- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 December 2015 16:26
- Hits: 957
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มทรงตัวและรีบาวด์ขึ้นได้ดี จึงยังแนะนำเน้นถือต่อได้...
กลยุทธ์ : เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงมาลึกมากพอควรอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาหุ้นหลายตัวต่ำกว่าพื้นฐานมาก จึงเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหาจังหวะทยอยรับให้เห็นบ้างแล้ว ส่งผลให้ SET มีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดี และคาดว่ายังลุ้นรีบาวด์ขึ้นต่อได้อีก ดังนั้นเรายังแนะนำเน้นถือต่อเพื่อรอขายในจังหวะบวกแรงได้ แต่ถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มเติม แนะนำให้รอซื้อช่วง SET อ่อนตัวลงก่อนดีกว่า เพราะยังมีความเสี่ยงสูงอยู่
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SIRI, VTE, CBG(buy back)
แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะแกว่งบวกได้ดีขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT ดูเหมือนจะเริ่มน้อยลงและมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาช่วยพยุงราคาไว้ได้บ้าง ถึงแม้ว่า FSS จะคาดว่าแรงซื้อหุ้นในกลุ่มนี้คงจะไม่หนาแน่นมากจนทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มสามารถขยับขึ้นได้แรงในช่วงถัดไป แต่ก็น่าจะช่วยพยุงไว้ให้ชะลอการปรับตัวลงต่อได้บ้าง ทำให้กดดันตลาดรวมน้อยลง ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศช่วงนี้ยังค่อนข้างสดใส หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐยังบวกแรงต่อ และหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มพลิกกลับมาปิดบวกด้วย รวมทั้งการขยับขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นเอเชีย ก็น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มบางตาลง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะอยู่ในช่วงแกว่งบวกด้วยวอลุ่มเบาบางขึ้นไปได้ในช่วงท้ายปีนี้ จึงแนะนำเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอขายสูงได้ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคาช่วงบวก
แนวรับ 1270-1266 , 1262-1258 จุด
แนวต้าน 1276-1280 , 1284-1290 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$17 ล้าน เป็นการไหลออกจากไทยประเทศเดียว US$145 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$111.3 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$10.9 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่ชะลอลงเนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดยาวและราคาน้ำมันที่เริ่มขยับขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดิ่งลงไปแรงในช่วงก่อนหน้านี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) S&P คงอันดับเครดิตไทย ที่ BBB+ และคงแนวโน้ม Stable เพราะดุลและสภาพคล่องภาคต่างประเทศแข็งแกร่ง หนี้ของรัฐบาลอยู่ในระดับปานกลาง นโยบายการเงินการคลังมีประสิทธิภาพ และ S&P คาดว่า GDP ไทยใน 3 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 3-4%
(-) ต่างชาติน่าจะชะลอการขายเพราะใกล้หยุดยาว ต่างชาติขายหุ้นหนักตั้งแต่จันทร์ที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละ 5.3 พันล้านบาท น่าจะเป็นแรงขายในหุ้นกลุ่ม 4G เพราะหุ้นที่ถูก short sales มากสุด 6 อันดับแรกเป็น ADVANC, INTUCH, JAS, PTT, KBANK, TRUE (แรง short ADVANC เริ่มน้อยลงมากวานนี้) ประกอบกับใกล้วันหยุดยาว เราคาดว่าแรงขายจากต่างชาติจะเริ่มชะลอหลังน้ำหนักของกลุ่ม ICT ต่อตลาดลดลงไปมากแล้วจากต้นปีที่ 13% เหลือ 9% ขณะที่แรงซื้อจาก LTF/RMF ที่มีเข้ามาบ้างและราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น กลุ่มพลังงานและแบงก์น่าจะช่วยประคองดัชนีให้ผ่าน 1300 จุดไปได้ก่อนสิ้นปี
(-) โซลาร์ฟาร์มราชการเลื่อนอีก กกพ.คาดจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติและวันจับสลากของโซลาร์ฟาร์มราชการเฟสแรก 600MW ปลาย ม.ค. 2016 ส่วนเฟส 2 จำนวน 200MW คาดว่าจะประกาศรับซื้อไฟปลายปี 2016 สำหรับการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมแสงอาทิตย์) กกพ.คาดว่าโครงการระยะที่ 1 (ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) 45MW จะประมูลใน 1Q16 ส่วนระยะที่ 2 ราว 500MW จะประมูลกลางปี 2016 การเลื่อนกระทบ Sentiment แต่ไม่กระทบประมาณการและราคาเป้าหมายของ GUNKUL ที่ 26 บาท เพราะเป้าดังกล่าวคำนึงถึงเฉพาะงานในมือ เรายังคงแนะนำซื้อ
(+) ASEFA แนวโน้มกำไรใน 4Q15 จะชะลอตามฤดูกาล แต่ทั้งปี 2015 เรายังคาดโต 62% Y-Y เป็น 184 ล้านบาท แต่ EPS โต 18% Y-Y จากผลของ dilution จากการเพิ่มทุน IPO สำหรับปี 2016 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้โต 15% สอดคล้องกับประมาณการของเรา ปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งการลงทุน 4G และ Data Center ส่วนระยะยาว ASEFA มีแผนเพิ่มสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตดี เช่นสายไฟชนิดพิเศษ งานบริการด้าน Turnkey Automation รวมทั้งขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 7 บาท
(+) MAJOR แนวโน้มกำไรใน 4Q15 แข็งแกร่งเพราะมีหนังเข้าฉายโดดเด่นหลายเรื่อง เช่น Star Wars: Episode VII, The Martian, Bonds 24:007: Spectre และ The Hunger Games: Mockingjay, Part 2 โดยเฉพาะ Star Wars ที่ทำสถิติรายได้เปิดตัวสูงสุดของโลกไปแล้วและกระแสยังแรงต่อเนื่อง หนังฟอร์มยักษ์นี้มาในช่วงเปิดโรงหนังใหม่ที่ Central Festival East Ville ปลาย พ.ย. และ Central Westgate ปลาย ส.ค. พอดี เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 35 บาท
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 185.34 จุด มาอยู่ที่ 17,602.61.27 จุด จากการฟื้นตัวขึ้นได้บ้างของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง
(+) ตลาดหุ้นยุโรปพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้แรงพอควรเป็นส่วนใหญ่ จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบโลกดูดีขึ้น
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังสามารถแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีก แต่ก็เริ่มมีจังหวะผันผวนบ้าง หลังตลาดหุ้นจีนเริ่มอ่อนแรงลง
(-) ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงอีกครั้ง โดยมาแกว่งตัวแถว 36.10-36.12 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายยูโร จากคาดการณ์ที่ว่ายูโรโซนอาจจะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,068.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ยังร่วงลงอีก 5.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
25-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ
- ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ (พ.ย.)
29-ธ.ค. - สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Index (ต.ค.)
30-ธ.ค. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
- สหรัฐ: Pending home sales (พ.ย.)
31-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการวันนี้: ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย
1-ม.ค. - ไทย: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- จีน: Manufacturing and Non-Manufacturing PMI (ธ.ค.)
4-ม.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- จีน: Caixin China PMI Mfg (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ธ.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
6 ม.ค. - จีน: Caixin China PMI Composite (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch