WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: ต่ำกว่า 1280 เน้นการเข้าซื้อ
  SET Index: 1254.36 ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำใหม่ต่อเนื่องหลังจากหลุดแนวรับที่ 1300 และ 1280 จุดลงไป ทำให้โครงสร้างการเคลื่อนไหวของ SET Index ในระยะยาวดูเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1220 จุดตามกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างรายสัปดาห์ที่มีแนวรับสำคัญที่ 1280 จุด จึงทำให้การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1280 จุดลงไป ควรเน้นการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากการปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบนี้กำลังหาจุดต่ำสุดของคลื่นขาลงในระยะยาว เพื่อการฟื้นตัวในรอบถัดไป
  แนวต้าน : 1260 และ 1270
  แนวรับ : 1254 และ 1250

CPALL = 41.00 / 42.00, PTT = 207 / 212, KBANK = 150 / 154, TKN = 8.00 / 8.20, ADVANC = 188 / 192

Bangkok Bank (BBL TB; THB 145.00) – ซื้อ
  แนวต้าน : 150 และ 154
  แนวรับ : 145 และ 144
  ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น
  MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 20
  แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 145 และ 144 และมีแนวต้านที่ 150 และ 154 เป็นจุดขายทำกำไร
  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 142 จะมีแนวรับถัดไปที่ 135

True Corporation (TRUE TB; THB 7.35) – ซื้อ
  แนวต้าน : 8.00 และ 8.40
  แนวรับ : 7.35 และ 7.30
  ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาลงไปทดสอบแนวรับที่ 7.30 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมากหลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ระดับ 8.00 ลงไป แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นที่แนวรับสำคัญ
  MACD เคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 20
  แนะนำซื้อ TRUE โดยมีแนวรับที่ 7.30-7.35 และมีแนวต้านที่ 8.00 และ 8.40 เป็นจุดขายทำกำไร
  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.20 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 6.80

SET50 Index Futures
  S50Z15 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 800 ในช่วงเปิดตลาดแต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และจุดต่ำสุดเดิมที่ 796 สามารถคาดหวังการฟื้นตัวในระยะสั้นได้ เนื่องจากการปรับตัวลดลงต่ำกว่า 840 จะเป็นการหาจุดต่ำสุดก่อนที่จะฟื้นตัวในระยะยาว
  แนวต้าน : 808 และ 814
  แนวรับ : 796** และ 790
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ที่บริเวณแนวรับ 800 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 820 และ 828
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50Z15 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 796

JASZ15
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่ 4.20 หลังจากถูกขายทำกำไรที่แนวต้าน 4.70 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิมกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.60 และ 4.90 แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 4.20 จะมีแนวรับถัดไปที่ 4.00
  แนวต้าน : 4.50 และ 4.60
  แนวรับ : 4.36 และ 4.30
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน JASZ15 ที่แนวรับ 4.36 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.60 และ 4.90
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASZ15 ปรับตัวลดลงหลุด 4.20 ลงไป

TRUEZ15
  ปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 8.00 ลงไป แต่เมื่อพิจารณาปริมาณการซื้อขายที่ไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาวที่ 7.30 สามารถคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ โดยมีแนวต้านที่ 8.00 และ 8.40
  แนวต้าน : 7.50 และ 7.70
  แนวรับ : 7.30 และ 7.26
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TRUEZ15 ที่แนวรับ 7.30 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TRUEZ15 ปรับตัวลดลงหลุด 7.20 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ราคาน้ำมันยังกดตลาด
  ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ เบรนท์ กลับดิ่งลงสร้างสถิติต่ำสุดใหม่ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ WTI ลงไปสร้างจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2009 ที่ 35.3 ส่วนเบรนท์ลงไปที่ 37.36 ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2008 ราคาน้ำมันในระดับที่เป็นอยู่ผู้ผลิตเกือบทุกโซนทั่วโลกในตอนนี้ถือว่าขาดทุน จากข้อมูลของ Thomson Reuters แสดงจุดคุ้มทุนของราคาน้ำมันในประเทศกลุ่ม OPEC และ Non OPEC ของปี 2015 พบว่าจุดคุ้มทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 55 ดอลลาร์ต่อบารเรล์


  ประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนคือ หากราคาน้ำมันยังไหลลงต่อเนื่องลงไปอีก จะส่งผลให้ ตราสารหนี้ที่ออกมาจากผู้ผลิตน้ำมัน อย่าง High yield (Junk bond) Corporate bond อาจจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Default) หรือบริษัทผู้ผลิตน้ำมันเองอาจถูกปรับลดน้ำหนักจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปต่ำกว่าเกรดการลงทุน เพราะตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทผลิตน้ำมันนับตั้งแต่ปี 2010 มีสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่แปลกที่ความกังวลเรื่องราคาน้ำมันจะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก


  ในตลาดหุ้นสหรัฐเอง ดัชนีดาวโจนส์ลงไปกว่า 300 จุด นำลงโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและแรงขายตราสารหนี้ที่ผูกติดกับราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง และยังไม่รู้ว่าจะลงไปต่ำสุดที่เท่าไร แต่หากมาดูการพยากรณ์ราคาน้ำมันในจุดต่ำสุดรอบนี้ ส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่ที่ 35 และ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนในทางเทคนิคมองว่าในช่วงสั้นคือสิ้นสุดสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันหากลงไปทดสอบ 35+/- ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้วไม่หลุด ราคาน้ำมันมีโอกาศจะดีดกลับมาที่ประมาณ 40+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์


  ปัจจัยภายในยังไม่มีอะไรที่โดดเด่น ประเด็นกดดันตลาดยังคงใช้ปัจจัยเดิมๆ ในการเล่น โดยแรงขายยังคงกระจุกในหุ้นใหญ่ในกลุ่ม พลังงานและธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก แรงกดดันภายใน เรามองว่าจะยังเป็นปัจจัยหลักในการกดดัชนีต่อไปอีกระยะ ส่วนประเด็นภายนอกเรื่องราคาน้ำมัน คงต้องรอลุ้นว่าราคาน้ำมันลงมาในระดับ 35+/- ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้วดีดกลับหรือไม่หรือลงต่อก็คงไปรอที่ 30+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์
  ดัชนี SET ที่ลงไปต่ำกว่า 1300 จุด ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีกับตลาด แต่หากสามารถขึ้นมาปิดเหนือ 1300 จุดได้อย่างรวดเร็วถือว่าไม่มีปัญหา สัญญาณที่เรามองว่าดัชนีน่าจะเริ่มทรงๆ ตัว คือ สัดส่วนของ MSCI Thailand เทียบกับ MSCI Asia Ex Japan ในปัจจุบันเริ่มลงมาใกล้ระดับในเดือน ธ.ค. 2013 (รูปด้านซ้าย) ซึ่งมองว่าน่าจะเพียงพอในการลงของรอบนี้ ส่วนปัจจัยบวกภายนอก คือ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนในเดือน พ.ย. ที่ประกาศในวันเสาร์ที่ผ่านมา ออกมาดีกว่าคาด สำหรับผลของแรงกดดันจากปัจจัยภายใน สามารถดูได้จาก รูปด้านขวา ที่ดัชนี SET ลงไปลึกสุด นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ถึงปัจจุบันหรือหลัง MSCI Rebalancing คือลงไปแล้ว -5.6% เทียบ ธ.ค. 2013 ที่ -6.2%


  วันนี้มองดัชนี SET ยังคงต้องเผชิญแรงขายจากความผันผวนของดัชนีในภูมิภาครวมทั้งราคาน้ำมัน โดยน่าจะกลับลงไปเล่นในแดนลบต่อเนื่อง โดยวันนี้แนวรับอยู่ที่ 1270-1265 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1286-1290 จุด

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,254.36 จุด ลดลง 26.56 จุด(-2.07%) มูลค่าการซื้อขาย 21,915.47 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงแรง ตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลังราคาน้ำมันยังลงต่อเนื่อง และนักลงทุนกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (16 ธค.) บ้านเราเช้านี้มีแรงขายนำในหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และสื่อสาร


Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้ากลับไปยืนเหนือ 1262 จุดได้ จะเกิดสัญญาณรีบาวน์ทางเทคนิค ในภาพใหญ่ SET ยังถูกกดดันจากปัจจัยลบใหญ่ 3 เรื่อง 1) การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 2) การลดลงของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ 3) การประมูล 4G ทำให้เกิดการ Short หุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าปัจจัยลบดังกล่าวน่าจะมีความชัดเจนหลังวันที่ 16 ธ.ค. ทำให้มองว่า SET น่าจะใกล้ถึงจุดต่ำสุดในการลงรอบนี้แล้ว โดยเรามองว่าหากวันนี้ SET สามารถกลับมายืนเหนือ ระดับ 1262 จุดได้ จะมีลุ้นเกิดการรีบาวน์ทางทคนิคเป็นอย่างน้อย มองหุ้นใหญ่กลุ่ม ธนาคาร, รับเหมา, ท่องเที่ยว น่าจะเป็นกลุ่มนำในการฟื้นตัว ส่วนเก็งกำไรหุ้นกลาง เราเลือก SMPC,ILINK,BA,EPG,COM7 โดยมีประเด็นเรื่องผลการดำเนินงาน Q4 หนุน

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  Bangkok Bank (BBL TB; THB 145.00) - ซื้อ
  True Corporation (TRUE TB; THB 7.35) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected] 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!