WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

แม้ยังมีกลุ่ม ICT กดดัน แต่คาดภาพรวมยังลุ้นรอบรีบาวด์ได้!!

     กลยุทธ์ : แม้ SET จะยังแกว่งตัวลงแรงอีก แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะอิทธิพลของราคาหุ้นกลุ่ม ICT ซึ่งจากราคาที่ลงแรงมากแล้ว อาจทำให้เริ่มทรงตัวได้บ้าง ทำให้คาดว่าจะกดดัน SET น้อยลง ดังนั้นในส่วนที่ FSS แนะนำเลือกหุ้นหาจังหวะเข้าซื้อช่วงที่ผ่านมาจึงยังแนะนำให้เน้นถือไว้ก่อน เพื่อรอจังหวะขายช่วงบวกแรงดีกว่า แต่ไม่แนะนำให้ไล่ซื้อช่วงบวกเพราะยังมีความเสี่ยง


หุ้นเด่นทางเทคนิค : MTLS, TU, CBG(short)
      แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับตัวลงรุนแรงของราคาหุ้นในกลุ่ม ICT เป็นหลักซึ่งมีผลต่อการคำนวณดัชนีพอควร เนื่องจากนักลงทุนมองว่าราคาประมูลใบอนุญาตที่ค่อนข้างแพง และการที่มีรายใหม่เข้ามาแข่งขันในส่วนของผู้ประกอบการสัญญาณมือถือ น่าจะส่งผลให้โอกาสทำกำไรได้ดีของ บจ.ในกลุ่มนี้มีน้อยลง จึงขายออกก่อนเพื่อลดความเสี่ยง ทำให้ SET วานนี้อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคค่อนข้างมาก ขณะที่เช้านี้การปิดเป็นบวกเกือบ 1% อีกครั้งของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืน น่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ซึ่ง FSS มองว่าแรงขายหนักหน่วงในหุ้นกลุ่ม ICT ที่มีออกมาวานนี้จนทำให้ราคาหุ้นหลายตัวในกลุ่มปรับตัวลงแรงเกินไป อาจทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรช่วงสั้นกลับเข้ามาพยุงให้มีจังหวะทรงตัวได้บ้าง ก็จะทำให้ภาพรวมของ SET ดูดีขึ้นได้ เพราะวานนี้หุ้นกลุ่มอื่นๆ ก็ถือว่าเริ่มมีแรงซื้อให้เห็นบ้างแล้ว ดังนั้น FSS จึงยังคาดหมายว่า SET ใกล้ที่จะมีรอบรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวกได้ในเร็วๆ นี้ตามคาดเดิม จึงยังคงคำแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอขายช่วงบวกดีกว่า

