- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 December 2015 16:29
- Hits: 1066
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังแกว่งย้อนลบ แต่ถือเป็นโอกาสเลือกหุ้นทยอยซื้อ...
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังมีสิทธิอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบได้อีก แต่ FSS คาดว่ากรอบลบน่าจะจำกัดมากขึ้น และลุ้นโอกาสพลิกกลับไปบวกขึ้นต่อขยับบวกได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นจึงแนะนำให้เน้นถือไว้ได้ เพื่อรอหาจังหวะขายช่วงบวกแรง ในขณะที่ตลาดปรับตัวลงยังเลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมได้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BIG, TPIPL, BH(buy back)
แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET เริ่มมีแรงขายกดดันอีกครั้ง หลังจากดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นมาค่อนข้างเร็วในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังไม่ได้มีปัจจัยหนุนใหม่เพิ่มเติม โดย FSS คาดว่าแรงซื้อในสัปดาห์ที่แล้วเป็นการเก็งกำไรจากการปรับตัวลงค่อนข้างแรงของตลาดในช่วงก่อนหน้ามากกว่า ขณะที่เช้านี้จะมีแรงกดดันต่อเนื่องจากผลการประมูลคลื่น 900MHz ที่สิ้นสุดไปด้วยราคาประมูลค่อนข้างสูง รวมทั้งการปรับตัวลงรุนแรงในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอ่อนแอ จึงมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานกดดันตลาด และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทพลังงานด้วย ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เปิดปรับตัวลงด้วย ซึ่ง SET ก็มีสิทธิที่จะยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวด้านลบต่อเนื่องจากช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้วที่ตลาดหุ้นบ้านเราเริ่มมีแรงขายเช่นกัน อย่างไรก็ตามตลาดเอเชียเช้านี้ไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงเท่าใด ในขณะที่ช่วงที่ผ่านมา SET ก็ไหลลงมาค่อนข้างลึกมากอย่างรวดเร็วไปแล้ว ดังนั้น FSS จึงยังคาดหมายว่ากรอบลบของ SET ก็น่าจะเริ่มจำกัดมากขึ้น และยังคาดหมายโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวกได้ตามคาดเดิมอยู่ จึงแนะนำถือรอขายบวก
แนวรับ 1282-1278 , 1275-1270 จุด
แนวต้าน 1293-1296 , 1300-1302 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกภูมิภาค US$138ล้าน ส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$93.7 ล้าน ตามด้วยไทย US$55.9 ล้าน และอินโดนีเซีย US$22.3ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$30.9 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$3.4 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค กลุ่มพลังงานกดดันตลาดหลังราคาน้ำมันยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกยังผันผวนหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อ กดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกโดยเฉพาะน้ำมันที่มีปัญหา Oversupply อยู่แล้วและอิหร่านกำลังกลับมาส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาใหม่คือสหรัฐอาจยกเลิกกม.ห้ามส่งออกน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ทำให้ Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันจะลงไปต่ำสุดที่ US$20/บาร์เรล ส่วน SocGen คาด Brent จะขึ้นมาอยู่ที่ US$60/บาร์เรลใน 4Q16 แม้เราจะเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบมี downside จำกัดจากระดับปัจจุบันแต่ยังคง Underweight กลุ่มพลังงานต่อเนื่องถึงปีหน้า
(-) ลดน้ำหนักกลุ่มสื่อสารจาก Overweight เป็น Underweight จาก Growth story ที่หายไปเพราะราคาประมูล 900MHz ที่สูงถึงใบละ 75,654 ล้านบาท (JAS ชนะประมูล) และ 76,298 ล้านบาท (TRUE ชนะประมูล) และผู้ชนะประมูลมีฐานะการเงินไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับค่าเสื่อมราคาของใบอนุญาต 900MHz ปีละ 5 พันล้านบาท ยังไม่รวมเงินที่ต้องลงทุนเพิ่มและภาระดอกเบี้ยจ่าย ส่วน TRUE ที่ได้ 2 ใบอนุญาต (1800MHz ที่ประมูลในเดือนก่อน) ค่าเสื่อมฯของทั้ง 2 ใบอยู่ที่ปีละ 7.3 พันล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิที่ทำได้ปีละ 4 พันล้านบาท เราคาดว่ากำไรของทั้งกลุ่มในปีหน้าจะหดตัว 6% Y-Y แทนที่จะโต 