WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index : ลุ้นทดสอบ 1300
SET Index : 1287.10 เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1285 จุด หลังจากฟื้นตัวเหนือระดับ 1260 จุดกลับขึ้นมาได้ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1300 และ 1314 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1280 จุด ถ้าปรับตัวลดลงไปเรายังคงแนะนำให้เน้นการเข้าซื้อหุ้นต่อเนื่อง
แนวต้าน : 1290 และ 1294
แนวรับ : 1285 และ 1280

ADVANC = 154 / 158, JAS = 3.20 / 3.30, CSS = 4.90 / 5.00, COM7 = 5.30 / 5.60, TKN = 8.20 / 8.50

Samart Corparation (SAMART TB; THB 15.50) - ซื้อ

แนวต้าน : 16.50 และ 17.00
แนวรับ : 15.50 และ 15.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างตามกรอบแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับ 40
แนะนำซื้อ SAMART โดยมีแนวรับที่ 15.50 และ 15.30 และมีแนวต้านที่ 16.40 และ 17.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.00 ลงไป
Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 3.02) - ซื้อ

แนวต้าน : 3.18 และ 3.30
แนวรับ : 3.00 และ 2.94
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขาลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ THANI โดยมีแนวรับที่ 3.00 และ 2.94 และมีแนวต้านที่ 3.18 และ 3.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.88 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231
[email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ต้นปีน่าจะดีดกลับได้ดี

     ใกล้สิ้นปี 2015 ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก ยังติดลบกันถ้วนหน้า ปัจจัยที่ยังกดดันตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงเป็น แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงแรง การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ การเพิ่มขึ้นของหนี้ภาคครัวเรือน และแนวโน้มที่จีนอาจลดค่าเงินหยวนลงไปอีก อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยในเชิงบวก อย่างหลายประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงของการปฎิรูปเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและที่สำคัญ ตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกในปัจจุบันกำลังลงมาเล่นในระดับที่ถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้วมากๆ โดยเฉพาะค่า P/E และ P/BV 12 เดือนล่วงหน้า
จากรูปด้านซ้าย เราแสดงค่า P/E และ P/BV 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดเกิดใหม่เทียบตลาดพัฒนาแล้ว จะพบว่า ค่า P/E และ P/BV ของตลาดเกิดใหม่ลงมาเล่นที่ 11 และ 1.3 เท่าเทียบตลาดพัฒนาแล้วที่ 15.8 และ 2 เท่า แม้ในหลายๆ ประเด็น ตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังมีแรงกดต่อพื้นฐานของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจรวม แต่ในหลายส่วนก็เริ่มดีขึ้น อย่าง มองกันว่าจุดต่ำสุดของตลาดเกิดใหม่รอบนี้ผ่านพ้นไปแล้ว เพียงรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากจะมีปัจจัยกดดันรอบใหม่ในปี 2016 ก็คือ การดิ่งลงของราคาน้ำมันในระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือต่ำกว่านั้น หรือจีนลดค่าเงินหยวนรอบใหม่ ส่วนผลของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ยังไม่น่าส่งต่อตลาดเกิดใหม่ จนกว่าจะเข้าสู่ช่วง 2H/16
      คาดกันว่าในช่วง Q1/16 ตลาดหุ้นเกิดใหม่น่าจะดีดตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดพัฒนาแล้ว หลังจากในปี 2015 ดัชนีส่วนใหญ่ดิ่งลงลึกถึง 16% เทียบตลาดพัฒนาแล้วลงแค่ 2.1% (ดูจากรูปด้านขวา) มองกันว่าตลาดที่น่าจะดีดขึ้นได้แรง ยังคงเป็นตลาดเกิดใหม่ในเอเชียเหนือ อย่าง จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจอิงกับสหรัฐและยูโรปสูง ไม่ถูกกดจากสินค้าโภคภัณฑ์ ได้ประโยชน์จากการดิ่งลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ส่วนตลาดอื่นที่มองว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น คือตลาดที่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจหรือการปฎิรูปเศรษฐกิจในประเทศ อย่าง ไทย อินเดียและอินโดนีเชีย
      ในบรรดาตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย จะพบว่าตลาดหุ้นไทยแย่ที่สุด คือลงไปถึง 25% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ตลาดอินโดนีเชียและมาเลเชียลงลึกกว่าไทย แต่หลังจากเกิดปัญหาหลายๆด้านในไทยช่วงเดือน ธ.ค. อย่าง ข่าวลือในประเทศ และผลของการประมูล 4G ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นออก ดัชนี SET จึงดิ่งลงแรง การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย Underperform กว่าเพื่อนบ้านในปลายปีนี้ เราจึงมองว่าเปิดขึ้นมาในปี 2016 ดัชนี SET น่าจะดีดขึ้นไปในระดับที่ใกล้เคียงเพื่อนบ้าน เพราะอย่างน้อยตอนนี้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ขณะที่เกิดความชัดเจนเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากตามลำดับ
      คาดว่าอาทิตย์นี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะดีดตัวขึ้นและยืนเหนือ 1300 จุด จากปัจจัยหนุนของตลาดต่างประเทศ ราคาน้ำมันและตัวเลขเศรษฐกิจภายใน โดยกลุ่มที่จะนำตลาดคือ พลังงาน ธนาคาร สื่อสาร ที่เกี่ยวโยงท่องเที่ยวและรับเหมา วันนี้มองดัชนี SET เปิดขึ้นมาในแดนบวกท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางแต่คาดจะได้แรงหนุนจากการทำปิดงบ โดยแนวต้านอยู่ที่ 1292-1296 แนวรับที่ 1278-1274 จุด

