต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 17.87 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 13.87 จุด
และต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 718 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 11 อีก 1.12bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.54bps ปิดที่ 2.535%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 4 เป็น 230 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 389 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เน้นกลุ่มธนาคาร สะท้อนการทำ Window dressing
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 330 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 151 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 731 ล้านบาท โดยเป็นลักษณะของการทำ Window dressing ค่อนข้างชัดเจน สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิ สูงสุดเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 230 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิเพียง 57 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงานซื้อสุทธิ 52 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 31 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 33 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT ขายสุทธิสูงสุด 90 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 19 ล้านบาท
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530