- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 December 2015 13:36
- Hits: 3551
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เน้น Selective Buy กลุ่มที่คาดแข็งแกร่งกว่าตลาด : ท่องเที่ยว (ERW), Hire Purchase (TCAP), ค้าปลีก (ROBINS)
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: คลังเตรียมเสนอ ครม. สัปดาห์หน้า ตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์
(+) Int Factor: SET ปัจจุบันเทรด PER16F เพียง 12.67 เท่า ต่ำกว่าLT Avg PER 14 เท่า
(+) Int Factor: คาดเม็ดเงิน LTF เดือนสุดท้าย ช่วยจำกัด Downside Risk
(*) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.9% สู่ $37.99/bbl / Brent -1.15% สู่ $40.26/bbl
(*) China Econ: วันนี้จับตา CPI จีน เดือน พ.ย. คาด +1.4% จาก +1.3%
(-) China Econ: ดัชนีการส่งออก พ.ย. ที่ระดับ -6.8%y-y อ่อนแอมากกว่าคาดที่ -5%y-y
(-) Fund Flow: ต่างชาติขาย 352 ลบ., Short Future 4414, ขาย Bond 7397 ลบ.
SET PER 15F: CNS 14.11x (EPS 92.5) vs Cons.14.77x (LT-Avg 14.0x)
2016 SET Target: CNS Base 1628 pts (EPS 105, PER15.5x)
Nomura Daily Top Picks: ERW, TCAP, ROBINS
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อแล้วลุ้นรีบาวด์ ในกรอบแนวรับ 1301/1292 จุด และแนวต้าน 1315/1324 จุด การรายงานดัชนีการส่งออกจีน เดือน พ.ย. วานนี้ ที่หดตัว -6.8%y-y ต่ำกว่า consensus คาดที่ –5%y-y กดดันเพิ่มเติมต่อภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีโอกาสชะลอตัวลงต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ผสานกับราคาน้ำมันที่ยังคงแกว่งตัวในระดับต่ำ (ต่ำสุดในรอบ 6 ปี) ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันหุ้น ENERGY โดยเฉพาะ Upstream โดยวันนี้แนะติดตามการรายงานดัชนีเงินเฟ้อจีน เดือน พย. ซึ่ง consensus คาด ที่ +1.4% จากเดือนก่อนที่ +1.3% เป็นปัจจัยสำคัญที่น่าติดตาม ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังคงมีความคืบหน้าของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง โดยวานนี้ ครม.มีการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระบวนการถัดไปรอ TOR และคาดจะเปิดประมูลกลางปี 2016 และคาดแล้วเสร็จปี 2022 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะกลาง-ยาว
ส่วนในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า (15 ธ.ค.) คาดจะมีการการเสนอโครงการไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ วงเงินเบื้องต้นประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตามที่ครม.ได้อนุมัติไปแล้ว ถือเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ เรายังคาดหวังเม็ดเงิน LTF ช่วงโค้งสุดท้ายของปี จะเข้ามาจำกัดพยุงตลาด บวกกับ Valuation ของ SET ณ ปัจจุบัน พบว่าเทรดเพียง PER16F 12.67 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ SET ทีระดับ 14 เท่า ถือว่าเป็นจุดที่น่าดึงดูดต่อการลงทุนในระยะกลาง-ยาว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยจำกัด Downside เพิ่มเติม
Asset allocation : หุ้น 85% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 7.5%