Kiatkomg Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

Set Index : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1300
     ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1282.93 จุด ลดลง 0.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,655 ล้านบาท ตลาดเมื่อวันศุกร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1280 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1275 จุด ยืนยันการทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะสั้นขึ้นมาได้ ทำให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 1300 จุด
       Daily: เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1280 จุด หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มของ SET Index สามารถทะลุผ่านขึ้นแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1300 และ 1314 จุด ในขณะที่โครงสร้างระยะยาวน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงไปแล้วที่บริเวณ 1252 จุด
กลยุทธ์ :SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1300 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1280 จุดขึ้นมาได้ และโครงสร้างในระยะยาวของการปรับตัวลดลงสามารถฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ 1280 จุด ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1340 และ 1380 จุด

Asia Fund Flow : 25 ธันวาคม 2558
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 4 ล้านเหรียญ (28 ธ.ค.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 77 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 1 ล้านเหรียญ (23 ธ.ค.)
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 11 ล้านเหรียญ (23 ธ.ค.)
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 9 ล้านเหรียญ

Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
ADVANC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 160 และ 164 155 / 154 158 / 160
JAS แนวโน้มลงทดสอบ 3.00 แนวต้าน 3.40 และ 3.50 3.20 / 3.08 3.40 / 3.50
COM7 ขายที่แนวต้าน 5.50-5.60 แนวรับ 5.00 5.20 / 5.00 5.50 / 5.60
J สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 3.26 และ 3.50 แนวรับ 2.80 3.00 / 2.80 3.20 / 3.26
CPALL แนวรับ 40.00 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 38.00 แนวต้าน 43.00 และ 44.00 40.50 / 40.00** 42.00 / 43.00
PTT แนวโน้มขึ้นทดสอบ 260 แนวรับ 244 248 / 244 255 / 260
INTUCH สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 55.00 แนวรับ 52.00 53.00 / 52.00 54.00 / 55.00
CSS สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 5.00 และ 5.15-5.20 4.74 / 4.70 4.90 / 5.00
KBANK แนวรับสำคัญ 150 แนวต้าน 154-155 150 / 149 154 / 155
TPIPL สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 2.20 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 2.30 2.10 / 2.08 2.20 / 2.24

SCI Electrics (SCI TB; THB 6.75) - ซื้อ
แนวต้าน : 7.00 และ 7.30
แนวรับ : 6.75 และ 6.70
      ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในระยะสั้น แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึนต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 40
แนะนำซื้อ SCI โดยมีแนวรับที่ 6.75 และ 6.70 และมีแนวต้านที่ 7.00 และ 7.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.45 ลงไป

Italian-Thai Development (ITD TB; THB 7.35) - ซื้อ
แนวต้าน : 7.60 และ 7.80
แนวรับ : 7.35 และ 7.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 7.00 แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ ITD โดยมีแนวรับที่ 7.35 และ 7.30 และมีแนวต้านที่ 7.60 และ 7.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.20 ลงไป

Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!