- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 December 2015 17:49
- Hits: 1528
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ คงแนะนำทยอยซื้อ
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ คงแนะทยอยซื้อ (วานนี้ลบท้ายตลาดตามหุ้นสื่อสาร แย่กว่าคาด) คาด SET ด้อยกว่าหุ้นต่างประเทศ เพราะหุ้นพลังงานถูกถ่วงจากราคาน้ำมันที่พลิกมาลง ตามตัวเลขสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ +4.8 ล้านบาร์เรล (ตลาดคาด -1.4 ล้านบาร์เรล) และหุ้นสื่อสารอาจย่อต่อ หลังประมูลคลื่น 900 ยังไม่จบ ราคาล่าสุดของใบอนุญาตอยู่ที่ 4.76 หมื่นล้านบาท / 4.93 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่า SET มีทางลงน้อยและคงแนะทยอยซื้อ ประเด็นดอกเบี้ยเฟดชัดเจนแล้ว โดยขึ้น 0.25% สู่ 0.25-0.50% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าเพียง 3-4 ครั้ง (เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด และเป็นบวกต่อหุ้นโลก) นอกจากนี้คาดแรงซื้อจากสถาบันหนุน SET ต่อถึงปลายปี ล่าสุดยอดสะสม ธ.ค. อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีที่ผ่านมาที่ 1.1 หมื่นล้านบาท
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SMPC, ASEFA / ซื้อสะสม IFEC
SMPC (เป้าพื้นฐาน 7.7 บาท) 1) รูปแบบราคาเริ่มฟื้นตัวตามคาด (รอบนี้แนะนำเก็งกำไรไปวันที่ 11 ธ.ค.) พิจารณาที่แนวต้านสั้น 6.3 บาท หากวันนี้ผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ จะเป็นการกลับขึ้นไปเทรดกรอบบนของ Bollinger Band 6.3 – 6.9 บาท ประเมินแนวรับ 6.2 บาท 2) แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 คาดจะโตเด่น QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 85 – 90% (จาก 76% ในไตรมาส 3/58) 3) ได้รับอานิสงค์ในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยส่งออกไปต่างประเทศ >90%
ASEFA (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) 1) วานนี้ดีดทะลุแนวต้านสั้นที่ 5.45 บาทได้ตามคาด ประเมินแนวต้าน 6.1 บาท และแนวต้านถัดไปที่ ±6.6 บาท (กรอบแนวต้าน Channel line ขาขึ้น) ประเมินแนวรับ 5.55 บาท 2) คาดไตรมาส 4/58 กำไรยังดีต่อเนื่อง และจะเป็นขาขึ้นไปอีก 2 – 3 ปีเป็นอย่างน้อย โดย i) มีโอกาสได้งานระบบไฟฟ้าโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯด้วย (เดิมมีส่วนแบ่งตลาดราว 30-40%) ii) การลงทุนภาครัฐฯ (ASEFA รอส่งงานระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงินมูลค่าราว >200 ล้านบาท และมีโอกาสได้งานรถไฟฟ้าสีอื่นๆเพิ่มเติม) และ iii) การขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม (4G, Datacenter) ทั้งนี้ ASEFA มีการขยายกำลังการผลิต +50% ไตรมาส 1/59 รองรับ Mega trend ของอุตสาหกรรมฯ 3) ในเชิง Valuation ประเมินกำไรโตเฉลี่ย 18% CAGR ตอนนี้ PE 13.8 เท่า และคิดเป็น PEG 0.76 เท่า (PEG ต่ำกว่า 1 เท่าถือเป็นหุ้นถูก)
IFEC (เป้า Consensus 13 บาท) เรายังคงแนะนำ “ซื้อสะสม” สำหรับการลงทุนระยะกลาง – ยาว 1) วานนี้ถูกแรงขายหลังประกาศการลงทุน รร. ดาราเทวี (คาดเป็นเพราะนักลงทุนยังอยู่ระหว่างการย่อยข้อมูลการลงทุน) โดยเราประเมินเป็นการตัดสินใจที่ถูกในช่วงที่พลังงานทดแทนของไทยยังต้องรอ (รอให้ผ่านช่วงการจับสลากโซลาร์ส่วนราชการฯ และจะเริ่มต้นประมูล FiT ในปีหน้า ซึ่งความเสี่ยงที่จะถูกเลื่อนยังเปิดอยู่ หลังจากที่ล่าสุดมีประเด็นข่าวโครงการทหารบกและตำรวจถอนตัวจากโครงการ) 2) IFEC ยังเดินหน้าโครงการพลังงานทดแทนตามแผนเดิมโดยยังมีเงินสดในมืออีก 3 พันล้านบาทที่จะพร้อมลงทุนโครงการลมลิกอร์+ลมเทพา (COD ไตรมาส 3/59) และโครงการพลังงานลมที่เวียดนาม (คาดประกาศลงทุนสัปดาห์นี้) ... ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. – 14 ธ.ค. ผู้บริหารที่แจ้งการซื้อขายไปที่ กลต (59-2) ซื้อหุ้นรวม 7.6 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 8.85 บาท ... อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ Alert วานนี้
... กลุ่มค้าปลีก (ประเด็น CPALL*) สำหรับประเด็นเรื่องผู้บริหาร CPALL* ใช้ข้อมูลอินไซต์ ล่าสุดสมาคม บลจ.ยื่นหนังสือขอเข้าพบผู้บริหาร และอาจขอเปิดประชุมวิสามัญฯ ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันมีความกังวลในเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทฯที่จะเข้าลงทุน เราประเมินหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่มีโอกาสจะเป็นเป้าหมายในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนได้แก่ ROBINS*, GLOBAL* ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจะโตเด่นในปีหน้า (การบริโภคฟื้นตัว + กลับมาเร่งขยายสาขา)
(+) กลุ่มพลังงานทดแทน วานนี้มีข่าวลบประเด็นทหารบกถอนตัวโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯ อย่างไรก็ดี (จากการสอบถามไปที่ กกพ.) เราประเมินว่าจะไม่กระทบต่อการจับสลากในวันที่ 22 ธ.ค. และการที่ทหารบกถอนตัวเพียง 11 โครงการจากทั้งหมดที่ผ่านคุณสมบัติ 219 โครงการ และในวันที่ 21 ธ.ค. การพิจารณาคุณสมบัติใหม่ อาจทำให้มีจำนวนโครงการที่ผ่านคุณสมบัติเพิ่มเติม เรายังคงประเมินการจับสลากโครงการนี้จะเป็น Event ที่ปลดล๊อกอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนของไทยให้สามารถเดินหน้าประมูล FiT โครงการอื่นๆ
… กลุ่มสื่อสาร การประมูลคลื่น 900MHz สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจ Wait&See รอผลการประมูล (หลังราคาประมูลเริ่มสูงเกินกว่าคาดในกรอบ 4.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดความกังวลว่าจะกระทบต่อความสามารถในการจ่ายปันผลของผู้ชนะการประมูล)
… หุ้นอื่นๆที่แนะนำก่อนหน้า 1) PLAT (เป้า Consensus 7.4 บาท) แนะนำ “ถือ/ซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุน” Consensus คาดกำไรโต >30% CAGR ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำกว่า 1 เท่า (±0.7 เท่า) 2) BBL* (เป้าพื้นฐาน 195 บาท) วานนี้ราคาหุ้นติดที่แนวต้าน 154 ตามที่เราประเมินไว้ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ขายล๊อกกำไร อาจพิจารณาการรีบาวด์ของตลาดฯวันนี้ หากราคาผ่านแนวต้านที่ 154 บาทได้ อาจพิจารณา “ถือ/เก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ 158 บาท เป็นจุดขายล๊อกกำไร แต่หากไม่ผ่านแนวต้าน 154 บาท แนะนำ “ขายทำกำไร”
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, IFEC, ASEFA
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญขณะนี้ (แม้ว่าจะเริ่มใกล้จุดพีคของปรากฏการณ์ดังกล่าวแล้ว) ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักต่างๆลดลง มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรในปีหน้า นักเศรษฐศาสตร์ KGI ประเมิน GDP ปี 2558 = 3.0% และปี 2559 = 3.4% (ถ้าผลกระทบภัยแล้งน้อยกว่าคาด GDP ปีหน้ามีโอกาสแตะ 3.5%)
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) กนง คงดอกเบี้ย ขณะที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ย คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ส่วน คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.25-0.50% (The Federal Reserve) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2560 เป็น 1.5% ขณะที่ FOMC จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1.0% ในปีหน้า แต่จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม วันที่ 1-2 พฤศจิกายน และวันที่ 13-14 ธันวาคม 2016 เนื่องจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2016 เป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่วันที่ 20 มกราคม 2017 เป็นวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
(+) BIGC* เตรียมตั้งกองทุน REIT เพื่อรองรับการขยายสาขาปีหน้า (บางกอกโพสต์) โดยคาดการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะทำผ่านร้านค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่จำนวน 124 สาขา ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จะนำไปขยายสาขาในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่ง, บิ๊กซีมาร์เก็ต 3 แห่ง และ มินิ บิ๊กซี 75 แห่ง ทั้งนี้ เราประเมินทิศทางกำไรปี 2559 คาดจะฟื้นตัวเป็น 7.5 พันล้านบาท จาก 7 พันล้านบาทาในปี 2558 ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งปีหน้า ประกอบกับ ราคาหุ้นมี discount มากจากราคาเป้าหมายปี 2559 ที่ 277 บาท เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) SUPER จ่อ COD เพิ่ม 13.80MW ยันปีนี้ PPA ครบ 501 เมกะวัตต์ (ข่าวหุ้น) “SUPER” เตรียม COD โรงไฟฟ้าล็อตใหม่ ล่าสุดเข้าสู่ขั้นตอน First sync อีก 13.80 MW จากนั้นอีก 7 วัน COD ได้ทันที พร้อมส่งอีก 41 MW เข้าสู่ขั้นตอนทดสอบระบบไฟฟ้าเพื่อเตรียม First sync ภายในธ.ค.นี้ ยืนยัน PPA ครบ 501 MW
(+) รถไฟเร่งประมูลทางคู่เฟสแรก ตั้งเป้า พ.ค. 2559 ลงนามครบทั้ง 6 เส้นทาง (ข่าวหุ้น) การรถไฟฯ ตั้งเป้าเดือน พ.ค.59 ต้องเซ็นสัญญาสร้างรถไฟทางคู่เฟสแรกได้ครบทั้ง 6 เส้นทาง มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ส่วนเฟส 2 อีก 7 เส้นทาง มั่นใจได้เริ่มประมูลในปีหน้า
(+) BIGC เตรียมตั้ง REIT ในปี 2559 ระดมทุนขยายเพิ่ม 84 สาขา (ข่าวหุ้น) บอร์ด “บิ๊กซี” กางแผนปี 59 เน้นการขยายสาขาแห่งใหม่ เตรียมแผนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้น 6 สาขา บิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา และร้านมินิบิ๊กซี 75 สาขา พร้อมเล็งตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เพื่อระดมเงินสด
(+) SEAFCO รับโบนัสส่งท้ายปี คว้างานใหม่ 4 โครงการรวด (ทันหุ้น) SEAFCO รับโบนัสส่งท้ายปีเก่า กระโดดคว้างานใหม่ 4 โครงการรวดมูลค่ารวม 175 ล้านบาท ด้านแกนนำใหญ่ "ณรงค์ ทัศนนิพันธ์" ประกาศปั๊มรายได้ปีหน้าเติบโต 1,800 ล้านบาท แถมเดินหน้าประมูลโปรเจ็กต์ใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงจัดทัพบุกเมียนมาร์
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยสั้นยังอยู่ที่ 1292 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1292 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นในกรอบ 1292-1333 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1292 จุดนั้น อาจกดราคาทางลงในกรอบ 1292-1270 จุด
แนวรับวันนี้: 1292/1275 แนวต้านวันนี้: 1308/1318
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]