- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 December 2015 09:40
- Hits: 853
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงลบ Downside เริ่มจำกัด
เเนวโน้มตลาดไทยวันนี้ยังคงอยู่ในช่วงผันผวนเชิงลบ เนื่องจากราคาน้ำมันที่อ่อนเเอในช่วงนี้ส่งผลให้กลุ่มพลังงานไม่สามารถขยับขึ้นได้มากนัก เเถมกลุ่มสื่อสารมีเเนวโน้มว่ายังลงไม่สุดเพราะนักวิเคราะห์หลายค่ายต่างทยอยปรับลดการคาดการณ์กำไรเเละราคาเป้าหมายของ True, Dtac, Jas, Intuch, Advanc จึงส่งผลให้มีเเรงขายจากต่างชาติต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราเเนะนำนักลงทุนเริ่มทยอยเก็บหุ้นเป็นรายตัวเมื่อเข้าใกล้เเนวรับ1,250 ด้วยdownside risk ที่ต่ำ earnings yield gap ให้ผลตอบเเทนเกือบ 5 ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย5ปีย้อนหลังที่มี earnings yield gap เท่ากับ 4 ถึงประมาณ 1 Standard deviation จึงมีโอกาสเด้งกลับได้บ้างในไม่ช้านี้ เเละเเนวรับ 1250 น่าจะsupport ตลาดได้ในช่วงนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1250/1300 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา โรงพยาบาล วัสดุก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิคส์ ที่ราคาลงมาเยอะแล้วและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงหุ้นใหญ่ในกลุ่มสื่อสารไปก่อน
นักลงทุนระยะสั้น : SVI(6.20), BDMS (25.50)
SVI(6.20) งบ Q3 ออกมาดีแล้ว ต่อไปงบ Q4 จะเข้าสู่ช่วงพีค ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ส่งออกง่ายขึ้นและไม่ส่งออกไปจีน ทำให้ผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวมีค่อนข้างน้อยต่อ SVI ส่วนปีนี้จะเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่เหมือนก่อนช่วงไฟไหม้ ประกอบกับ demand จากยุโรปยังแข็งแกร่งอยู่และปีหน้าจะได้ลูกค้าใหม่จากอเมริกามา 6 ราย เป็นรายได้เสริมถึง 1,200 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรมีโอกาสจะโตถึง 32%ในปีหน้า เเถม PE ของSVI ปัจจุบัน 11.6 เท่า ถูกกว่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 12.6 เท่าด้วย
BDMS (25.50) เป็นตีมค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ช่วยให้ผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารักษาตัวมากขึ้น โดยขณะนี้ BDMS มีราคาถูกที่สุดและ upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงถึง 20% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน 6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC โดยเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปีหน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 6 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงถึง 20% และมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี
นักลงทุนระยะยาว : SYNTEC (3.80), CK (32)
SYNTEC (3.80) สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้ Top pick ของเราเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC
CK (32) (1)Mega projects เช่นรางคู่และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะช่วย earnings ให้เติบโตสูง 15% ในปีหน้า (2)การควบรวมกิจการของบริษัทลูก BMCL & BECL (3)นอกจาก projects ของรัฐบาลยังมีโครงการลูก บริษัทลูก เช่น CKP มีโครงการน้ำบาก (Hydroelectric dam) ในประเทศลาว 1หมื่น7พันล้านบาท กำลังเจรจาน่าจะเซ็นสัญญา Q1 ปีหน้า (4)Q3 & Q4 sale & earnings ไม่ค่อยดี โครงการ mega projects ประมูลชนะปีนี้เริ่มทำปีหน้า ช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการเริ่มเก็บสะสม CK (5)ราคาปัจจุบันให้ upside สูงกว่าคู่แข่งทั้ง ITD และ STEC
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154