- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 December 2015 16:45
- Hits: 1031
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้น
แม้ SET ยังอ่อนแอกว่าคาดมาก แต่ยังลุ้นรีบาวด์ได้ จึงน่าถือรอ
กลยุทธ์ : SET ยังไหลลงต่อเนื่องในลักษณะที่อ่อนแอกว่าที่เราคาดไว้มากพอควร ทำให้ยังมีสิทธิอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตาม FSS ยังคาดหมายว่าในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้ SET ยังมีโอกาสแกว่งไต่ระดับกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาตลาดตอบรับข่าวลบต่างๆ ไปพอควรแล้ว ดังนั้นเรายังแนะนำให้ถือไว้ก่อน เพื่อรอขายช่วงบวกดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : DTAC, BDMS, ANAN(buy back)
แนวโน้ม : ภาคบ่ายวานนี้ SET มีแรงขายหนักหน่วงมากขึ้นโดยยังไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดัน แต่คาดว่าน่าจะมาจากความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่กดดันตลาดอยู่แล้วทำให้แรงซื้อในตลาดหดตัว ดังนั้น SET จึงไหลลงเร็วเมื่อมีแรงขายทำกำไรออกมา ขณะที่เช้านี้คาดว่า SET จะยังถูกกดดันต่อเนื่อง หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลงแรงพอควร จากการที่ประธานเฟดยังส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ (15-16 ธ.ค.) นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงแรงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วย เนื่องจาก EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดทำการมาก็ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงเช่นกัน ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังอยู่ระหว่างแกว่งตัวลบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแรงซื้อเก็งกำไรผลประชุม ECB ในวันนี้ และความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับเม็ดเงิน LTF/RMF ช่วงท้ายปีน่าจะมีเข้ามาช่วยหนุน SET ได้บ้าง จึงยังแนะนำให้ถือเพื่อรอขายช่วงบวกก่อนได้
แนวรับ 1336-1333 , 1330-1324 จุด
แนวต้าน 1345-1350 , 1355-1365 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$307 ล้าน โดยส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$247.8 ล้าน ตามด้วยอินโดนีเซีย US$25.2 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทยประเทศเดียวแต่จำนวนไม่มาก US$0.5 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนยังมีทิศทางไหลออกตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องภายหลังคำแถลงของประธาน Fed เมื่อคืนนี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ยังไม่เพิ่มพอร์ต การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 15-16 ธ.ค. ของ Fed ประกอบกับเหตุกราดยิงในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย กดดันบรรยากาศการลงทุนให้แย่ลงไปอีก ขณะที่ความคาดหวัง QE ของ ECB ในการประชุมวันนี้เป็นข่าวดีเพียงข่าวเดียวในระยะนี้แต่ไม่อาจหักล้างข่าวลบได้หมด แนวโน้มเงินดอลลาร์แข็งค่า เป็นลบกับน้ำมัน (กลุ่มพลังงาน) ทองคำ และตลาดหุ้น ระยะสั้นยังไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ต ยกเว้นเก็งกำไรกลุ่มรับเหมาที่กำลังจะประมูลรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น 8 ธ.ค. และกลุ่มไฟแนนซ์
(+) TKN เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายแปรรูปภายใต้แบรนด์ เถ้าแก่น้อย มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงสุดที่ 62% โดยขายในประเทศ 57% และส่งออก 43% ปัจจัยหนุนการเติบโตของบริษัทในช่วง 2-3 ปีนี้คือ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เพื่อรองรับการรุกตลาดส่งออกโดยเฉพาะในแถบเอเชีย คาดกำไรสุทธิปี 2015 เติบโต 84% Y-Y และภายหลังเริ่มรับรู้กำลังการผลิตใหม่ภายในปี 2016 และจะรับรู้เต็มปีในปี 2017 เราคาดกำไรสุทธิปี 2016-18 โตต่อเนื่องเฉลี่ย 15.5% ประเมินราคาเป้าหมายปี 2016 เท่ากับ 5.70 บาท (อิง PE 19 เท่า) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ TKN)
(+) SAWAD เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2016 ขึ้น 12% เป็น 1,756 ลบ. (+32% Y-Y) โดยปรับเพิ่มการเติบโตของสินเชื่อจาก 30% เป็น 35% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันที่หลากหลายขึ้น รวมถึงแผนการเปิดสาขาอีก 400 สาขาเป็น 2,000 สาขา การเพิ่มผลิตภัณฑ์และเพิ่มธุรกิจติดตามหนี้ (มีแผนซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 1-2 พันล้านบาท) และคาด NPL Ratio น่าจะทรงตัวที่ 3-4% เราปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 55 บาท อิง PE to Growth 1.2 เท่า (PE 30 เท่า) คงคำแนะนำซื้อ
(0) หุ้น SET50/SET100 ชุดใหม่งวด ม.ค.-มิ.ย. 2016 คาดประกาศสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้ เราคาดการณ์หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ SET50 มี 5 ตัวคือ BAY, BIGC, BLA, SCCC, TASCO และออกได้แก่ BMCL, CBG, JAS, SAWAD, THCOM ส่วน SET100 หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณมี 17 ตัวได้แก่ BAY, BIGC, BLA, EPG, GL, GPSC, IFEC, MTLS, PLANB, PLAT, PTG, SCCC, SCN, SUPER, TASCO, VNG, WORK ขณะที่หุ้นที่เอาออกมี ASP, BJCHI, CKP, DEMCO, ERW, GFPT, GLOBAL, LOXLEY, MC, MONO, PSL, SAPPE, SF, SGP, TICON, U, UV
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบกว่า 150 จุดหลังประธาน FED ส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสมหลังตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนอ่อนแอ อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูการประชุม ECB ว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น รวมถึงถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรง
(-) ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.78-35.90 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดที่ 39.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที รวมถึงการยืนยันของประธาน FED ว่าพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,053.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังประธาน FED ยืนยันว่าพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังรอดูผลการประชุม ECB วันนี้เช่นกัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3-ธ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.), TKN เริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: ECB Press Conference, Markit Eurozone PMI (พ.ย.)
- สหรัฐฯ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ISM นอกภาคการผลิต (พ.ย.)
4-ธ.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (พ.ย.)
- OPEC ประชุม
8-ธ.ค. - ไทย: SPRC เริ่มเทรด (ราคา IPO 9 บาท), ร.ฟ.ท.เปิดประกวดราคาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 2.6 หมื่นลบ.
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q15 GDP
- ยูโรโซน: 3Q15 GDP
10 ธ.ค. - ไทย: EASA ประกาศผลตรวจสอบมาตรฐานการบินของไทย
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
15-ธ.ค. - ไทย: ประมูล 4G คลื่น 900 MHz
16 ธ.ค. - ไทย: กนง.ประชุมครั้งสุดท้ายของปี, AMATAV เทรด (ราคา IPO 7.50 บาท)
21 ธ.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ย.)
22-ธ.ค. - สหรัฐ: 3Q15 GDP (ตัวเลขสุดท้าย) , ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch