- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 December 2015 17:47
- Hits: 1387
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มผันผวนและอาจย้อนลบบ้าง แต่ยังลุ้นโอกาสขึ้นต่อได้!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET มีสิทธิที่จะยังแกว่งตัวผันผวนและอ่อนตัวลงได้บ้าง แต่ FSS คาดว่าตลาดยังมีลุ้นโอกาสแกว่งตัวขยับบวกต่อเนื่องได้อยู่ ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เน้นถือไว้ได้ เพื่อรอหาจังหวะขายช่วงบวกแรงเช่นเดิม แต่จังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อสะสมเพิ่ม น่ารอทยอยซื้อช่วงตลาดปรับลงดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VIBHA, RS, M(short)
แนวโน้ม : SET เริ่มผันผวนและย้อนลบลงมาอีกครั้ง หลังมีแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT กดดัน เนื่องจากการแข่งขันราคาในการประมูลคลื่น 900MHz ยังร้อนแรงต่อเนื่องและเตรียมเข้าสู่การประมูลวันที่ 3 ในวันนี้(17 ธ.ค.) แล้ว อย่างไรก็ตามการขยับบวกขึ้นค่อนข้างแรงของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมทั้งการขยับบวกของตลาดหุ้นต่างประเทศอื่นๆ แม้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดในการประชุมเมื่อคืนนี้ก็ตาม แต่เนื่องจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ไหลลงรับข่าวไปพอควรในช่วงที่ผ่านมา จึงเริ่มมีแรงซื้อกลับอีกครั้งหลังคาดว่าเฟดคงจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกพัก ขณะที่เมื่อคืนนี้แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะถูกกดดันอีกจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด แต่สุดท้ายราคาน้ำมันดิบโลกก็ยังมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้อยู่ ดังนั้นแม้ว่าตลาดอาจจะยังถูกแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT กดดันต่อเนื่องในช่วงเช้า เพราะนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจกับผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มนี้ หลังราคาประมูลค่อนข้างสูง แต่ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวด้านบวกต่อได้ เพราะราคาหุ้นหลักหลายตัวลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างมากน่าจะช่วยดึงดูดแรงซื้อได้บ้าง แม้ว่าระหว่างทางขึ้นยังมีแนวโน้มที่จะผันผวนและย้อนลบเป็นระยะก็ตาม
แนวรับ 1296-1290 , 1287-1280 จุด
แนวต้าน 1306-1310 , 1314-1316 , 1320-1324 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคชะลอลงเหลือ US$55 ล้าน โดยส่วนใหญ่เป็นการไหลออกจากเกาหลีใต้ US$150.7 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$113.7 ล้าน และอินโดนีเซีย US$21.5 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกแต่น่าจะเบาบางลง เมื่อคืนนี้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด แต่ถ้อยแถลงหลังการประชุมระบุว่าการปรับขึ้นจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามภาวะเศรษฐกิจ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กลุ่ม ICT จะกดตลาดวันนี้เพราะราคาประมูล 900MHz สูงกว่าตลาดคาดมาก ล่าสุดเมื่อ 6.00น. เป็นการประมูลรอบที่ 108 ราคาใบอนุญาตที่ 1 ผู้ยื่น 1 ราย 47,640 ล้านบาท ใบอนุญาตที่ 2 มีผู้ยื่น 1 ราย 49,250 ล้านบาท ยอดรวม 96,890 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าคลื่นกว่า 300% และสูงเกินคาดการณ์ของตลาดไปมากโดยผู้ประมูลยังอยู่ครบทั้ง 4 ราย จึงคาดว่าจะเห็นแรงขายหุ้นทั้ง 4 ตัวออกมารุนแรงต่อเนื่องในวันนี้ เราประเมินว่าทุกๆ 5 พันล้านบาทที่เพิ่มขึ้นจาก 3.5 หมื่นล้านบาท จะกระทบกำไรของ ADVANC 0.8% กระทบมูลค่าหุ้น 4 บาทจากราคาเป้าหมาย 270 บาท (เป้าหมายที่ราคาประมูลล่าสุดเหลือ 258 บาท) และกระทบกำไรของ DTAC 7% กระทบมูลค่าหุ้น 2-3 บาทจากราคาเป้าหมาย 50 บาท (เป้าหมายล่าสุดเหลือ 43-44 บาท) ส่วน TRUE จะขาดทุนต่ออีกปี ราคาเป้าหมายที่ราคาประมูลล่าสุดจะเหลือ 8.50-9 บาท จาก 10 บาท และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มทุนใน 3 ปีข้างหน้า
(0) Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอยู่ที่ 0.25-0.50% จากเดิม 0-0.25% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2016 ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นลบกับสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น ทองคำ น้ำมัน) แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นเพราะมีความชัดเจน แต่กลุ่มพลังงานวันนี้อาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับลง (นอกจากดอลลาร์แข็งค่า สภาคองเกรสยังพ้องเห็นว่าอาจให้ยกเลิกการห้ามส่งออกน้ำมันจากสหรัฐซึ่งมีผลใช้มากว่า 40 ปี) โดยราคาน้ำมัน 4QTD ลดลง US$8/บาร์เรลทำให้ยังมี Stock loss แต่ไม่มากเท่า 3Q15 ที่ราคาน้ำมันลดลง US$15
(+) ASEFA เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 7 บาท อิง PE 17 เท่าเท่าการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า (2015-17) ที่ 17% กำไรที่โตสูงมาจากการเร่งผลักดันการลงทุนต่างๆของภาครัฐ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ด้านโทรคมนาคม โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจ Data Center สำหรับ Backlog สิ้น 3Q15 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ 40% ใน 4Q15 ที่เหลือรับรู้ใน 1H16 และมีงานที่อยู่ระหว่างเจรจาและเข้าร่วมประมูลอีก 2.5-3 พันล้านบาท ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้งานเพราะเป็นผู้นำในตลาดสวิทซ์บอร์ดไฟฟ้า มีประสบการณ์ยาวนาน และมีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางการค้าทั้งผู้จัดจำหน่ายและลูกค้าของบริษัท จึงยังคงแนะนำซื้อ (+) EPG วานนี้ ราคาหุ้นพุ่งทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดฯ แต่ยังคิดเป็น Forward PE ปี 2016 ที่ 20 เท่า ไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับกำไรที่เราคาดว่าจะโตเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปีในช่วง 3 ปีนี้ อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 9% ในอดีตเป็น 15-16% ในปัจจุบัน ROE ยกระดับจาก 7-8% เป็น 16-17% โครงสร้างทางการเงินแข็งแรง มีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.4 เท่า ล่าสุด EPG เป็นหุ้นที่ถูกนำเข้าไปคำนวณใน SET100 งวด ม.ค. – ธ.ค. 2016 สำหรับกำไร 3Q16 (ต.ค.-ธ.ค. 2015) เชื่อว่าจะเดินหน้าทำ new high ต่อจากทั้งธุรกิจหลักที่ดีต่อเนื่อง และอานิสงส์ที่ได้จากเงินบาทอ่อนและราคาน้ำมันถูกลง เรายังคงแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 15 บาท
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้อีกกว่า 1% หลัง FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ Laggard เพราะราคาน้ำมันดิ่งลง
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดค่อนมาในแดนบวก โดยตลาดปิดทำการก่อนทราบผลการประชุม FED
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุม FED เช่นกันตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับขึ้น
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 35.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงข่าวเรื่องการยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันสหรัฐฯ
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,076.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดปิดทำการก่อนที่จะทราบมติการประชุม FED
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18-ธ.ค. - ไทย: K เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.80 บาท)
21 ธ.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ย.)
22-ธ.ค. - ไทย: กกพ.จับฉลากผู้ได้ใบอนุญาตรับซื้อไฟฟ้า (PPA) ในโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ 600MW
- สหรัฐ: 3Q15 GDP (ตัวเลขสุดท้าย) , ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
23 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวัน Emperor’s Birthday
- สหรัฐ: รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
24-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการ: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
25-ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas: อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐ
- ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ (พ.ย.)
29-ธ.ค. - สหรัฐ: ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Index (ต.ค.)
30-ธ.ค. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
- สหรัฐ: Pending home sales (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch