- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 December 2015 17:48
- Hits: 1944
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
กดดันจากเฟดและราคาน้ำมันที่กำลังหาจุดต่ำ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลง หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง และตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบ 9 ปี ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.76%, -2.21%, -1.94%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง จากแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -2.44%, -2.22%, -1.84%, -1.84%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.93 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงกว่าอุปสงค์
ตลาดหุ้นไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงเช้าตามตลาดหุ้นภูมิภาค ซึ่งถูกกดดันจากกลุ่มสื่อสาร ธนาคาร (MSCI ประกาศถอดหุ้น BBL ออกจาก MSCI Global Standard โดยจะปรับน้ำหนักวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.) และกลุ่มพลังงาน โดย ราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่กลุ่ม OPEC รายงานการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 230,000 บาร์เรล/วันในเดือน พ.ย. สู่ระดับ 31.70 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี อีกทั้งเดิม OPEC ได้คาดการณ์ว่ากลุ่ม Non OPEC จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 280,000 บาร์เรล/วัน ในปี 2558 แต่ล่าสุดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2558 จากรายงานว่า จีน สหรัฐ บราซิล และรัสเซีย ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงกดดันทั้งฝั่งตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างหนักในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานทุก ๆ ตลาดยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิคของราคาน้ำมัน Brent จะมีแนวรับอยู่แถว ๆ $33-30 ทางฝั่ง UN ได้รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2559 ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9% และขยายตัว 3.2% ในปี 2560 ส่วนปีนี้อาจทำได้เพียง 2.4% จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่สะดุดลง
ส่วนยูโรโซนถึงแม้รายงาน GDP 3Q15 +0.3% QoQ และ +1.6% YoY แต่ตัวเลข CPI เดือน พ.ย. ของเยอรมนีกลับเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% MoM และ 0.3% YoY จากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ตลาดหุ้นโลกยังมีความกังวลจากการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 ธ.ค. ซึ่งหากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยย่อมส่งผลกระทบแง่ลบในระยะสั้นต่อตลาดหุ้น แต่ปัจจุบันคาดว่าตลาดหุ้นโลกได้รับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นทั้งในเดือนต.ค. และพ.ย. ที่ผ่านมา และจาก Probability ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตาม Bloomberg อยู่ที่ ราวๆ 80% (เดือน ก.ย. อยู่ที่ประมาณ 45%) และสำหรับไทยยังคงต้องติดตามการประมูลคลื่น 900MHz ซึ่งเราคาดว่า ADVANC และ JAS ต้องการคลื่นดังกล่าว แต่หาก TRUE หรือ DTAC สู้ราคาด้วยอาจทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงและกลับมาเป็นประเด็นกดดันกลุ่ม Telecom ได้อีก ทำให้ Sentiment ช่วงนี้ควรหลบไปกลุ่มท่องเที่ยวเนื่องจากสั้นๆ ได้ประโยชน์จากประเด็น EASA และ Seasonal Factor ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะปรับตัวลงจากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปัจจัยตลาดหุ้นโลก ทั้งนี้พิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิคจะมีแนวรับอยู่แถว ๆ 1,250-1,225 จุด แนะนำ ทยอยซื้อลงทุนเพื่อหวังผลดีดกลับได้
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : รอซื้อ บางส่วนแถว ๆ 1,250 จุด เพื่อหวังผลดีดกลับ
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]