- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 December 2015 09:26
- Hits: 1020
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดปรับฐานลงทั้งแรงกดดันจากบรรยากาศรอบเอเชีย และผลการประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900MHz ที่ทำลายสถิติของโลก ส่งผลให้หุ้น 5 ตัวปรับฐานลงแรงนับตั้งแต่เปิด อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Domestic Play อ่างกลุ่มธนาคาร / SCC/ AOT กลับขึ้นเด่น ท้ายสุด SET INDEX ปิดลบ 20.48 จุด มาอยู่ที่ 1,264.44 จุด มูลค่าการรซื้อขายหนาแน่น 61,465 ล้านบาท โดยเป็นผลจากหุ้น 5 หลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับประมูลคลื่น 4G ราว 20.96 จุด
ทั้งนี้ ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 11 มากถึง 4,655 ล้านบาท เชื่อว่าเป็นหุ้นหลักกลุ่ม ICT เป็นสำคัญ ขณะที่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 2,332 ล้านบาท ด้านตลาดตราสารหนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 9 อีก 1,423 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900MHz จะเริ่มทรงตัวถึงฟื้นตัวเล็กน้อย
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาเป็นกลางอีกครั้ง
มุมมองต่อตลาด
ทิศทาง SET INDEX วันนี้ เราคาดเกิด Technical Rebound สู่ด่าน 1,270 จุด +/- หลังกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นหลักกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC / INTUCH / DTAC / JAS / TRUE ไปแล้ววานนี้ แม้ว่าแรงขายในหุ้นดังกล่าวอาจมีหลงเหลือมาในวันนี้บ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่มากแล้ว เพียงแต่การเกิด Technical rebound ของหุ้นดังกล่าวก็ยังคงเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน
ขณะที่กลุ่ม Domestic Play และกลุ่มท่องเที่ยว เราเชื่อว่าจะมีความโดดเด่นต่อเนื่อง เพราะถือว่า Valuation ในกลุ่ม Domestic Play อยู่ในโซนที่น่าสนใจลงทุน ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่องถึงปีหน้า นำโดยกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT / สายการบิน / โรงแรม จะยังคงแข็งแกร่ง เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q58 - 1Q59 ที่เป็น High Season จะมีการเติบโตเด่น ทั้ง yoy และ qoq น่าจะมาชดเชยกับความอ่อนแอของกลุ่ม ICT และกลุ่มพลังงาน
สำหรับกระแสเงินทุนต่างชาติ หลังจากขายสุทธิมาตั้งแต่ปี 2556-2558 รวมทั้งสิ้น 3.75 แสนล้านบาท น่าจะมากเพียงพอต่อการสะท้อนถึงความอ่อนแอด้านเศรษฐกิจ ประเด็นเฉพาะตัวของกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร / พลังงาน / ICT อีกทั้งเป็นช่วงที่ใกล้เทศกาลวันหยุดยาวของต่างชาติ เราเชื่อว่าแรงขายจากนักลงทุนกลุ่มนี้จะชะลอตัวจนถึงเบาบางมากยิ่งขึ้น ช่วยจำกัด downside risk ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2558
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Domestic Play อาจพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,280 จุด +/- " เพื่อรอจังหวะเข้าเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย หากราคามีการย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL
Speculative Buy: ERW / SCB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
SCB : ราคาปิด 122.50 บาท ราคาเหมาะสม 160.00 บาท
MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้ประโยชน์จากการเกิด Sector Rotation เนื่องจากเม็ดเงินไหลออกจากกลุ่มสื่อสารที่ได้รับผลกระทบเชิงลบหลังผลการประมูล 4G ออกมา Surprise ตลาด และเกิดคู่แข่งรายใหม่ในธุรกิจมือถือคือ JAS
และกลุ่มธนาคารมี Sentiment บวกหลังผลการประมูลใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz จำนวน 2 ใบออกมาสูงถึง 1.52 แสนล้านบาท
SCB เป็นผู้ปล่อยกู้หลักให้กับ TRUE ซึ่งเป็นผู้ชนะใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ใน Lot2 ที่ราคา 7.63 หมื่นล้านบาท
คาดว่ากลุ่มธนาคารจะได้ปัจจัยบวกจากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF ในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากกลุ่มธนาคาร Underperform ตลาดมาก โดย SETBANK -28.1% YTD เทียบกับ SET INDEX -15.5%
Valuation ถูกซื้อขายระดับ PER2559 เพียง 7.5 เท่า และ PBV2559 ที่ 1.18 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.1%
ERW : ราคาปิด 4.18 บาท ราคาเหมาะสม 4.80 บาท
ราคาหุ้น Laggard มาก โดย YTD -9.9% เทียบกับ SET TOURISM +17.4% และหุ้นธุรกิจโรงแรม เช่น CENTEL +44.3%, MINT +7.7%%