9% Y-Y และมีโอกาสที่ TRUE และ JAS จะเพิ่มทุน ส่วน ADVANC ยังคงเป็น Top pick เช่นเดิม แต่การประมูล 900MHz ไม่ได้ ทำให้ ADVANC ซึ่งยังมีลูกค้า 2G อยู่ในมือประมาณ 2 ล้านราย ต้องเช่าคลื่นจาก TOT ให้พอกับการให้บริการ ขณะเดียวกันต้องผลักดันให้ลูกค้า 2G หันไปใช้ 3G ให้ได้มากที่สุด เสน่ห์ของ ADVANC ด้อยลงจากเดิมที่เป็น Growth + High yield stock เหลือแต่ความเป็น High yield stock เราปรับราคาเป้าหมายปีหน้าของ ADVANC เหลือ 250 บาทจาก 270 บาท ยังคงคำแนะนำซื้อลงทุน ขณะที่ DTAC น่าจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในแง่ฐานลูกค้าที่เป็นอันดับ 2 ให้ TRUE และผลประกอบการจะหดตัวต่อไป
(+) กกพ.จับสลากโซลาร์ฟาร์มราชการ 22 ธ.ค. เลื่อนมาจาก 15 ธ.ค. หลังมีผู้ร้องเรียนจำนวนมากเพราะติดกม.ผังเมืองที่ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ ซึ่งในช่วงที่ยื่นเอกสาร กม.ผังเมืองยังไม่ได้ลงในราชกิจจินุเบกษา เรายังคงเลือก GUNKUL (เป้าหมายปีหน้า 26 บาท) เป็น Top pick เพราะยังมีโอกาสสูงได้รับงานก่อสร้าง (EPC) เพราะมีคู่แข่งน้อยมาก นอกเหนือจากโอกาสที่จะได้ PPA (ผ่านคุณสมบัติ 50MW)
(+) BIG ราคาหุ้นปรับฐานลงมาเป็นโอกาสในการซื้อสะสมอีกครั้ง ด้วยผลประกอบการที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างน้อยอีก 2 ปีข้างหน้าจากความเป็นผู้นำในตลาดกล้อง Mirrorless ที่สามารถขยายตลาดได้อีกมากในไทยซึ่งมี demand สูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากญี่ปุ่น ลูกค้าเป้าหมายของกล้อง Mirrorless คือผู้ใช้ Smartphone ในการถ่ายภาพและต้องการอัพเกรดไปสู่การถ่ายภาพขั้น advance มากขึ้น ปัจจุบันผู้ใช้ Smartphone ในไทยมีประมาณ 30 ล้านราย ลูกค้าของ BIG มี 1.2 แสนราย แชร์ส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.4% ของผู้ใช้ Smartphone ทั้งประเทศ ตลาดกล้อง Mirrorless ในไทยยังเพิ่งเริ่มเติบโตเท่านั้น เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +169% Y-Y ปีหน้า +9% Y-Y และมีโอกาสดีกว่าเติบโตเท่านั้น เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +169% Y-Y ปีหน้า +9% Y-Y และมีโอกาสดีกว่าคาด ราคาเป้าหมายปีหน้ายังคงไว้ที่ 2.30 บาท แนะนำซื้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงแรงถึง 367.29 จุดมาปิดที่ 17,128.55 จุด จากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังอ่อนแอ รวมทั้งแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ เพราะนักลงทุนกังวลว่าแบงก์ต่างๆ ที่ปล่อยกู้กับบริษัทพลังงานอาจได้รับผลกระทบ
(-) ตลาดหุ้นยุโรปท้ายสัปดาห์ที่แล้วก็ร่วงลงแรงเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน โดยนักลงทุนยังจับตาราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีกรอบการปรับตัวลงไม่รุนแรงมากนัก
(-) ค่าเงินบาทเริ่มจะทรงตัวได้บ้างในกรอบ 36.05-36.20 บาท/ดอลลาร์ แต่ก็ยังอยู่ในลักษณะอ่อนตัวอยู่
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 34.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ยังสูงเกินไป
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,065 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 15.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21-ธ.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ย.)
22-ธ.ค. - ไทย: กกพ.จับฉลากผู้ได้ใบอนุญาตรับซื้อไฟฟ้า (PPA) ในโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600MW
- สหรัฐ: 3Q15 GDP (ตัวเลขสุดท้าย) , ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
23 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวัน Emperor’s Birthday
- สหรัฐ: รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
24-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
25-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ
- ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ (พ.ย.)
29-ธ.ค. - สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Index (ต.ค.)
30-ธ.ค. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
- สหรัฐ: Pending home sales (พ.ย.)
31-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการวันนี้: ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch