- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 December 2015 17:36
- Hits: 1385
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงกดดันตลาด
คาดหุ้นไทยวันนี้จะซื้อขายในกรอบแคบเชิงบวก เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสัปดาห์นี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันยังคงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างต่อเนื่องและตลาดโดยรวม การประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ไม่น่าจะมีผลต่อนักลงทุนในตลาดซึ่งได้คาดการณ์กันว่าจะคงนโยบายและอัตราดอกเบี้ย
หุ้นเด่นวันนี้ : MINT (Bt36.00; ซื้อ, ราคาเป้าหมาย Bloomberg ปี 58 36.42 บาท)
แนวโน้มกำไรที่สดใสของ MINT ใน 2-3 ปีข้างหน้าเกิดจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ในออสเตรเลีย ธุรกิจรับบริหารโรงแรม รายรับจากโรงแรมใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ตลอดจนธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยและจีน ใน 9 เดือนแรกปีนี้กำไรสุทธิขยายตัว 30% YoY ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานไม่รวมกำไรพิเศษเพิ่มขึ้น 8% YoY เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4 ปีนี้จะดีขึ้นอย่างมากในทุกธุรกิจและน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีด้วยจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย MINT จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ The Residences by Anantara at Layan ที่มีมูลค่าโครงการรวม 5 พัน ลบ. นับตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เป็นต้นไป นอกจากนี้การที่ MINT เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Minor DKL Food Group ในออสเตรเลียจาก 50% เป็น 70% จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เช่นกัน สำหรับปี 2559 หลังจาก MINT ซื้อกิจการโรงแรมกลุ่ม Tivolli ในโปรตุเกส 1 โรงแรมมูลค่า 1.5 พัน ลบ. โดยที่บริษัทกำลังรอคำสั่งศาลที่จะอนุมัติให้เข้าซื้อกิจการของโรงแรมกลุ่มดังกล่าวอีก 7 แห่ง ซึ่งถ้าสำเร็จ MINT ต้องเปลี่ยนการรับรู้รายได้จากที่เป็นเพียงค่าเช่าเป็นรวมงบการเงิน จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 90 ล้านยูโรต่อปี ทำให้นักวิเคราะห์ต้องปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายสำหรับปี 2559 ขึ้น ล่าสุดจากการรวบรวมของ Bloomberg นักวิเคราะห์โดยเฉลี่ยคาดกำไรต่อหุ้นของ MINT โต 10% ในปีนี้และเร่งขึ้นเป็น 17% ในปี 2559 ในทางเทคนิคอล ได้เกิดสัญญาณซื้อทั้ง 3 ระยะเวลาคือ รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือนบ่งชี้ความแข็งแกร่งของราคาหุ้นและ MINT น่าจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 37.50 ก่อนจะไปต่อที่ 38.50 จุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 34.25 (แนวต้าน: 36.50, 37.00, 37.50; แนวรับ: 35.75, 35.25, 34.75)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
คาดนักท่องเที่ยวทะลัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดจำนวนนักท่องเที่ยวรวมในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 28.8 ล้านคน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 28-28.5 ล้านคน แต่ไม่น่าจะถึง 30 ล้านคนตามที่ภาคเอกชนได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 800,000 คนจะเดินทางมายังไทยในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า (The Nation)
เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและโครงการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินต่อเต็มขั้น หลังจากเมื่อวานนี้ประเทศญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะร่วมทุนหนึ่งในสามส่วนของนิติบุคคลร่วมลงทุนเฉพาะกิจ (SVP) ที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับประเทศเมียนมาร์และไทย งานก่อสร้างในเฟสแรกจะมีต้นทุนโครงการรวม 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (55 พันล้านบาท) ซึ่งรวมนิคมอุตสาหกรรม 27 ตารางกิโลเมตรและถนนสองเลนระยะทาง 138 กิโลเมตร งานก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 1/59 และ ITD ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลสัมปทานในเฟสแรกจะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในห้าปี โครงการทวายเต็มรูปแบบจะถูกสร้างขึ้นด้วยต้นทุนรวมประเมินทั้งหมดอยู่ที่ 350-400 พันล้านบาท (The Nation)
คาด กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย นักเศรษฐศาสตร์คาดที่ประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ยังคงดอกเบี้ยนโยบายของประเทศที่ 1.5% เพราะเศรษฐกิจกำลังพัฒนาขึ้นไปในทิศทางบวก (The Nation)
ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์วันนี้ กสทช. ระบุว่าด้วยระดับการแข่งขันเดียวกันกับครั้งก่อนรัฐจะได้เงินประมูลราว 5.3-5.4 หมื่น ลบ. แต่โดยสรุป กสทช. คาดว่าการประมูล 2 ใบอนุญาตนี้น่าจะได้เงินรวมราว 6 หมื่น ลบ. หรือ 3 พัน ลบ.ต่อเมกะเฮิร์ตซ์ หรือแพงกว่า 2.7 พัน ลบ. ต่อเมกะเฮิร์ตซ์ของคลื่นอ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์อยู่ 11.1% ทั้งนี้ใบอนุญาตแต่ละใบที่จะประมูลครั้งนี้มีแบนด์วิธ 10 เมกะเฮิร์ตซ์อายุ 15 ปี เทียบกับใบอนุญาต 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ที่มีแบนด์วิธ 15 เมกะเฮิร์ตซ์ อายุ 18 ปี ช่วงเวลาประมูลแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มและเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า โดยจะมีพักอีก 3 ชั่วโมงหลัง 6 โมงเช้าของวันพุธ (Post Today, Bangkok Post) ความเห็น: เราคิดว่าค่อนข้างเป็นเรื่องแน่นอนที่ตัวยืนที่จะได้ใบอนุญาตครั้งนี้คือ ADVANC ขณะที่นักวิเคราะห์อื่นคาดกันว่า DTAC น่าจะเป็นผู้ชนะอีกราย เราเห็นว่า JAS น่าจะเป็นผู้ชนะอยู่เนื่องจากความตั้งใจที่จะประมูลให้ชนะในรอบที่แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไร เราคิดว่าการประมูลจะเป็นแรงกดดันต่อราคาหุ้นสื่อสารโดยเฉพาะหากราคาพุ่งขึ้นไปเกิน 3 หมื่น ลบ. ต่อใบอนุญาต
KBANK ได้เปิดตัว K-Mobile Banking Plus สำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือนเพื่อที่จะสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลและสำหรับลูกค้า K-Mobile Banking Plus ที่ได้รับการพิจารณาก่อนหน้าว่ามีโอกาสจะเป็นลูกค้าในอนาคต ซึ่งบริการนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถสมัครบริการสินเชื่อส่วนบุคคลได้จากทุกที่และทุกเวลาผ่าน K-Mobile Banking Plus โดยธนาคารคาดว่าบริการทางการเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือของธนาคารจะได้รับความนิยมมากขึ้นภายใน 2 ปี นอกจากนี้ ธนาคารได้วางแผนที่จะเปิดบริการคล้ายๆกัน เช่น การสมัครบัตรเครดิต ในแผนขั้นต่อไป (The Nation)
ต่างประเทศ :
ราคาน้ำมันที่ผันผวนและความปั่นป่วนในตลาดตราสารหนี้สหรัฐยังคงเป็นประเด็นหลัก ก่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่คาดว่าจะประกาศในวันพุธนี้ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนี ตลาดหุ้นสหรัฐดีดกลับหลังจากที่ขาดทุนก่อนหน้าเมื่อวันจันทร์โดยปิดเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งขึ้นในขณะที่นักลงทุนรอการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังจากการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ในวันพุธ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง (Reuters)
ตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงยังคงเรื่องที่ต้องกังวลเป็นอย่างมาก กองทุนจังค์บอนด์ที่บริหารโดย Third Avenue Management ตกฮวบลงในสัปดาห์ก่อนและบริษัทแจ้งว่าซีอีโอของบริษัทตัดสินใจจะลาออก มีกองทุน ETF บางกองที่ถือพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงซึ่งไม่เกี่ยวกับกลุ่มพลังงานถูกเทขายอย่างหนัก ตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงหรือจังค์บอนด์เป็นตลาดที่เปราะบางต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมากที่สุด (Reuters)
เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 83% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จากปัจจุบันที่ 0% อยู่ที่ 0.25% จากข้อมูลของ CME Group’s FedWatch การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธหลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายเป็นเวลา 2 วันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแน่นอนในสายตาของนักลงทุน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงต่ำสุดนับแต่ปี 2551 ท่ามกลางความคาดหวังว่าภาวะน้ำมันที่ล้นตลาดจะเพิ่มขึ้นในอีกหลายเดือนถัดไป (Reuters)
ประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB กล่าวว่าธนาคารน่าจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% โดยไม่มีความล่าช้าอีก หลังจากการผ่อนคลายทางการเงินในเดือนก่อน เขากล่าวเพิ่มเติมว่าไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับเครื่องมือที่ธนาคารจะใช้ภายใต้ข้อบังคับที่จะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อ (Reuters)
จำนวนผลผลิตทางอุตสาหกรรมในยุโรปเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดในเดือนต.ค. โดยหลักมาจากผลผลิตของสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคที่คงทน ผลผลิตทางอุตสาหกรรมใน 19 ประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้น 1.9% YoY ในเดือนต.ค. นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% และ 1.3% ตามลำดับ (Reuters)
เอเชีย :
พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่าจะคงการเติบโตของเศรษฐกิจจีนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในปี 2559 โดยจะกระตุ้นให้ความต้องการใช้ในประเทศขยายตัว พร้อมๆ ไปกับการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาผลิตภาพในระยะยาว (Reuters)
การใช้จ่ายการคลังของจีนขยายตัว 25.9% YoY ในเดือน พ.ย. ขณะที่รายรับการคลังเพิ่มสูงขึ้น 11.4% หากพิจารณาตัวเลข 11 เดือนที่ผ่านมา พบว่าตัวเลขการใช้จ่ายดังกล่าวขยายตัว 18.9% YoY ขณะที่รายรับการคลังเพิ่มสูงขึ้น 8.0% ทั้งนี้แผนการใช้จ่ายดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจในภาวะชะลอตัวปัจจุบัน (Reuters)
บริษัทผู้ประกอบการญี่ปุ่นมีมุมมองต่อการลดลงของเงินเฟ้อจากช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และนำไปสู่ข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพของมาตรการ QE ขนาดใหญ่ของ BOJ โดยผลสำรวจของ BOJ ต่อบริษัทผู้ประกอบการในญี่ปุ่พบว่าสะท้อนเป็นการขยายตัวของดัชนี CPI โดยเฉลี่ยเพียง 1.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งลดลงจากผลสำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อนที่มองว่าดัชนี CPI จะขยายตัว 1.2% (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบดีดกลับจากจุดต่ำสุดรอบหลายปี จากการปิดสถานะชอร์ตเนื่องจากเห็นว่าตลาดร่วงเร็วเกินไป ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ปิดที่ 36.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังช่วงแรกหล่นลงไปแตะ 34.53 ดอลลาร์ Brent ลง 0.03% ปิดที่ 37.92 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังลงไปแตะ 36.33 ดอลลาร์หรือจุดต่ำสุดนับแต่ ธ.ค. 51 หากร่วงไปต่ำกว่า 36.20 ดอลลาร์จะเท่ากับว่าเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี 47 (Reuters)
ราคาทองร่วงวันจันทร์ จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นล่วงหน้าการประชุม Fed ซึ่งคาดว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ ทองตลาดจรอ่อนลง 0.4% มาอยู่ที่ 1,069.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองล่วงหน้าสหรัฐส่งมอบ ก.พ. ลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 1,070.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331