ทิศทางผลประกอบการ 4Q58 แข็งแกร่ง เติบโตเด่น ทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ ดังนั้น เบื้องต้นเราคาดการณ์กำไร 4Q58 ที่ 112 ล้านบาท เติบโตถึง +129% yoy และพลิกกลับจากขาดทุนใน 3Q58
คาดกำไรจาการดำเนินงานปกติปี 2559 จะเติบโต +88.9% yoy เป็น 393 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด คือ โรงแรม Hop Inn ที่จะสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่อง ผลักดันให้ EBITDA Margin ในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 26.4% จากปี 2558 ที่ 25.4%
Valuation ต่ำกว่าหุ้นในกลุ่ม โดยซื้อขายระดับ EV/EBITDA2559 ที่ 11.2 เท่า ต่ำกว่า CENTEL ที่ 14.1 เท่าและ MINT 15.2 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชีย ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$209 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$138 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นสำคัญ
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 11 เร่งขึ้นเป็น 4,655 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นการลดน้ำหนักกลุ่ม ICT หลังผลการประมูลคลื่น 4G ย่านความถี่ 900MHz สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก และโบรกเกอร์ หลายแห่งลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มนี้ลงมาเป็น Underweight เป็นสาเหตุสำคัญ ส่งผลให้ 11 วันทำการขายสุทธิ 21,286 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 1.4 แสนล้านบาท เป็น 143,629 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2,332 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 4,735 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 4,180 สัญญา คาดทยอยปิดสถานะ Short อีกครั้ง เมื่อ SET50 Index ลงมาใกล้ระดับ 800 จุด อีกครั้ง ด้าน QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิขยับเป็น 20,174 สัญญา ผลักดันให้ S50Z15 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 0.39 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.73bps
และต่างชาติขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 9 เร่งขึ้นเป็น 1,423 ล้านบาท รวม 9 วันทำการ ขายสุทธิ 25,975 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 6 อีกเล็กน้อย 0.14bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.48bps ปิดที่ 2.592%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1,231 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 909 ล้านบาท
กระจุกตัวอยู่ที่ ADVANC - INTUCH
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่ม ICT เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิมากถึง 1,085 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 271 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการขายสุทธิหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่น 4G เป็นหลัก ภาพรวมด้านอื่นถือว่าเป็นกลาง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด 1,108 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 366 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 224 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 87 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 150 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 324 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,213 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 148 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดสาขา Atlanta คิดว่าดอกเบี้ยขึ้นในปีหน้า: นาย Lockhart ประเมินว่า เฟดจะทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้ตัวเลขเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา
ยุโรป
ไม่มี
จีน
นโยบายการเงินจะยังคงยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนการเติบโต: ผู้นำจีน ยังคงส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และนโยบายการคลังที่ขาดดุลต่อเนื่อง เพื่อที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้าง / ปฎิรูป
เอเชียแปซิฟิก
คำสั่งภาคการส่งออกของไต้หวันหดตัวแรงกว่าคาด: ลดลง 6.3% yoy ในเดือน พ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าและ Bloomberg Consensus คาดลดลง 5.3% yoy ทั้งนี้คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯเติบโต 0.1% yoy ส่วนจากจีนและยุโรปลดลง 4.9% yoy และ 7.4%
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530