- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 December 2015 16:33
- Hits: 1048
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวต้านสำคัญ 1285-1290
SET Index: 1282.84 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1250 จุด แตไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้น จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1285-1290 จุดมีแรงขายทำกำไรออกมาในระยะสั้น แต่ถ้า SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1300 จุด
แนวต้าน : 1285 และ 1290
แนวรับ : 1282 และ 1280
ADVANC = 150 / 157, JAS = 3.10 / 3.30, INTUCH = 53.00 / 55.00, PTT = 250 / 255, TRUE = 31.00 / 33.00
True Corporation (TRUE TB; THB 6.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.20 และ 7.50
แนวรับ : 6.90 และ 6.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 30
แนะนำซื้อ TRUE โดยมีแนวรับที่ 6,90 และ 6.80 และมีแนวต้านที่ 7.20 และ 7.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.65 ลงไป
Masterkool International (KOOL TB; THB 1.22) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.30 และ 1.38
แนวรับ : 1.22 และ 1.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้
MACD ฟื้นตัวทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 30
แนะนำซื้อ KOOL โดยมีแนวรับที่ 1.22 และ 1.20 และมีแนวต้านที่ 1.30 และ 1.38 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.17 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z15 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้นที่ 820 แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ แต่เมื่อพิจารณาการฟื้นตัวที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่ 800 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของโครงสร้างในระยะยาว จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 822 ขึ้นไป จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบ 836-840
แนวต้าน : 820 และ 822
แนวรับ : 818 และ 816
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Long ที่บริเวณแนวต้าน 820 เพื่อรอการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 822 ขึ้นไป จะเป็นจังหวะในการกลับเข้าไป Open Long
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50Z15 ปรับตัวลดลงหลุด 815 ลงไป
TRUEH16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 7.00 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 6.60 แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.40 และมีแนวต้านสำคัญที่ 8.00 เป็นจังหวะในการ Open Short
แนวต้าน : 7.20 และ 7.28
แนวรับ : 7.00 และ 6.96
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TRUEH15 ที่แนวรับ 7.00 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TRUEH16 ปรับตัวลดลงหลุด 6.85 ลงไป
JASH16
เคลื่อนไหวในกรบแคบเหนือแนวรับสำคัญที่ 3.10 หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 3.10 แต่การฟื้นตัวในระยสั้น เราคาดว่า น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 3.40-3.50 ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น จะเป็นจังหวะในการ Open Short และมีแนวรับที่ 3.10 และ 3.00
แนวต้าน : 3.30 และ 3.40
แนวรับ : 3.20 และ 3.10
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Long ใน JASZ15 ที่แนวต้าน 3.40 และเปลี่ยนมาเป็นด้าน Short ที่แนวต้าน 3.40-3.50
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASH16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 3.60 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...บางสัญญาณเริ่มดีขึ้น
แม้ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับปัญหาภายในอย่าง ผลการประมูล4G ที่ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสารออมาอย่างหนัก แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปแม้จะยังมีแรงกดหุ้นในกลุ่มสื่อสาร แต่ก็กลับมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ธนาคารใหญ่ ค้าปลีกและที่โยงกับการท่องเที่ยว เข้ามา สัญญาณที่เกิดขึ้นถือว่ายังมีความพยายามที่จะพยุงตลาด แม้ต่างชาติจะขายหนัก แต่หลังจากนี้น่าจะแผ่วลงและสุดท้ายคงต้องมาไล่หุ้นคืน ซึ่งเรามองว่าน่าจะเป็นในช่วงครึ่งแรกของเดือน ม.ค. หลังมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ
สัญญาณตัวหนึ่งที่บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาด คือ ตัว Earning revision ratio หรือ จำนวนหุ้นรายตัวที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มค่า EpS 12 เดือนล่วงหน้า ลบ จำนวนที่ถูกปรับลด หารด้วยจำนวนนักวิเคราะห์ทั้งหมด พบว่าในตลาดหุ้นไทย เริ่มปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในภูมิภาค 4 ประเทศ ดูจากรูปด้านซ้าย ภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นมุมมองของนักวิเคราะห์ ที่มีมุมมองในเชิงบวกกับกำไรของตลาดหุ้นไทยดีขึ้น โดยกลุ่มที่ถูกปรับค่า EpS ขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นที่โยงท่องเที่ยว ค้าปลีก ธนาคารเล็ก รับเหมา ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ ปิโตรเคมี พลังงานบางตัวและขนส่ง