Short-Term Strategy : เน้นตั้งรับในกลุ่มที่คาดกำไร 4Q15 ฟื้นตัวต่อได้ เช่น กลุ่มการท่องเที่ยว (AOT, ERW, MINT, CENTEL), ค้าปลีก (ROBINS, HMPRO) ผสานหุ้น Mid-Small Caps ที่ยังคาดมีสตอรี่หนุน Outperform ตลาด เช่น กลุ่ม Hire Purchase (TCAP, TISCO), กลุ่มน้ำตาล (BRR, KSL), CI, PLANB, DCC ส่วน Theme เด่นสั้น เน้นหุ้นที่คาดมีโอกาสเข้าคำนวน SET50/100รอบใหม่ โดย SET50 Play เลือก STEC, MTLS, S, GPSC / SET100 Play เลือก EPG, VNG, PLANB, WORK, SAMTEL ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะทยอยสะสมหุ้น DEC15 Top Picks : CI, BRR, KAMART, CPALL, ROBINS, ERW สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks: ERW, TCAP, ROBINS *
Mid-Long Term Strategy : คาด SET น่าจะแกว่งบวก สู่ต้าน 1420/1450จุด โดยคาดกลุ่มนำตลาดในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มได้ประโยชน์จากฤดูกาล(CPALL, ROBINS, GLOBAL, MINT, ERW, KAMART) ผสานกลุ่มวัสดุ และอสังหาฯ (SCC, DCC, CI, SC, PS) ผสาน Mid-small Cap ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว TVT, PLANB, AMATA, BRR ส่วนหุ้นที่คาดจะ Underperform ในเดือนนี้ COAL(BANPU), MEDIA(BEC), Airline(THAI), ICT( TRUE) โดย Portfolio Top picks DEC 15 CPALL, ROBINS, CI, KAMART, BRR, ERW / Dark Horse TPCH, COM7, AMATA, SC, SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ERW (TP5.9*): Support 4.12/4.06 Resistance 4.26/4.38
Theme: Discover Thainess
Earning outlook : คาดกำไรปกติ 4Q15F ฟื้นตัวโดดเด่น 90-100 ลบ. ต่อเนื่องอีก 49%y-y ในปี 2016 ตามการท่องเที่ยวไทยที่ยังคาดว่าจะเติบโตได้ดี
Valuation : ราคาเป้าหมาย 16F ที่ 5.90 บาท ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ Mean PBV 2.2x มี Upside 41.8%
Catalyst : 4Q15F มีแผนเปิดเพิ่ม 4 โรงแรม และอีก 11 โรงแรมในปี 2016 เป็นการกระจายความเสี่ยง ขยาย Segment และ Location ของโรงแรม หนุนกำไรสุทธิเติบโตมากถึง 49 % y-y ในปี 2016F
TCAP (TP41.0*): Support 33.0/31.5 Resistance 35.0/36.5
Theme: Auto lenders offer alternatives
Earning Outlook : คาดแนวโน้มกำไร 16F ฟื้นตัวขึ้นจากการลดลงของ NPL Ratio และการฟื้นตัวของสินเชื่อรถยนต์ หนุนกำไร 16F โต 22.4%y-y ที่ระดับ 7.03 พันลบ.
Valuation : CNS ปรับราคาเป้าหมายขึ้น 8% ที่ 41 บาท ( 0.9x p/BV , 12% ROE16F, 13% COE)
Catalyst : อานิสงส์งาน Motor expo (2-13 ธ.ค.) หนุนสินเชื่อ Hire purchase ฟื้นตัว
ROBINS (TP57.0*): Support 41.5/40.0 Resistance 43/44.5
Theme: The Laggard
Earning outlook : คาดกำไร 4Q15F ที่ระดับ 654 ลบ. +64% q-q และ +10% y-y จากการควบคุม SG&A ที่ดีขึ้น รวมถึงแรงหนุนรายได้จากสาขาใหม่ที่ศรีมานและแม่สอด
Valuation : ราคาเป้าหมาย 57 บาท โดยซื้อขายที่ระดับ PER16F ต่ำเพียง 17x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 24.8x มี Upside 34% เป็น Top Pick ของกลุ่ม
Catalyst : เข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจค้าปลีกในช่วง 4Q15 หนุนผลประกอบการ 4Q15 เติบโต 64% q-q และ 10% y-y สู่ระดับ 664 ลบ.
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)