แนวรับ 1262-1260 , 1255-1252 จุด


แนวต้าน 1270-1272 , 1275-1280 , 1285-1290 จุด
      Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$329 ล้าน นำโดยไทย US$128.7 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$111.7 ล้าน และไต้หวัน US$47.9 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$3.7 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่อง นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
??(-) ยังมองลบต่อกลุ่มสื่อสารเหมือนเดิม หลังจากที่เราลดน้ำหนักกลุ่มสื่อสารไปแล้ววานนี้จาก Overweight เป็น Underweight การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ซึ่งจัดโดย ADVANC และ TRUE ไม่ได้ทำให้มุมมองของเราดีขึ้น แม้ว่าในระยะยาว TRUE อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ ADVANC จากการมีคลื่นมากที่สุด 55MHz และครบที่สุดในการให้บริการทั้ง 2G, 3G, 4G ซึ่งทำให้ TRUE ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ในด้านฐานลูกค้า (เราเชื่อว่า TRUE หวังสูงกว่านั้น) แต่ด้วยราคาประมูลที่สูงถึง 7.5-7.6 หมื่นล้านบาทต่อใบของ 900MHz ทำให้ค่าเสื่อมของใบอนุญาตสูงถึง 5 พันล้านบาท/ปี เทียบกับ 1800MHz ที่ 2.2 พันล้านบาท/ปี (TRUE แบกภาระค่าเสื่อมทั้ง 2 ใบ) ยังไม่รวมค่าการตลาดและดอกเบี้ยจ่าย เชื่อว่า TRUE และ JAS จะขาดทุนอีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย และแม้ว่า TRUE จะมั่นใจกับการหาแหล่งเงินทุนโดยมองการเพิ่มทุนเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำ แต่เราก็เชื่อว่ายังมีโอกาส รวมถึง JAS ด้วย ขณะที่การเติบโตของ ADVANC จะชะลอใน 1-2 ปีนี้เพราะต้องใช้จ่ายไปกับการรักษาฐานลูกค้า การเช่าคลื่นจากทีโอที และการเร่งขยายโครงข่าย 3G-4G ของตัวเอง เราปรับลดเป้าหมายของ ADVANC ในปีหน้าไปแล้วเหลือ 230 บาท แนะนำซื้อลงทุนสำหรับผู้ต้องการเงินปันผล (คาด 7% ต่อปี) ส่วน DTAC ปรับลงเหลือ 38 บาท (จาก 50 บาท) TRUE เหลือ 6 บาท (จาก 10 บาท) INTUCH เหลือ 80 บาท (จาก 97 บาท)
??(+) สินเชื่อเดือน พ.ย. +1.04% M-M ดีที่สุดของปี ยังไม่รวม KTB ซึ่งยังไม่รายงาน โดยทุกแบงก์มีสินเชื่อที่เติบโต ยกเว้น TCAP ที่ลูกค้ายังชำระคืนสินเชื่อเช่าซื้อ โดย BAY และ BBL มีสินเชื่อโตสูงสุด 2.36% M-M และ 2.02% M-M ตามลำดับ มาจากลูกค้าทุกกลุ่ม สำหรับ TMB และ KBANK โตเฉลี่ย 1.5% M-M หลักๆมาจากสินเชื่อรายย่อยและ SMEs สำหรับสินเชื่อรวมทั้ง 11M15 +2.92% YTD (ถ้ารวมการควบรวม BTMU ของ BAY สินเชื่อจะ +4.5% YTD) ใกล้เคียงคาดการณ์ทั้งปีของเราที่ 3% และคาดสินเชื่อปี 2016 ขยายตัวไม่เกิน 5% (ไม่รวม 4G) ระยะสั้นไม่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้น ซึ่งเป็นโอกาสทยอยสะสม เพราะ 2016 PE ที่ต่ำเพียง 8.7 เท่า และ 2016 PBV เพียง 1.07 เท่า แบงก์ใหญ่น่าสนใจกว่าแบงก์กลาง-เล็กเพราะได้ประโยชน์จาก 4G เรายังคงแนะนำ KBANK เป็น Top Pick (เป้าหมายปีหน้า 210 บาท)

??(+) ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้กลับมาบวก 123.07 จุด โดยปิดไปที่ 17,251.62 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังการปรับตัวลงรุนแรงในช่วง 2 วันก่อน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคารแข็งแกร่งสุด
??(-) ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ยังปิดร่วงลงรุนแรงต่อเนื่อง โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสเปน หลังไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากในสภา
??(+) แต่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังค่อนข้างสดใสต่อเนื่องอยู่
??(+) ค่าเงินบาทยังทรงตัวในกรอบ 36.05-36.20 บาท/ดอลลาร์ อยู่แต่เริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อย
??ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 34.73 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นเพียง 0.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะไม่มีประเด็นใหม่ๆ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ยังร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีอีก จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป
??ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,080.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 15.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนแอ และในตลาดทองคำยังมีแรงซื้อเก็งกำไรหลังการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากของสัญญาทองคำในช่วงก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

22-ธ.ค. - ไทย: LHHOTEL เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท), ยอดขายรถ (พ.ย.)

- สหรัฐ: 3Q15 GDP (ตัวเลขสุดท้าย) , ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
23 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวัน Emperor’s Birthday

- สหรัฐ: รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
24-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง

- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
25-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ

- ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.), กกพ.จับฉลากผู้ได้ใบอนุญาตรับซื้อไฟฟ้า (PPA) ในโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600MW

- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ (พ.ย.)
29-ธ.ค. - สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Index (ต.ค.)
30-ธ.ค. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ

- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.

- สหรัฐ: Pending home sales (พ.ย.)
31-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการวันนี้: ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!