- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 December 2015 16:55
- Hits: 3104
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -158.67, NASDAQ -33.08, S&P -23.12, FTSE +25.28, CAC -8.77 และ DAX -71.22 หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ล่าสุดส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนนี้ ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟดในระยะกลาง ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน – พย. เพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง
.....อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอ (1) ผลการประชุม ECB ในวันนี้ โดยคาดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ (2) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - พ.ย. (ในวันศุกร์นี้) คาดเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ลดลงจากระดับ 271,000 ตำแหน่ง เมื่อต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%
....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. -US$1.91 อยู่ที่ US$39.94 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล (สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 489.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน
....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$9.7 อยู่ที่ US$1,053.8 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยกดดันหลังประธานเฟด ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +19 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -122,169 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : คาดยังมีความผันผวน? มีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค หลังตลาดฯ ปรับลดลงแรงวานนี้ และภายใต้ปัจจัยบวกจากการประชุม ECB ในวันนี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังส่งสัญญาณชัดเจนเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยคาดมีความเป็นไปได้ที่ ECB อาจพิจารณาเพิ่มวงเงินซื้อคืนพันธบัตร / ขยายระยะเวลาออกไป (จากวงเงินเดิม 60,000 ล้านยูโร/เดือน ถึงกย.’59 คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านยูโร) อย่างไรก็ตามคาดประเด็นดังกล่าวยังไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบโดยเฉพาะการส่งสัญญาณล่าสุดของประธานเฟดว่าเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ (15 – 16/12/58) หลังการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีทิศทางที่ดี และเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายในระยะกลางที่ 2.0%
.....ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ แม้ได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow เข้ามาบ้าง แต่มูลค่าซื้อสุทธิของต่างชาติล่าสุดยังไม่มาก และทำให้ YTD ยังมียอดขายสุทธิสะสมในระดับที่สูงกว่า 122,000 ล้านบาท ขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในช่วงปลายปี คาดมูลค่าซื้อขายอาจเบาบางลง โดยเฉพาะจากต่างชาติ อย่างไรก็ตามแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ที่คาดภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า ตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด คาดมีผลต่อทิศทางของ Fund Flow โดยเฉพาะจากตลาด Emerging Markets ขณะที่คาดยังถูกกดดันจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย ซึ่ง ธปท. มีโอกาสปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปี’58 และ 59 ลง แต่คาดอาจถูกชดเชยได้บ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง
.....ยังแนะจับตา (1) กลุ่มพลังงาน + / - ตามราคาน้ำมัน (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดยเฉพาะ ITD, CK, STEC และ UNIQ จากโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทาง ถ.จิระ – ขอนแก่น วงเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท หลังผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ) ทั้ง 4 ราย และ รฟท. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ในวันที่ 8/12/58 และ (3) กลุ่มการบิน ที่คาดภาพรวมได้รับผลกระทบจากการที่ FAA (Federal Aviation Administration) ซึ่งเป็นสำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐฯ ปรับลดอันดับไทยจาก Category 1 (CAT1) เป็น Category 2 (CAT2) หลัง FAA ระบุมาตรฐานปัจจุบันของไทยยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
....รวมถึงติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, STEC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 35.86 – 35.88 อ่อนตัวลงเล็กน้อย และคาดระยะกลางมีโอกาสอ่อนค่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งตามสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC, SCCC และ TASCO เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL) และหุ้นกลุ่มขนส่ง (เช่น AAV, AOT) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วง High season ใน 4Q/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 2.18% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.24 อยู่ที่ 15.91
หุ้นแนะนำ : ANAN
ประเด็นที่ต้องติดตาม (3 – 4 ธ.ค.’58)
3/12/58 : ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - พ.ย. (3) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - ต.ค. (4) ดัชนี PMI ภาคบริการ - พ.ย.
4/12/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - พ.ย. (2) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - ต.ค
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788