ปีนี้ถือเป็นปีแรกๆ หากไม่รวมช่วงวิกฤติปี 2008-2009 หุ้นใหญ่ 3 กลุ่มหลักของไทยต่างลงมาสร้างจุดต่ำสุดในเดือน ธ.ค. ทั้งสิ้น (รูปด้านขวา) (พลังงาน -28% ธนาคาร-30% สื่อสาร-45% เทียบ SET -15%) ภาพตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดทั้งจากภาพเศรษฐกิจรวม การดิ่งลงของราคาน้ำมันและผลการประมูล 4G หากกลับมามองว่าทั้ง 3 กลุ่มเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ต้องบอกว่ากลุ่มที่คาดว่าจะยังผันผวนได้อีก คือพลังงาน เพราะมองราคาน้ำมันน่าจะลงไปถึงจุดต่ำสุดใน Q1/16 แต่ในช่วงสั้นๆนี้ น่าจะแก่วงในกรอบแคบ ส่วนกลุ่มธนาคาร แรงขายค่อยๆ ชะลอตัวลงมาก และเริ่มยืนประคับประคองตัว ซึ่งยังต้องดูงบ Q4/15 ที่จะทยอยประกาศ และสุดท้ายกลุ่มสื่อสาร แม้แรงกดยังไม่หายไป แต่ดัชนีกลุ่มที่ลงไปลึกมากถึง 45% จึงจูงใจให้เกิดแรงซื้อคืนเข้ามา
โดยสรุปใน 3 กลุ่มดังกล่าว ขอแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดีดตัวขึ้น หรือไม่ลงต่อ ดัชนี SET ก็น่าจะดีดกลับได้แล้วซึ่งตอนนี้เห็นได้จากกลุ่มพลังงานบางตัว ขณะที่สื่อสารก็เริ่มมีแรงซื้อคืนหุ้นที่ลงไปลึกอย่าง DTAC ADVANC หรือแม้แต่ JAS ส่วนธนาคารยังเป็นแบบซื้อๆ ขายๆ หรือ Trading นอกเหนือจาก 3 กลุ่มดังกล่าวกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นแรงหนุนดัชนีในช่วงปลายถึงต้นปีหน้า คือ กลุ่มที่โยงกับการท่องเที่ยวและค้าปลีก แต่จะเป็นลักษณะค่อยๆซึมขึ้น หลังราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี SET เรามองว่าจะรีบาวน์ได้ต่อไปถึง 1300+/- จุดในช่วงปลายสัปดาห์หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า โดยวันนี้บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศและราคาน้ำมัน ถือว่าดีมาก คือดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 4% จากปริมาณสต๊อกน้ำมันลดลงกว่าคาด นอกนั้นเป็นแรงหนุนจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปี กลุ่มที่ยังน่าลงทุนในช่วงนี้ ยังคงเป็นสื่อสาร พลังงาน ธนาคาร ค้าปลีกและที่โยงกับการท่องเที่ยว วันนี้คาดดัชนี SET จะเปิดขึ้นแรงในแดนบวก โดยมีแนวต้านที่ 1285-1290 จุด ส่วนแนวรับที่ 1270-1266 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ปีนี้ถือเป็นปีแรกๆ หากไม่รวมช่วงวิกฤติปี 2008-2009 ที่หุ้นใหญ่ 3 กลุ่มหลักของไทยต่างลงมาสร้างจุดต่ำสุดในเดือน ธ.ค. ทั้งสิ้น (พลังงาน -28% ธนาคาร-30% สื่อสาร-45% เทียบ SET -15%) ภาพตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดทั้งจากภาพเศรษฐกิจรวม การดิ่งลงของราคาน้ำมันและผลการประมูล 4G หากกลับมามองว่าทั้ง 3 กลุ่มเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ต้องบอกว่ากลุ่มที่คาดว่าจะยังผันผวนได้อีก คือพลังงาน เพราะมองราคาน้ำมันน่าจะลงไปถึงจุดต่ำสุดใน Q1/16 แต่ในช่วงสั้นๆนี้ น่าจะแก่วงในกรอบแคบ ส่วนกลุ่มธนาคาร แรงขายค่อยๆ ชะลอตัวลงมาก และเริ่มยืนประคับประคองตัว ซึ่งยังต้องดูงบ Q4/15 ที่จะทยอยประกาศ และสุดท้ายกลุ่มสื่อสาร แม้แรงกดยังไม่หายไป แต่ดัชนีกลุ่มที่ลงไปลึกมากถึง 45% จึงจูงใจให้เกิดแรงซื้อคืนเข้ามา ดัชนี SET เรามองว่าจะรีบาวน์ได้ต่อไปถึง 1300+/- จุดในช่วงปลายสัปดาห์หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า โดยวันนี้บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศและราคาน้ำมัน ถือว่าดีมาก คือดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 4% จากปริมาณสต๊อกน้ำมันลดnลงกว่าคาด นอกนั้นเป็นแรงหนุนจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปี กลุ่มที่ยังน่าลงทุนในช่วงนี้ ยังคงเป็นสื่อสาร พลังงาน ธนาคาร ค้าปลีกและที่โยงกับการท่องเที่ยว วันนี้คาดดัชนี SET จะเปิดขึ้นแรงในแดนบวก โดยมีแนวต้านที่ 1285-1290 จุด ส่วนแนวรับที่ 1270-1266 จุด
Themes play :
ซื้อเก็งกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTT PTTEP PTTGC TOP BCP IRPC IVL ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในวันนี้จากปัจจัยบวกเมื่อคืนนี้ที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง 1.36 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +3.8% มาปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบออกมาลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล นอกจากนั้นราคาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่เบเกอร์ ฮิวส์ รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลง 3 แท่นเหลือ 538 แท่นในสัปดาห์นี้ โดยเราให้ pTTGC เป็น top pick ของการฟื้นตัวในรอบนี้เนื่องจากราคาหุ้นยัง laggard หุ้นในกลุ่มและยังมี upside สูงถึง 25% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 62.50 บาท
ประเด็นในสัปดาห์
24 ธ.ค. : ไทยประกาศตัวเลข Export YoY เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ -8.11%
27 ธ.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Profit YoY เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ -4.6%
30 ธ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Pending Home Sales MoM เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.2%
Technical Pick :
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1270 จุด แนวต้าน 1285-1290 จุด
Unique Engineering (UNIQ TB; THB 18.70) - ซื้อ
International Research (IRCP TB; THB 5.65) - ซื้อ
SET Index : ฟื้นตัวทดสอบ 1290
Retail Research Team